ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีอาการเบื้องต้นที่พบได้บ่อย คือ ไข้สูง เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลิ้นไม่รับรส แต่ในปัจจุบัน กลับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ หรือที่เรียกว่า โควิดไม่แสดงอาการ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รับรู้ รักษา และควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ยาก เราจึงควรดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 บทความนี้ของ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาดูกันค่ะว่า เพราะสาเหตุใด ผู้ป่วยถึงติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ แล้วเราพอจะมีวิธีป้องกันตัวเองจากโรคนี้อย่างไรบ้าง
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ทำความรู้จัก โควิดไม่แสดงอาการ
โควิดไม่แสดงอาการ (Asymptomatic COVID-19) คือ ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่กลับไม่แสดงอาการใด ๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นโรคนี้ โดยพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 ที่ไม่แสดงอาการ ส่วนใหญ่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันต้านทานต่อโรค เป็นต้น
เว็บข่าวด้านสุขภาพ Medical News Today ในประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า จากผลการวิจัยพบ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2) มีอายุน้อยกว่า 20 ปี กว่า 81.9% ป่วยโควิดไม่แสดงอาการ
ติดโควิดไม่แสดงอาการ จะมีวิธีสังเกตตนเองอย่างไร?
โควิดไม่แสดงอาการ อาจทำให้หลายคนละเลยการป้องกันตนเอง เพราะคิดว่ามีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แต่รู้หรือไม่ว่า คุณอาจกลายเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อให้คนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น หากคุณไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 หรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ควรสังเกตอาการตนเองภายใน 14 วัน หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคทันที
- มีไข้
- ไอแห้ง
- ลิ้นไม่รับรส
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
- คัดจมูก จมูกไม่ได้กลิ่น
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือปวดเมื่อยบริเวณข้อต่อ
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ท้องร่วง
- หนาวสั่น วิงเวียนศีรษะ
- เยื่อบุตาอักเสบ
- เบื่ออาหาร
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาการวิจัยในหลายประเทศพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 อาจแสดงอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการนานถึง 4-6 สัปดาห์ ดังนั้น ผู้ที่ไปยังพื้นที่เสี่ยงหรือสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ควรกัดตัวเองอย่างน้อย 14 วัน เพื่อรอดูอาการ และลดการแพร่เชื้อโควิดในช่วงที่ไม่แสดงอาการ
การ์ดอย่าตก ดูแลตนเองให้ห่างจากเชื้อโควิด-19
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก และปาก
- หลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ ผ้าปูที่นอน
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ รอให้เจลแอลกอฮอล์แห้ง จึงค่อยหยิบจับสิ่งต่าง ๆ
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ
- ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู สวิตซ์ไฟ
- เว้นระยะห่างทางสังคมในระยะ 6 ฟุต หรือ 2 เมตร