ข้อบ่งใช้
โคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 (Cholecalciferol or Vitamin D3)
โคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 (Cholecalciferol/Vitamin D3) ใช้เพื่อรักษาหรือป้องกันสภาวะต่างๆ ที่เกิดจากการขาดวิตามินดี ยาโคเลแคลซิเฟอรอล/วิตามินดี 3 ใช้โดยเฉพาะกับสภาวะที่เกี่ยวข้องกับผิวหรือกระดูก ยาโคเลแคลซิเฟอรอล/วิตามินดี 3 ยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากในคู่มือการใช้ยา
วิธีการใช้ยา โคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3
- ควรทำตามวิธีการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยา ใยบางครั้งแพทย์อาจจะเปลี่ยนขนาดยาของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับผลที่ดีที่สุด อย่ารับประทานยาในขนาดมากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ
- ตวงยาน้ำโดยใช้กระบอกยาที่แถมมาหรือใช้ช้อนหรือถ้วยสำหรับตวงยา หากไม่มีเครื่องมือสำหรับตวงยาโปรดสอบถามเภสัชกร
- เคี้ยวยาเม็ดสำหรับเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
- วิธีการใช้ยาเม็ดแบบแตกตัว (ละลายเร็ว) วางเม็ดยาไว้บนลิ้นแล้วอย่ากลืนเม็ดยาลงไปทั้งเม็ด ปล่อยให้ยาละลายภายในปากโดยไม่ต้องเคี้ยว หากต้องการอาจจะดื่มน้ำตามเพื่อช่วยให้กลืนยาที่ละลายแล้วได้ลงไปง่ายขึ้น
- ยาเวเฟอร์โคเลแคลซิเฟอรอลมักจะรับประทานแค่สัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง ควรทำตามวิธีการใช้ยาของแพทย์อย่างระมัดระวัง ต้องเคี้ยวยาเวเฟอร์ให้ละเอียดก่อนกลืน
- ยาโคเลแคลซิเฟอรอลเป็นแค่ส่วนหนึ่งของโปรแกรมการรักษาอย่างสมบูรณ์ ที่อาจรวมถึงการรับประทานอาหารพิเศษ ควรทำตามแผนการรับประทานอาหารที่แพทย์หรือที่ปรึกษาด้านโภชนาการแนะนำ คุณควรจะทำความคุ้นเคยกับรายชื่อของอาหารที่ควรรับประทานหรือควรหลีกเลี่ยงเพื่อช่วยให้คุณสามารถควบคุมอาการได้ดีขึ้น
การเก็บรักษายา โคเลแคลซิเฟอรอล หรือ วิตามินดี 3
ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูก สอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา โคเลแคลซิเฟอรอล หรือ วิตามินดี 3
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่ออกฤทธิ์ของยาโคเลแคลซิเฟอรอลวิหรือตามินดี 3 หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
คุณไม่ควรใช้ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหาก
- คุณมีภาวะแคลเซียมในเลือดสูง (hypercalcemia)
- หากคุณมีภาวะวิตามินดีในร่างกายสูง (hypervitaminosis D)
- หากคุณมีสภาวะใดๆ ที่ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากอาหารได้ยากขึ้น (malabsorption)
เพื่อให้แน่ใจว่ายาโคเลแคลซิเฟอรอลนั้นปลอดภัยสำหรับคุณ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณเป็นโรคดังนี้
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยา โคเลแคลซิเฟอรอล หรือ วิตามินดี 3
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันทีหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
หยุดใช้ยาโคเลแคลซิเฟอรอลและติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีอาการดังนี้
- ปัญหาเกี่ยวกับการคิด พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง รู้สึกหงุดหงิด
- ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
- ปวดหน้าอก รู้สึกหายใจไม่อิ่ม
- สัญญาณเริ่มต้นของการบริโภควิตามินดีเกินขนาด (อ่อนแรง มีรสเหล็กภายในปาก น้ำหนักลด ปวดกล้ามเนื้อหรือปวดกระดูก ท้องผูก คลื่นไส้ และอาเจียน)
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- ยารักษาอาการชัก
- ยาคอเลสไทรามีน (Cholestyramine) ยาคอเลสทิพอล (colestipol)
- ยาสเตียรอยด์
- ยาไดจอกซิน (Digoxin)
- ยาขับปัสสาวะหรือยาขับน้ำ
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยา โคเลแคลซิเฟอรอล หรือ วิตามินดี 3 สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะวิตามินดีไม่เพียงพอ (Vitamin D Insufficiency)
- 600-2,000 หน่วยสากล รับประทานวันละครั้ง
- ขนาดยาสูงสุด 4,000 หน่วยสากลต่อวัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะขาดวิตามินดี (Vitamin D Deficiency)
ขนาดยาเริ่มต้น
- 50,000 หน่วยสากล สัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 8 สัปดาห์
- 6,000 หน่วยสากล วันละครั้งเป็นเวลา 8 สัปดาห์
- ขนาดยาปกติ 1,500 ถึง 2,000 หน่วยสากล วันละครั้ง
- ขนาดยาสูงสุด 10,000 หน่วยสากลต่อวัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการหกล้ม
- 800 หน่วยสากล รับประทานวันละครั้ง
- อาจต้องใช้ขนาด 1,500 ถึง 2,000 หน่วยสากล วันละครั้งเพื่อระดับของวิตามินดีในเลือดถึง 25(OH)D สูงกว่า 30 นาโนกรัม/มล.
ขนาดยาสำหรับผู้สูงอายุเพื่อป้องกันกระดูกหัก
อายุมากกว่า 800 ถึง 2,000 หน่วยสากล รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาโคเลแคลซิเฟอรอลหรือวิตามินดี 3 สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะวิตามินดีไม่เพียงพอ
อายุ 0 ถึง 12 เดือน 400 หน่วยสากล วันละครั้ง
อายุ 1 ถึง 18 ปี 600 หน่วยสากล วันละครั้ง
ขนาดยาสูงสุด
- จนถึงอายุ 6 เดือน 1,000 หน่วยสากลต่อวัน
- อายุ 7 เดือน ถึง 1 ปี 1,500 หน่วยสากลต่อวัน
- อายุ 1 ถึง 3 ปี 2,500 หน่วยสากลต่อวัน
- อายุ 4 ถึง 8 ปี 3,000 หน่วยสากลต่อวัน
- อายุ 9 ปีขึ้นไป 4,000 หน่วยสากลต่อวัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะขาดวิตามินดี
จนถึงอายุ 1 ปี
- 2,000 หน่วยสากล รับประทานวันละครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์
- 50,000 หน่วยสากล สัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์
- ขนาดยาปกติ 400 ถึง 1,000 หน่วยสากลต่อวัน
อายุ 1 ถึง 18 ปี
- 2,000 หน่วยสากล รับประทานวันละครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์
- 50,000 หน่วยสากล สัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์
- ขนาดยาปกติ 600 ถึง 1,000 หน่วยสากลต่อวัน
ขนาดยาสูงสุด
- จนถึงอายุ 1 ปี 2,000 หน่วยสากลต่อวัน
- อายุ 1 ถึง 18 ปี 4,000 หน่วยสากลต่อวัน
รูปแบบของยา
ขนาดและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาน้ำสำหรับรับประทาน
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
- ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน
- ยาเวเฟอร์สำหรับรับประทาน
- ยาเม็ดแบบเคี้ยว
- ยาน้ำสารละลายสำหรับรับประทาน
- ผลึกประสม (Compounding crystal)
- ยาเม็ดแตกตัว
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]