โดยทั่วไปแล้ว ปลาเป็นแหล่งโปรตีนและวิตามินบีที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานตลอดทั้งวันตัวอย่างปลาที่เป็นอาหารให้พลังงานสูงและดีต่อสุขภาพ เช่น ปลาแซลมอนรมควันปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 117 กิโลแคลอรี อีกทั้งปลายังมีไขมันดีอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ทั้งนี้ ควรรับประทานปลาอย่างน้อย 2 มื้อ/สัปดาห์ โดยให้มีปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาทู ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลากะพง อย่างน้อย 1 ส่วน หรือ 140 กรัม/มื้อ
มันเทศต้มสุกปอกเปลือกปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 76 กิโลแคลอรี เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีใยอาหารสูง จึงย่อยได้ช้าและให้พลังงานแก่ร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก นอกจากนี้ มันเทศยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นอิเล็กโทรไลต์ธรรมชาติที่เข้มข้น ช่วยปรับสมดุลของน้ำและเกลือแร่ และช่วยให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายเป็นปกติ
อาหารที่ให้พลังงานสูง ที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่ให้พลังงานสูง ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานแต่น้อย อาจมีดังนี้
- คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี (Refined carbohydrates) หรือคาร์โบไฮเดรตแปรรูป เช่น ขนมปังขาว พาสต้าขาว ข้าวขาว เนื่องจากมีใยอาหารต่ำกว่าธัญพืชที่ยังไม่ผ่านการขัดสี ทำให้ถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วกว่า จึงอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงฉับพลัน และส่งผลให้ระดับพลังงานลดลงอย่างรวดเร็ว จนหิวเร็วขึ้น
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ซีเรียล โยเกิร์ต ไอศกรีม โดนัท ขนมเค้ก น้ำอัดลม เป็นอาหารที่มีใยอาหารน้อยหรือไม่มีเลย เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้ระดับอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่คอยพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานแปรปรวน จึงอาจทำให้ยิ่งรู้สึกอยากอาหารที่มีน้ำตาล จนส่งผลให้รับประทานอาหารบ่อยขึ้น
- อาหารที่มีไขมันสูง เช่น หมูกรอบ เบคอน เนื้อสัตว์ น้ำมันสัตว์ เนย นม ครีม เนื้อสัตว์ติดมันติดหนัง แม้จะให้พลังงานสูง แต่ก็อาจทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายและในหลอดเลือดมากเกินไป จนเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน นอกจากนี้ ไขมันยังอาจกระตุ้นการหลั่งเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกเฉื่อยชาและเหนื่อยล้ากว่าปกติ
ปริมาณพลังงานที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
ปริมาณพลังงานที่ได้รับจากอาหารมีหน่วยวัดเป็น กิโลแคลอรี (Kcal) หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า แคลอรี (Calorie) โดยปริมาณพลังงานพื้นฐานที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ได้แก่
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย