ทั้งนี้ ข้อมูลจากงานวิจัยเผยว่า ควรบริโภคสารโปรแอนโทไซยานิดินส์หรือ PAC จากแครนเบอร์รี่ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 36 มิลลิกรัม
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารโพลีฟีนอลที่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น สารโพลีฟีนอลอย่างสารโปรแอนโทไซยานิดินหรือสารแพคที่อาจช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์แกมมาเดลต้า T (γδ T เซลล์) และเอ็นเคเซลล์ (NK Cell) ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันและกำจัดเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์ที่ติดเชื้อ ช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันแบบเยื่อเมือก เช่น ภายในโพรงจมูก ทั้งยังช่วยลดการหลั่งสารชักนำการอักเสบ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งเผยว่า ผลดีดังกล่าวอาจช่วยลดอาการของโรคไข้หวัดธรรมดา โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคภูมิแพ้ได้

บริโภคแครนเบอร์รี่อย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ
โดยทั่วไป การบริโภคแครนเบอร์รี่ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไตได้
แครนเบอร์รี่สดมีกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับยาแอสไพรินที่ช่วยบรรเทาปวด ลดการอักเสบ ผู้ที่มีอาการแพ้ยาแอสไพรินจึงควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคแครนเบอร์รี่อย่างระมัดระวัง หากบริโภคแล้วมีอาการแพ้ เช่น ผิวหนังแดง มีผื่นคัน น้ำมูกไหล หายใจลำบาก ควรหยุดบริโภคและไปพบคุณหมอหากอาการรุนแรง อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงนี้ไม่พบในผู้ที่รับประทานแครนเบอร์รี่ในรูปแบบสารสกัดที่ไม่มีกรดซาลิไซลิกเป็นส่วนประกอบ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย