ไอคิว (IQ) ย่อมาจาก Intelligence Quotient หมายถึง ความฉลาดทางสติปัญญา ความเข้าใจ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา ความคิด ไหวพริบ การวัดไอคิวในเด็กอาจสามารถช่วยชี้วัดความฉลาดทางสติปัญญาและประเมินทักษะต่าง ๆ ว่า เด็กมีพัฒนาการ ความสามารถ และพรสวรรค์ในด้านใดบ้าง เพื่อให้สามารถหาวิธีส่งเสริมและฝึกฝนให้เด็กมีพัฒนาการมากขึ้น
วัดไอคิว มีประโยชน์อย่างไร
วัดไอคิว ทำเพื่อประเมินความฉลาดทางสติปัญหา ความคิด และไหวพริบในการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจสามารถช่วยให้ทราบถึงพรสวรรค์และความสามารถของเด็กบางคน และในเด็กบางคนที่มีความบกพร่องบางด้าน การวัดไอคิวก็ทำให้สามารถวางแผนการเรียนการสอนรวมถึงปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการ แก้ไขจุดอ่อน และเสริมจุดแข็งในด้านต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้เด็กประสบความสำเร็จด้านการเรียน การงาน การใช้ชีวิตในอนาคตเมื่อเติบโต
อย่างไรก็ตาม การมีไอคิวสูงไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอไป และการมีไอคิวต่ำก็ไม่ได้หมายความว่าจะล้มเหลวด้านการเรียนเสมอไป เนื่องจากอาจมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น การอบรมเลี้ยงดู การเรียนรู้ สภาพแวดล้อม รวมไปถึงปัจจัยด้านพฤติกรรมที่อาจส่งผลต่อโอกาสในการประสบความสำเร็จของเด็กด้วยเช่นกัน
แบบทดสอบการวัดไอคิวในเด็ก
แบบทดสอบการวัดไอคิวในเด็ก มีดังนี้
- การทดสอบด้านภาษาและการพูด เพื่อชี้วัดให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ภาษาของเด็ก และความเข้าใจในการสื่อสารกับผู้อื่น
- การทดสอบการคำนวณ เป็นการทดสอบเกี่ยวกับการคำนวณหาผลลัพธ์ที่ได้จากการบวก ลบ คูณ หาร เพื่อชี้วัดว่าเด็กมีทักษะในการคิดเลขถูกต้องหรือไม่
- การทดสอบด้านการคิดวิเคราะห์และใช้เหตุผล เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกัน การทดสอบนี้อาจชี้ให้เห็นถึงหลักการคิดวิเคราะห์และอธิบายด้วยเหตุผลออกมาตามความเข้าใจของเด็กได้
- การทดสอบความฉลาดด้านวิชาชีพ เพื่อประเมินระดับเชาว์ปัญญาและความฉลาดว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่
แบบทดสอบการวัดไอคิวอาจแตกต่างกันออกไปตามภาวะสุขภาพและปัญหาของเด็กแต่ละบุคคล หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีพฤติกรรมชอบเหม่อลอย ก้าวร้าว อยู่ไม่นิ่ง ซึมเศร้า แสดงอาการไม่อยากเรียน การเรียนตก ควรให้ลองทำการทดสอบไอคิวและแจ้งให้คุณหมอทราบ นอกจากนี้ ในกรณีที่เด็กมีอาการเจ็บป่วยทางสมอง ประสบอุบัติเหตุ อาจมีการวัดไอคิวก่อนหรือหลังผ่าตัด เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบด้านการแพทย์
คะแนนการวัดไอคิว
คะแนนการวัดไอคิว อาจแบ่งออกตามเกณฑ์ดังนี้
- 130 ขึ้นไป อยู่ในเกณฑ์ ฉลาดมากที่สุด
- 120-129 อยู่ในเกณฑ์ ฉลาดมาก
- 110-119 อยู่ในเกณฑ์ ฉลาดกว่าปกติ
- 90-109 อยู่ในเกณฑ์ ฉลาดระดับปกติ
- 80-89 อยู่ในเกณฑ์ ความฉลาดระดับต่ำ
- 70-79 อยู่ในเกณฑ์ ความฉลาดระดับต่ำกว่าปกติ
- 69 หรือต่ำกว่า อยู่ในเกณฑ์ ความฉลาดระดับต่ำมาก
พฤติกรรมที่บ่งบอกว่าลูกมีพรสวรรค์
เด็กที่มีพรสวรรค์อาจแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่คุณพ่อคุณแม่อาจคาดไม่ถึง ดังนี้
- มีสมาธิดี ความจำดี เรียนรู้ได้รวดเร็วและมีความคิดสร้างสรรค์
- อาจชอบค้นคว้าหาข้อมูล อ่านหนังสือ หรือเล่นดนตรี
- อาจมีความสามารถหลากหลาย หรือมีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งอย่างดีเยี่ยม เช่น เล่นกีฬา วิชาการ ศิลปะ การคำนวณ เทคโนโลยี เต้น
- อาจมีความสนใจความรู้เชิงวิชาการ การรับรู้เหตุการณ์ในสังคม ชุมชน และรอบโลก
- อาจชอบอยู่คนเดียว หรือชอบใช้เวลาอยู่กับผู้ใหญ่มากกว่าเด็กคนอื่น ๆ
- อาจชอบพูดสื่อสาร ถามในสิ่งที่สงสัยตลอดเวลา
- เด็กบางคนอาจมีกฏเกณฑ์สำหรับตัวเอง หรือจำกัดเวลาทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น ตั้งเวลาเล่นเกมส์ ดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์
[embed-health-tool-bmi]