การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง สามารถทำให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น และมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก รวมถึงช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง คือการออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่ง (Weight training) หรือสเตรง เทรนนิ่ง (Strength training) โดยเรามักจะได้ยินกันมาว่า แค่คาร์ดิโออาจไม่พอ ต้องต่อด้วยเวทเทรนนิ่ง ความจริงแล้วเวทเทรนนิ่งคืออะไรกันแน่
เวทเทรนนิ่ง คืออะไร
เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) หรือสเตรง เทรนนิ่ง (Strength Training) คือการออกกำลังกายที่ใช้แรงต้านกับน้ำหนัก ซึ่งจะสร้างความตึงเครียดให้กล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นในภายหลัง คล้ายกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่จะทำให้หัวใจแข็งแรง เวทเทรนนิ่งสามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องออกกำลังกาย บาร์เบล หรือดัมเบล และเหตุผลที่ควรออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง มีดังต่อไปนี้
ประโยชน์ของการ ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
งานวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) พบว่า การออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ สามารถปรับปรุงความสมดุลของร่างกาย ลดโอกาสที่จะหกล้ม และทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดดีขึ้น รวมถึงปรับปรุงการนอนหลับและสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก
การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ไม่เพียงทำให้รูปร่างของคุณดูดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่จะช่วยให้เผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการมีมวลกล้ามเนื้อมากจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้นแม้ในเวลาที่คุณไม่ได้ออกกำลังกาย
โดย 3-4 ชั่วโมงหลังจาก การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง คุณจะยังคงเผาผลาญแคลอรี่อยู่ ดังนั้น จึงดีต่อผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก นอกจากนี้ สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เวลาที่น้ำหนักลดนั้น มากกว่า 1 ใน 4 ของน้ำหนักที่ลดลงอาจมาจากกล้ามเนื้อ ซึ่งหากเสียมวลกล้ามเนื้ออาจทำให้การเผาผลาญช้าลง จึงควรออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพื่อช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ
2. ป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
การสร้างและรักษากล้ามเนื้อถือเป็นเรื่องจำเป็น สำหรับคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปตามวัย สอดคล้องกับข้อมูลจาก American Council on Exercise ที่ให้ข้อมูลว่า ผู้ใหญ่ส่วนมากสูญเสียมวลกล้ามเนื้อเกือบครึ่งปอนด์ต่อปี โดยจะเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในช่วงอายุประมาณ 30 ปีเป็นส่วนใหญ่ เพราะคนวัยนี้มักจะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากเท่ากับตอนที่เป็นวัยรุ่น มากไปกว่านั้นการเสียมวลกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกับที่การเผาผลาญพลังงานของร่างกายเริ่มช้าลง อาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ดังนั้น จึงควรเริ่ม ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพื่อป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ที่จะเกิดขึ้นตามวัย
3. ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
ข้อมูลจากเมโยคลินิกชี้ว่า การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งไม่เพียงแค่ช่วยควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังช่วยหยุดการสูญเสียมวลกระดูกด้วย และยังอาจสร้างมวลกระดูกใหม่ ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน และยังทำให้ความสมดุลของร่างกายดีขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายด้วย
4. อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เช่นงานวิจัยดังต่อไปนี้
- งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Cancer Epidemiology Biomarkers and Prevention แนะนำว่า ยิ่งผู้ชายมีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ จะยิ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งน้อยลงเท่านั้น
- งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร BMJ แนะนำว่า การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งสามารถปรับปรุงความสมดุลของร่างกายในระยะยาว สำหรับผู้สูงอายุ
- งานวิจัยที่เผยแพร่ในปี 2017 ในวารสาร Journal of Endocrinology แนะนำว่า การมีกล้ามเนื้อสามารถปรับปรุงภาวะไวต่ออินซูลิน (Insulin Sensitivity) และความทนทานต่อน้ำตาล (Glucose Tolerance)
วิธี ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
- ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงครึ่งในแต่ละสัปดาห์
- เริ่มด้วยการออกกำลังกาย 8-12 ครั้งต่อ 1 เซต ในช่วง 4 อาทิตย์แรก จากนั้นเพิ่มเป็น 12-15 ครั้งต่อ 1 เซตใน 4 สัปดาห์ต่อมา
- เมื่อการออกกำลังกาย 15 ครั้งกลายเป็นเรื่องง่าย ให้เพิ่มเป็นออกกำลังกาย 2 เซต หรือเพิ่มน้ำหนัก
- หายใจลึก ๆ ขณะออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง และไม่ควรกลั้นหายใจ รวมถึงหายใจออกเวลาที่ต้องออกแรงยกน้ำหนัก
- ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึง 90 นาทีต่อวันเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งในระยะเวลาสั้น ๆ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็มีประสิทธิภาพมากพอแล้ว
- สถาบัน The Department of Health and Human Services แนะนำว่า ควรอออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง โดยใช้กล้ามเนื้อหลักของร่างกาย อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นประจำ
[embed-health-tool-bmi]