backup og meta

รู้หรือไม่? ความเครียดของแม่ ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ด้วยนะ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 08/05/2022

    รู้หรือไม่? ความเครียดของแม่ ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ด้วยนะ

    ความเครียดเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เป็นความรู้สึกที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย แต่รู้หรือไม่ว่า เมื่อเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วควรหลีกเลี่ยงกับสิ่งที่กระตุ้นที่ทำให้เกิดความเครียด เพราะ ความเครียดของแม่ นั้นไม่ส่งผลดีต่อใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นตัวคุณแม่เอง หรือแม้แต่ลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์

    ความเครียดของแม่ ส่งผลต่อคุณและลูกน้อยอย่างไร

    ความเครียดเรื้อรังหรือเครียดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงอาการปวดหัว การนอนหลับ การหายใจผิดปกติ และชีพจรเต้นเร็วขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณในด้านอื่น ๆ อีก เช่น ปัญหาด้านการกิน (การกินอาหารมาก/น้อยเกินไป หรืออาหารผิดประเภท)

    ผลการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าความเครียดในครรภ์ของคุณแม่อาจส่งผลต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านพฤติกรรมเมื่อทารกโตขึ้น และปัญหาด้านอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาบางอย่างในช่วงวัยเด็ก รวมไปถึงความเครียดสามารถเพิ่มโอกาสในการคลอดก่อนกำหนด (เกิดก่อน 37 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์) หรือทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์

    อะไรทำให้เกิดความเครียดระหว่างตั้งครรภ์

    สาเหตุของความเครียดสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์นั้นแตกต่างกันไป ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยในช่วงระหว่างตั้งครรภ์มีดังนี้

    • อาจกำลังเผชิญกับความรู้สึกไม่สบายจากการตั้งครรภ์ เช่น แพ้ท้อง ท้องผูก เหนื่อย หรือปวดหลัง
    • ฮอร์โมนภายในกำลังเปลี่ยนแปลง อาจทำให้อารมณ์แปรปรวน ทำให้การควบคุมอารมณ์ต่ำลง
    • อาจจะกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์และการคลอด รวมไปถึงวิธีการดูแลลูกน้อย
    • อาจจะกังวลว่าสิ่งที่คุณจะกินหรือดื่มเข้าไปนั้นจะส่งผลต่ออะไรต่อลูกน้อยหรือไม่

    วิธีการลดความเครียดของแม่ระหว่างตั้งครรภ์

    การดูแลสุขภาพร่างกายที่ดีระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพจิต เพื่อลดความเครียด สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

    • การกินอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงหาข้อมูลสิ่งที่คนท้องห้ามกิน และอาหารสิ่งใดที่มีประโยชน์
    • การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ถึงแม้อาจจะทำยาก แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกระทำ
    • การออกกำลังกายเบา ๆ หรือกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายอย่างเช่น โยคะ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยจัดการกับความเครียดและเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด รวมไปถึงการหางานอดิเรกทำ
    • ฝึกการหายใจและการผ่อนคลาย
    • พยายามไม่กดดันตัวเองมากจนเกินไป
    • การวางแผนการทำงานล่วงหน้า และรู้ขีดจำกัดที่คุณสามารถจะรับไหว
    • ลดงานบ้านบางสิ่งที่คุณไม่สามารถจัดการได้
    • ขอความช่วยเหลือจากคนที่คุณไว้วางใจ และยอมรับความช่วยเหลือจากพวกเขา

    ปรึกษาขอข้อมูลเพิ่มจากคุณหมอที่ดูแลคุณ เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น

    คำถามวัดระดับ ความเครียดของแม่

    เป็นคำถามเพื่อประเมินระดับความเครียดของคุณในระหว่างตั้งครรภ์ ให้ตอบว่า “ใช่” “บางครั้ง” หรือ “ไม่ใช่”

    • รู้สึกเครียด
    • รู้สึกประหม่า
    • รู้สึกกังวล
    • รู้สึกกลัว
    • มีปัญหาในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ
    • คิดว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามคาด
    • ไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้
    • กังวลว่าลูกจะผิดปกติ
    • กังวลว่าจะเสียลูก
    • กังวลว่าจะคลอดยาก
    • กังวลว่าจะไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
    • อาศัยอยู่คนละที่ระหว่างคุณกับคู่ครอง/คู่สมรส หรือแฟน
    • มีการทำงานที่หนักเกินไป
    • มีปัญหาในการทำงาน
    • เคยมีปัญหากับคู่ครอง/คู่สมรส หรือแฟน หรือไม่
    • เคยถูกคุกคามอันตรายทางร่างกายหรือไม่

    หากคุณตอบว่า  “ใช่” หรือ “บางครั้ง” อย่างน้อย 3 ข้อขึ้นไป คุณอาจมีความเครียดที่สะสมอยู่พอสมควร ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำต่าง ๆ เพิ่มเติมจากคุณหมอ

    ความเครียดนั้นไม่ส่งผลดีกันใครทั้งนั้น หากคุณแม่สามารถจัดการกับความเครียดระหว่างตั้งครรภ์ได้ดี ก็ย่อมส่งผลดีต่อคุณแม่และลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือคู่ครองก็สามารถช่วยเหลือและร่วมกันช่วยบรรเทาความเครียดคุณแม่ตั้งครรภ์ได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 08/05/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา