ดวงตา ถือเป็นอวัยวะสำคัญที่มีบทบาทต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก มีข้อมูลระบุว่า การรับรู้และการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ของคนเราเกิดจากการมองเห็นประมาณร้อยละ 70-80 เลยทีเดียว หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับดวงตา ย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราอย่างมากทีเดียว หนึ่งในความผิดปกติของดวงตาที่เราเจอกันบ่อยคือ อาการตาบอดสี เราจึงขอนำคุณมาทำความรู้จักความจริง 5 ประการเกี่ยวกับอาการ ตาบอดสี ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
รู้หรือไม่ คนเรานั้นมองเห็นสีไม่เหมือนกัน
เมื่อมีคนถามว่า ใบผักโขมมีสีอะไร คำตอบของคุณอาจเป็น สีเขียว อย่างไรก็ตาม สีเขียว ที่แต่ละคนมองเห็นอาจไม่ใช่สีเขียวแบบเดียวกัน คุณและเพื่อนของคุณอาจจะมองเห็นสีเขียวไม่เหมือนกันก็ได้
คุณมองเห็นสีสันของวัตถุต่าง ๆ เพราะว่าแสงนั้นส่องมายังวัตถุและสะท้อนมายังเลนส์ตาและกระจกตาของคุณ โดยมารวมกันที่จุดรับภาพของจอประสาทตา
สีของแสงนั้นระบุได้ด้วยความยาวคลื่น หมายความว่า สีเขียว มีความยาวคลื่นที่คุณเห็นคือสีเขียว ใบผักโขมเป็นสีเขียวเพราะผิวของมันสะท้อนความยาวคลื่นสีเขียวและซึมซับความยาวคลื่นของสีอื่น ๆ ไว้
มนุษย์แต่ละคนมองเห็นสีของวัตถุแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย เพราะตาและสมองทำหน้าที่ร่วมกันเพื่อระบุความแตกต่างของระดับความเข้มของแสงแตกต่างกัน
สาเหตุของ อาการตาบอดสี คืออะไร
ตาบอดสีอาจเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ ดวงตา สมอง หรืออาจเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถเกิดได้จากการที่เซลล์รูปกรวยทำหน้าที่บกพร่อง หรือไม่มีเซลล์รูปกรวยในดวงตาซึ่งอาจเป็นผลจากความบกพร่องของยีนส์บางตัวที่มีหน้าที่เฉพาะในกระบวนการสร้างเซลล์เหล่านี้
เซลล์รูปกรวย (Cone cells) ทำหน้าที่จำแนกสีต่าง ๆ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งจะทำหน้าที่รับรู้สีหลัก ๆ 3 สี ได้แก่ สีเขียว สีแดง และสีฟ้า
หากคุณมีอาการตาบอดสี คุณอาจไม่มีเซลล์รูปกรวยอันใดอันหนึ่งหรือสองอัน หรืออาจะไม่มีเซลล์รูปกรวยทั้งหมดที่กล่าวมาก็ได้
บางครั้งการกระทบกระเทือนทางร่างกายหรือได้รับสารเคมีบางชนิดที่ดวงตา ระบบประสาท หรือสมอง ก็สามารถส่งผลกระทบต่อการรับรู้สี และทำให้เกิดอาการตาบอดสีได้เช่นกัน
นอกจากนี้ เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น ก็อาจเกิดต้อกระจกซึ่งทำให้เลนส์ตากลายเป็นสีเหลือง และอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่อาการตาบอดสีได้
อาการตาบอดสี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ผลการวิจัยระบุว่า เพศชายมักมีอาการตาบอดสีมากกว่าเพศหญิง เพราะการตอบสนองของยีนที่ก่อให้เกิดอาการตาบอดสีนั้นอยู่ในโครโมโซม X
เพศชายมีโครโมโซม X เพียงตัวเดียว ในขณะที่เพศหญิงมีโครโมโซม X สองโครโมโซม ในเพศหญิงนั้น หากโครโมรโซม X ตัวใดได้รับผลกระทบ อีกตัวจะทำหน้าที่ชดเชยกัน
ผู้ที่ตาบอดสีแดงและสีเขียวมีอาการร่วมกัน
ผู้ที่ตาบอดสีแดงและสีเขียวนั้นพบได้บ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่มีอาการตาบอดสี เกิดขึ้นเพราะการขาดเซลล์รูปกรวยที่ทำหน้าที่รับรู้สีเขียวและสีแดง ผู้ที่ตาบอดสีแดงและสีเขียวจึงมักแสดงอาการร่วมกันระหว่างตาบอดสีแดงและตาบอดสีเขียว
เลนส์พิเศษสามารถช่วยผู้มีอาการตาบอดสีได้
อาการดังกล่าวอาจสร้างความรำคาญและทำให้ผู้มีอาการประสบความลำบากในการอ่านหนังสือ การเรียนรู้ หรือการขับรถ แต่ก็ไม่ได้ก่ออาการเจ็บป่วยรุนแรงแต่อย่างใด แม้ว่าอาการตาบอดสีนี้จะไม่สามารถรักษาได้ แต่คุณก็สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้
มีตัวช่วยต่าง ๆ มากมายหากคุณมีอาการตาบอดสี โดยคุณอาจขอให้แพทย์ทำเลนส์พิเศษสำหรับผู้มีอาการตาบอดสี เลนส์เหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นสีต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และยังสามารถใช้มันนอกสถานที่ได้ รวมถึงยังมีแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนที่ช่วยคุณรับรู้สีสันของวัตถุต่าง ๆ รอบตัวได้ดีขึ้นด้วย
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด