คุณรู้หรือไม่ว่า “ตะไคร้’ ที่เป็นหนึ่งในเครื่องแกงของเมนูต้มยำ จะสามารถนำมาทำดัดแปลงให้อยู่ในรูปแบบของเครื่องดื่มได้ ซึ่งวันนี้ Hello คุณหมอ จะขอพาทุกคนมารู้จักกับ สูตรชาตะไคร้ ชาสมุนไพรพื้นบ้านบำรุงสุขภาพ ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง มาฝากกันค่ะ
ประโยชน์ของชาตะไคร้
ตะไคร้ (Lemongrass) เป็นพืชสมุนไพรยืนต้น ที่สามารถนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นอะโรมา และรสชาติได้มีความหอม เข้มข้นมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมวิตามินมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก โฟเลต ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางสุขภาพได้ ดังนี้
1. ลดอาการวิตกกังวล
การจิบชาร้อน ๆ ยามที่คุณมีเรื่องกังวลใจนับว่าเป็นทางออกที่ดีที่อาจทำให้คุณผ่อนคลายมากขึ้น ยิ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของตะไคร้แล้วนั้น อาจเพิ่มประสิทธิภาพให้อาการวิตกกังวล ความเครียดของคุณที่เกิดขึ้นให้ลดลงไปได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรยังคงจำเป็นต้องมีการพิสูจน์เพิ่มเติม เพื่อการยืนยันอย่างชัดเจนว่ากลิ่นเฉพาะตัวของตะไคร้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการคลายความเครียดได้จริง
2. เพิ่มระดับเซลล์เม็ดเลือดแดง
จากการศึกษาในปีพ.ศ. 2558 แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ดื่มชาตะไคร้ทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน สามารถเพิ่มระดับความเข้มข้นของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) และจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายได้ ที่สำคัญยังอาจสามารถปกป้องคุณให้ห่างจากภาวะโรคโลหิตจางได้ด้วยเช่นกัน
3. ปรับปรุงสุขภาพช่องปาก
แร่ธาตุ และวิตามินที่อยู่ภายในตะไคร้ อาจมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระที่นำไปสู่การอักเสบของเหงือก และฟันในช่องปากของคุณได้ อีกทั้งยังมีการค้นพบผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารไว้ว่า ตะไคร้อาจมีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดอาการฟันผุได้อีกด้วย
4. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร
สมัยก่อนนั้นผู้คนส่วนใหญ่มักนำตะไคร้ไปสกัดเป็นยาโบราณไว้รักษาผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารต่าง ๆ เนื่องจาก ตะไคร้มีสารประกอบชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ซิทรัล (Citral) ซึ่งสารนี้มีบทบาทหน้าที่ในการช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องผูก หรืออาหารไม่ย่อย เป็นต้น
สูตรชาตะไคร้
วัตถุดิบในการทำชาตะไคร้
- ตะไคร้ 1-2 ต้น
- น้ำมะนาว (ปริมาณตามความชอบ โปรดระวังรสชาติที่เปรี้ยวจนเกินไป)
- น้ำเชื่อม (ปริมาณตามความชอบ โปรดระวังรสชาติที่หวานจนเกินไป)
วิธีทำชาตะไคร้
1. นำตะไคร้ที่คุณทำการเตรียมไว้มาชำระล้างให้สะอาด
2. จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1-1/2 นิ้ว โดยเลือกใช้เพียงแค่ส่วนใบของตะไคร้เท่านั้น
3. ต้มน้ำสะอาดให้เดือด จากนั้นปิดเตาแก๊ส และใส่ใบตะไคร้ที่คุณได้หั่นไว้ลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
4. เทลงใส่แก้ว หรือภาชนะที่คุณเตรียมไว้ และรับประทานได้ทันที
หากคุณรู้สึกว่ารสชาติของชาตะไคร้คุณจืดจนเกินไป คุณสามารถปรับแต่งรสชาติได้ด้วยการเติมน้ำมะนาว หรือน้ำเชื่อมเล็กน้อยได้ ซึ่งในการเพิ่มรสชาติคุณควรคำนึงถึงประวัติสุขภาพของคุณด้วยเช่นกัน หากผู้ใดที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานร่วม สามารถเปลี่ยนการใช้น้ำเชื่อมธรรมดา เป็นน้ำเชื่อมจากหญ้าหวานทดแทน
ผลข้างเคียงของการดื่ม ชาตะไคร้
สำหรับบุคคลทั่วไปการดื่มชาตะไคร้ในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ริมฝีปากแห้ง และอ่อนเพลียได้
นอกจากนี้ตะไคร้ยังมีฤทธิ์ที่ช่วยในการขับปัสสาวะให้ออกมาจำนวนมาก ดังนั้นชาตะไคร้อาจไม่เหมาะกับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อลูกรักในครรภ์ของคุณแม่
ในการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มใด ๆ ไม่ว่าจะสำหรับบุคลที่ได้รับการยกเว้น หรือบุคคลทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์ พร้อมหมั่นเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อนทุกครั้ง เพื่อได้รับคำแนะนำในการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อสุขภาพร่างกายของคุณ
[embed-health-tool-bmi]