- ธัญพืชไม่ขัดสีเต็มเมล็ด เช่น ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวโอ๊ต เมล็ดเจีย ควีนัว เมล็ดทานตะวัน
- พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วชิกพี อัลมอนด์
- ผลไม้ เช่น เบอร์รี่ แอปเปิ้ลไม่ปอกเปลือก ส้ม ลูกแพร์ กีวี ลูกพรุน มะเดื่อ
- ผัก เช่น แครอท บร็อคโคลี่ ถั่วลันเตา กระหล่ำปลี ถั่วฝักยาว คะน้า ผักกาดขาว
ดื่มน้ำมากขึ้น
ควรดื่มน้ำและของเหลวอื่น ๆ เช่น น้ำผักและผลไม้ไม่ใส่น้ำตาล น้ำชา ซุป ให้มากขึ้น โดยผู้หญิงควรดื่มน้ำประมาณ 2.7 ลิตร/วัน และผู้ชายควรดื่มน้ำประมาณ 3.7 ลิตร/วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการสูญเสียเหงื่อและความเข้มข้นของการทำกิจกรรมในแต่ละคน หากเสียเหงื่อมากอาจจิบน้ำเพิ่มขึ้นอีก 200-300 มิลลิลิตร เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป ซึ่งการดื่มน้ำอย่างเพียงพออาจช่วยให้ใยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้อุจจาระนุ่มและขับถ่ายง่ายขึ้นด้วย
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายสามารถช่วยเพิ่มการบีบตัวและการเคลื่อนไหวของลำไส้ ซึ่งส่งผลดีต่อการลำเลียงของเสียในระบบย่อยอาหาร ดังนั้น ควรออกกำลังกายความเข้มข้นปานกลาง เช่น แอโรบิก เดินเร็ว เต้น ประมาณ 150 นาที/สัปดาห์ หรือวันละ 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์ เพื่อช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทั้งยังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
อาหารที่คนท้องผูกควรหลีกเลี่ยง
เมื่อมีอาการท้องผูกควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีเส้นใยน้อยหรือไม่มีเลย เช่น มันฝรั่งทอด อาหารจานด่วน เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง อาหารปรุงสำเร็จ อาหารแปรรูปต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมวัว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแลคโตสสูง เช่น โยเกิร์ต ครีม ชีส เนื่องจาก การดื่มนมวัวและการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีแลคโตสสูง อาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร การทำงานของลำไส้ ทั้งยังทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย