ข้อบ่งใช้
อัลลีฟ® ใช้สำหรับ
อัลลีฟ® (Aleve®) ประกอบด้วยตัวยานาพรอกเซน (Naproxen) เป็นยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) ยานี้จะทำงานโดยการลดฮอร์โมนที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ และอาการปวดภายในร่างกาย
อัลลีฟ® ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวด สำหรับอาการปวดเมื่อยและอาการปวดในระดับเบา เนื่องจากโรคข้ออักเสบ (arthritis) ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดประจำเดือน ปวดฟัน และโรคหวัด และยังใช้เพื่อลดไข้ชั่วคราวอีกด้วย
นอกจากนี้ อัลลีฟ® ยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากที่ระบุอยู่บนคู่มือการใช้ยา
วิธีการใช้อัลลีฟ®
ใช้อัลลีฟ®ตามที่กำหนดบนฉลากยา หรือตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด อย่าใช้ยานี้ในขนาดที่มากกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ ควรใช้ยาในขนาดที่ต่ำที่สุดเท่าที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรค
อย่าบด เคี้ยว หรือหักเม็ดอัลลีฟ® ควรกลืนยาลงไปทั้งเม็ด
หากเด็กใช้ยานี้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากเด็กมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านน้ำหนัก ขนาดยาของยานาพรอกเซนนั้นจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของเด็ก อาจความเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อขนาดยา
หากคุณใช้อัลลีฟ®ในระยะยาว คุณอาจจะต้องได้รับการตรวจเป็นประจำ
ยานี้สามารถทำให้เกิดผลการตรวจทางการแพทย์บางชนิดที่ผิดปกติ โปรดแจ้งให้แพทย์ที่รักษาคุณทราบว่า คุณกำลังใช้อัลลีฟ®
การเก็บรักษาอัลลีฟ®
อัลลีฟ®ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง อัลลีฟ®บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งอัลลีฟ®ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้อัลลีฟ®
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ในการรักษาของอัลลีฟ® หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
อัลลีฟ®อาจทำให้เกิดอาการเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต สภาวะเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสัญญาณเตือน ขณะที่คุณกำลังใช้นี้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
คุณไม่ควรใช้อัลลีฟ® หากคุณแพ้ต่อยานาพรอกเซน หรือหากคุณเคยเป็นโรคหอบกำเริบ หรืออาการแพ้ที่รุนแรงหลังจากใช้ยาแอสไพริน หรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์
โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรถึงความปลอดภัยในการใช้ยานี้หากคุณเป็น
- โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน หรือหากคุณสูบบุหรี่
- เคยเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือลิ่มเลือด
- เคยมีแผลหรือเลือดออกในกระเพาะอาหาร
- โรคหอบหืด
- โรคตับหรือโรคไต
- ภาวะคั่งน้ำ
อัลลีฟ®นั้นไม่ได้รับการยอมรับในการใช้กับเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 อย่าใช้ยานี้กับเด็ก โดยไม่ได้รับคำแนะนำทางการแพทย์
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
อัลลีฟ® จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้อัลลีฟ®
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ จาม น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก หายใจมีเสียงหวีดหรือหายใจติดขัด ลมพิษ บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
รับการรักษาในทันที หากคุณมีสัญญาณของหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง อย่างอาการแน่นหน้าอกที่แพร่กระจายไปยังกรามหรือไหล่ อาการชา หรืออ่อนแรงอย่างกะทันหันที่ด้านหนึ่งของร่างกาย พูดไม่ชัด ขาบวม รู้สึกหายใจลำบาก
หยุดใช้อัลลีฟ®และติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีอาการ
- หายใจลำบาก (แม้แต่จากการออกกำลังกายระดับเบา)
- อาการบวมหรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- สัญญาณแรกของผดผื่นผิวหนังใดๆ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
- สัญญาณของอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร – อุจจาระเป็นเลือดหรือคล้ายยางมะตอย ไอเป็นเลือดหรืออาเจียนคล้ายกากกาแฟ
- ปัญหาเกี่ยวกับตับ – คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องส่วนบน คัน รู้สึกเหนื่อยล้า มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีคล้ำ อุจจาระสีดินเหนียว ดีซ่าน (ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง)
- ปัญหาเกี่ยวกับไต – ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย มีอาการปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะติดขัด อาการบวมที่เท้าหรือข้อเท้า รู้สึกเหนื่อยหรือหายใจไม่อิ่ม
- ภาวะโลหิตจาง – ผิวซีด รู้สึกหน้ามืดหรือหายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว รวมรวมสมาธิได้ยาก
- ปฏิกิริยาผิวหนังที่รุนแรง – เป็นไข้ เจ็บคอ มีอาการบวมที่ใบหน้าหรือลิ้น แสบร้อนที่ดวงตา ปวดผิว ตามด้วยผดผื่นผิวหนังสีแดงหรือสีม่วงที่แพร่กระจาย (โดยเฉพาะใบหน้าหรือร่างกายส่วนบน) และทำให้เกิดแผลพุพองและผิวลอก
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
- อาการไม่ย่อย แสบร้อนกลางอก ปวดท้อง คลื่นไส้
- ปวดหัว วิงเวียน ง่วงซึม
- มีรอยช้ำ คัน ผดผื่น
- อาการบวม
- มีเสียงอื้อในหู
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
อัลลีฟ®อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- คอเลสไทรามีน (Cholestyramine)
- ไซโคลสปอริน (Cyclosporine)
- ไดจอกซิน (Digoxin)
- ลิเทียม (Lithium)
- เมโธเทรกเซท (Methotrexate)
- เพมิเทรกเซด (Pemetrexed)
- เฟนิโทอิน (Phenytoin) หรือยาสำหรับอาการชักที่คล้ายกัน
- โพรเบเนซิด (Probenecid)
- ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) อย่างคูมาดิน (Coumadin) หรือแจนโทเวน (Jantoven) หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือดที่คล้ายกัน
- ยาขับปัสสาวะหรือยาขับน้ำ
- ยารักษาโรคหัวใจหรือยารักษาความดันโลหิต
- ยาอินซูลินหรือยารักษาโรคเบาหวานแบบรับประทาน
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
อัลลีฟ®อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
อัลลีฟ®อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาของอัลลีฟ®สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing Spondylitis)
- ยาเม็ดออกฤทธิ์ทันทีและยาน้ำแขวนตะกอน ขนาด 250 มก. ถึง 500 มก. (ยานาพรอกเซน) หรือ 275 มก. ถึง 550 มก. (ยานาพรอกเซน โซเดียม) รับประทานวันละสองครั้ง
- ยาควบคุมการออกฤทธิ์ 750 มก. ถึง 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- ยาออกฤทธิ์นาน 375 มก. ถึง 500 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อเสื่อม
- ยาเม็ดออกฤทธิ์ทันทีและยาน้ำแขวนตะกอน ขนาด 250 มก. ถึง 500 มก. (ยานาพรอกเซน) หรือ 275 มก. ถึง 550 มก. (ยานาพรอกเซน โซเดียม) รับประทานวันละสองครั้ง
- ยาควบคุมการออกฤทธิ์ 750 มก. ถึง 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- ยาออกฤทธิ์นาน 375 มก. ถึง 500 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ยาเม็ดออกฤทธิ์ทันทีและยาน้ำแขวนตะกอน ขนาด 250 มก. ถึง 500 มก. (ยานาพรอกเซน) หรือ 275 มก. ถึง 550 มก. (ยานาพรอกเซน โซเดียม) รับประทานวันละสองครั้ง
- ยาควบคุมการออกฤทธิ์ 750 มก. ถึง 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- ยาออกฤทธิ์นาน 375 มก. ถึง 500 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเกาต์เฉียบพลัน
ยาเม็ดออกฤทธิ์ทันทีและยาน้ำแขวนตะกอน
- ขนาดยาเริ่มต้น 750 มก. (นาพรอกเซน) หรือ 825 มก. (นาพรอกเซน โซเดียม) รับประทานหนึ่งครั้งในวันแรกที่มีอาการกำเริบ
- ขนาดยาหลังจากขนาดยาเริ่มต้น 250 มก. (นาพรอกเซน) หรือ 275 มก. (นาพรอกเซน โซเดียม) รับประทานทุกๆ 8 ชั่วโมงจนกระทั่งอาการกำเริบบรรเทาลง
ยารูปแบบควบคุมการออกฤทธิ์ ขนาด 1,000 มก. ถึง 1500 มก.
- รับประทานหนึ่งครั้งในวันแรกที่มีอาการกำเริบ ตามด้วย 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง จนกว่าอาการกำเริบจะบรรเทาลง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะบวมอักเสบบริเวณข้อต่อ (Bursitis)
ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที (ยานาพรอกเซน โซเดียม)
- 550 มก. รับประทานหนึ่งครั้ง ตามด้วย 275 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง หรือ 550 มก. รับประทานทุก ๆ 12 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด ขนาดยาเริ่มต้นต่อวันนั้นไม่ควรเกิน 1,375 มก. หลังจากนั้นก็ไม่ควรเกิน 1100 มก./วัน
ยารูปแบบควบคุมการออกฤทธิ์
- 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการระงับความปวดเพิ่มเติม อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นไปถึง 1,500 มก. รับประทานวันละครั้งในระยะเวลาที่จำกัด หลังจากนั้น ขนาดยาโดยรวมต่อวันไม่ควรเกิน 1,000 มก./วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการเอ็นอักเสบ (Tendinitis)
ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที (ยานาพรอกเซน โซเดียม)
- 550 มก. รับประทานหนึ่งครั้ง ตามด้วย 275 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง หรือ 550 มก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด ขนาดยาเริ่มต้นต่อวันนั้นไม่ควรเกิน 1,375 มก. หลังจากนั้นก็ไม่ควรเกิน 1,100 มก./วัน
ยารูปแบบควบคุมการออกฤทธิ์
- 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการระงับความปวดเพิ่มเติม อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นไปถึง 1,500 มก. รับประทานวันละครั้งในระยะเวลาที่จำกัด หลังจากนั้น ขนาดยาโดยรวมต่อวัน ไม่ควรเกิน 1,000 มก./วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวดประจำเดือน
ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที (ยานาพรอกเซน โซเดียม)
- 550 มก. รับประทานหนึ่งครั้ง ตามด้วย 275 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง หรือ 550 มก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด ขนาดยาเริ่มต้นต่อวัน 1,375 มก./วัน . หลังจากนั้นก็ไม่ควรเกิน 1,100 มก./วัน
ยารูปแบบควบคุมการออกฤทธิ์
- 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการระงับความปวดเพิ่มเติม อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นไปถึง 1,500 มก. รับประทานวันละครั้งในระยะเวลาที่จำกัด หลังจากนั้น ขนาดยาโดยรวมต่อวัน ไม่ควรเกิน 1,000 มก./วัน
ยาที่หาซื้อได้เอง
- 220 มก. รับประทานทุกๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมงขณะที่ยังมีอาการอยู่
- อาจรับประทาน 440 มก. หนึ่งครั้งในชั่วโมงแรกหากจำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด 440 มก. (ในช่วง 8 ถึง 12 ชั่วโมง) 660 มก. (ในช่วง 24 ชั่วโมง)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวด
ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที (ยานาพรอกเซน โซเดียม)
- 550 มก. รับประทานหนึ่งครั้ง ตามด้วย 275 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง หรือ 550 มก. รับประทานทุก ๆ 12 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด ขนาดยาเริ่มต้นต่อวัน 1,375 มก./วัน . หลังจากนั้นก็ไม่ควรเกิน 1,100 มก./วัน
ยารูปแบบควบคุมการออกฤทธิ์
- 1,000 มก. รับประทานวันละครั้ง
- สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการระงับความปวดเพิ่มเติม อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นไปถึง 1,500 มก. รับประทานวันละครั้งในระยะเวลาที่จำกัด หลังจากนั้น ขนาดยาโดยรวมต่อวันไม่ควรเกิน 1,000 มก./วัน
ยาที่หาซื้อได้เอง
- 220 มก. รับประทานทุกๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมงขณะที่ยังมีอาการอยู่
- อาจรับประทาน 440 มก. หนึ่งครั้งในชั่วโมงแรกหากจำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด 440 มก. (ในช่วง 8 ถึง 12 ชั่วโมง) 660 มก. (ในช่วง 24 ชั่วโมง)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาไข้
ยาที่หาซื้อได้เอง
- 220 มก. รับประทานทุกๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมงขณะที่ยังมีอาการอยู่
- อาจรับประทาน 440 มก. หนึ่งครั้งในชั่วโมงแรกหากจำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด 440 มก. (ในช่วง 8 ถึง 12 ชั่วโมง) 660 มก. (ในช่วง 24 ชั่วโมง)
ขนาดยาของอัลลีฟ®สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาไข้
ยาที่หาซื้อได้เอง
- อายุ 12 ปีหรือมากกว่า 220 มก. รับประทานทุกๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมงขณะที่ยังมีอาการอยู่
- อาจรับประทาน 440 มก. หนึ่งครั้งในชั่วโมงแรกหากจำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด 440 มก. (ในช่วง 8 ถึง 12 ชั่วโมง) 660 มก. (ในช่วง 24 ชั่วโมง)
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการปวด
ยาที่หาซื้อได้เอง
- อายุ 12 ปีหรือมากกว่า 220 มก. รับประทานทุกๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมงขณะที่ยังมีอาการอยู่
- อาจรับประทาน 440 มก. หนึ่งครั้งในชั่วโมงแรก หากจำเป็น
- ขนาดยาสูงสุด 440 มก. (ในช่วง 8 ถึง 12 ชั่วโมง) 660 มก. (ในช่วง 24 ชั่วโมง)
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก
ยาเม็ดรูปแบบออกฤทธิ์ทันทีและยาน้ำแขวนตะกอน
- อายุ 2 ปีหรือมากกว่า 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]