ปัญหาตาแบบอื่น

นอกจากการเป็นต้อหิน ต้อกระจกแล้ว ยังมี ปัญหาตาแบบอื่น ที่คุณจะได้ศึกษาถึงสาเหตุ รวมถึงวิธีการป้องกันดวงตาให้กับตัวเอง รวมถึงคนในครอบครัว ซึ่งคุณสามารถอ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

ปัญหาตาแบบอื่น

เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis)

ปัญหาของสุขภาพตาที่คนส่วนใหญ่มักเผชิญไม่ได้มีเพียงแค่ ต้อหิน ต้อกระจก สายตาสั้น สายตายาว เสมอไป ยังมีภาวะอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น อย่าง เปลือกตาอักเสบ ด้วยเช่นกัน แต่จะภาวะนี้เกิดจากสาเหตุ หรือปัจจัยใดบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความของ Hello คุณหมอ ที่นำมาฝากทุกคนกันได้เลยค่ะ [embed-health-tool-bmr] คำจำกัดความ เปลือกตาอักเสบ คืออะไร เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) คืออาการอักเสบบริเวณรอยพับของผิวหนังที่ปกคลุมดวงตา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เปลือกตา เกิดจากการที่ต่อมน้ำมันโคนขนตาอุดตันเนื่องจากสิ่งสกปรก ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง จนเปลือกตาอักเสบ และมีอาการบวม ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นกับเปลือกตาข้างใดก็ได้ และสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ อาการอักเสบบริเวณเปลือกตาด้านนอก เป็นการอักเสบของเปลือกตาด้านนอกส่วนที่ใกล้กับขนตา อาการอักเสบบริเวณเปลือกตาด้านใน เป็นการอักเสบของเปลือกตาด้านในส่วนที่ใกล้กับดวงตามากที่สุด เปลือกตาอักเสบพบได้บ่อยแค่ไหน ภาวะเปลือกตาอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เมื่อต่อมน้ำมันมีการอุดตัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุด คุณสามารถเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์ได้ เพื่อขอคำแนะนำการรักษาได้อย่างเหมาะสม อาการ อาการของเปลือกตาอักเสบ สัญญาณเตือนของภาวะ เปลือกตาอักเสบ มักสังเกตได้ง่าย จากอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ อาการคันบริเวณเปลือกตา เปลือกตาบวมแดง รู้สึกแสบร้อนภายในดวงตา ตาแดง น้ำตาไหลตลอดเวลา ดวงตาไวต่อแสง ขี้ตาเกรอะ ดวงตาพร่ามัว เปลือกตามันเยิ้ม ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด หากคุณรู้สึกมีอาการปวดที่ดวงตา […]

สำรวจ ปัญหาตาแบบอื่น

ปัญหาตาแบบอื่น

ลูทีนและซีแซนทีน สองคู่หูช่วยบำรุงสายตา ที่คุณควรหามาบริโภคให้ไว

ดวงตาและสายตาของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปตามวัย ยิ่งหากมีปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ เช่น การใช้สายตามาก จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และหน้าจอมือถือนานๆ ชอบเดินกลางแจ้งโดยไม่สวมหมวกหรือแว่นกันแดด ก็จะยิ่งทำให้สุขภาพตาของเราเสื่อมถอยได้เร็วยิ่งขึ้น หากใครไม่อยากให้สุขภาพตามีปัญหา เราแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นให้ดี และหันมาบริโภค ลูทีนและซีแซนทีน มากขึ้น เพราะสองคู่หูที่ชื่ออาจไม่คุ้นหูนี้ ช่วยบำรุงสายตาและสุขภาพตาของเราได้เป็นอย่างดีเลย ทำความรู้จักกับ ลูทีนและซีแซนทีน ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) เป็นสารพฤกษเคมีทรงพลังที่พบมากในผักและผลไม้สีส้ม เหลือง แดง เขียว โดยปกติแล้ว ลูทีนและซีแซนทีนในพืชจะช่วยดูดซับพลังงานแสงส่วนเกิน ทำให้พืชไม่ถูกแสงแดดทำลายมากเกินไป แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะลูทีนและซีแซนทีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม แถมยังขึ้นชื่อเรื่องช่วยบำรุงสุขภาพตาด้วย และนอกจากจะพบมากในพืชแล้ว เรายังพบลูทีนและซีแซนทีนได้ในจอประสาทตา (Retina) จุดศูนย์กลางหรือจุดรับภาพตรงกลางของจอประสาทตา (Macula) และเลนส์ตาของเราด้วย อาหารอะไรบ้างที่มีลูทีนและซีแซนทีน อาหารที่อุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม และผักผลไม้สีเขียว เหลือง ส้ม แดง อื่นๆ เช่น ผักคะน้า ผักเคล (Kale) หรือคะน้าใบหยัก ผักโขม ผักปวยเล้ง ผักสวิสชาร์ด (Swiss chard) ผักกาดเขียวปลี (Mustard […]


ปัญหาตาแบบอื่น

ไรขนตา ต้นเหตุการระคายเคืองรอบดวงตา

ดวงตาของเรานั้นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าอาศัยอยู่ และเป็นสาเหตุของอาการระคายเคืองจนนำไปสู่อาการตาแดงได้ด้วย ซึ่งทางการแพทย์ได้ให้คำนิยามสิ่งมีชีวิตนี้ว่า ไรขนตา แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถป้องกันไรขนตาไม่ให้ทำร้ายดวงตาของเราจนอักเสบถึงขั้นร้ายแรงได้ ทำความรู้จักกับ ไรขนตา ไรขนตา (Eyelash Mites) มักอาศัยอยู่ตามรูขุมขนของผิวเรา แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักที่รบกวนผิวหนังของมนุษย์ ได้แก่ Demodex folliculorum และ Brevis Demodex ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้อุปกรณ์อย่างกล้องจุลทรรศน์ส่องเท่านั้น และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กที่ช่วยกินเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อย่างเช่น รอบใบหู ขาหนีบ แขน รวมถึงรอบดวงตาของเรา แต่บางครั้งไรขนตาเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาผิวหนังด้านอื่นๆ หรืออาจทำให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง ได้รับผลกระทบจากไรขนตาที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม สาเหตุที่พบส่วนมากมักมาจากการแต่งหน้ามากเกินไป ลบเครื่องสำอางไม่หมด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชอบทาอายแชโดว์ และปัดมาสคาร่า  รวมทั้งผู้ที่ต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันเยอะจนเกินไป ทำให้ปรสิตเหล่านี้มากัดกินเซลล์ผิวในตอนกลางคืน อาการที่พบบ่อยจากปัญหาไรขนตา  คันรอบๆ บริเวณโคนขนตาหรือเปลือกตา รู้สึกถึงสะเก็ดที่หลุดออกรอบผิวหนัง ดวงตาเริ่มมีสีแดงก่ำ รู้สึกแสบร้อนภายในดวงตา มองเห็นไม่ค่อยชัด หากมีอาการนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น เช่น ตาอักเสบบวม ขนตามีความหนืดเหนียว และคันระคายเคืองอย่างรุนแรง นำไปสู่กระพริบตาถี่ๆ โปรดขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที วิธีรักษา และป้องกันไรขนตาสร้างความระคายเคือง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจวินิจฉัยโดยการนำเนื้อเยื่อ หรือขนตาที่ลอกออกจากดวงตาไปตรวจ จากนั้นจะรสั่งยาเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย และการวางไข่ของไรขนตา นอกจากนั้น ยังมีวิธีป้องกันเบื้องต้นที่ทำเองได้ง่ายๆ ไม่ให้ปรสิตตัวน้อยมาสร้างความระคายเคืองให้ดวงตานั่นก็คือ หลีกเลี่ยงการปัดมาสคาร่า หรือเครื่องสำอางอื่นๆ […]


ปัญหาตาแบบอื่น

ตาแห้งหลังทำเลสิก เป็นเพราะอะไร รักษาและป้องกันได้อย่างไรบ้าง

สำหรับคนที่มีสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง และเบื่อการใส่แว่นสายตา หรือใส่คอนแทคเลนส์ตลอดเวลา ก็อาจต้องมองหาวิธีแก้ไขให้สายตากลับมาเป็นปกติ หรือใกล้เคียงปกติที่สุด และหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่หลายๆ คนนึกถึงและสนใจ ก็น่าจะเป็นการทำเลสิก (Lasik) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติด้วยการใช้เลเซอร์ชนิดหนึ่ง วิธีนี้ถือเป็นวิธีรักษาภาวะสายตาผิดปกติที่แน่นอนและแม่นยำที่สุด แต่การทำเลสิกก็เหมือนการผ่าตัดอื่นๆ นั่นคือ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ เช่น ตาแห้งหลังทำเลสิก ซึ่งถือเป็นผลข้างเคียงจากการทำเลสิกที่พบได้มากที่สุด ทำไมทำเลสิกแล้วถึงตาแห้ง ภาวะตาแห้งหลังทำเลสิก สามารถสังเกตได้จากอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา ตาล้า และตาแดง ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ภาวะตาแห้งหลังทำเลสิกอาจเป็นผลมาจากเส้นประสาทกระจกตาได้รับความเสียหายจากการผ่าตัด เนื่องจากระหว่างผ่าตัด แพทย์ต้องตัดเนื้อเยื่อและเส้นประสาทในกระจกตาบางส่วนออก เพื่อปรับแก้รูปทรงของกระจกตา ซึ่งโดยปกติแล้ว กระบวนการนี้จะไม่กระทบกับการมองเห็น แต่อาจทำให้การส่งสัญญาณระหว่างกระจกตาและต่อมน้ำตาเกิดปัญหาได้ชั่วคราว แต่ไม่นานก็จะหายเป็นปกติ สาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาตาแห้งหลังทำเลสิกได้ ก็คือ การอักเสบเนื่องจากผ่าตัด หรือในบางกรณี กระจกตารูปทรงใหม่ที่ได้หลังทำเลสิก อาจทำให้หนังตาเสียดสีกับกระจกตาบ่อยขึ้น จนส่งผลให้น้ำตาไหลง่าย หรือต้องกระพริบตาบ่อยๆ เลยทำให้คุณรู้สึกตาแห้งได้ ส่วนใหญ่แล้วอาการตาแห้งมักปรากฏให้เห็นภายในหนึ่งเดือนหลังทำเลสิก และมักจะหายดีได้ภายใน 6-12 เดือน แต่หากคุณตาแห้งจนกระทบกับการมองเห็น ทำให้มีอาการปวดรุนแรง หรือมีปัญหาตาอื่นๆ ตามมา ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ใครบ้างที่เสี่ยงตาแห้งหลังทำเลสิก แม้ภาวะตาแห้งหลังทำเลสิกจะเป็นผลข้างเคียงจากการทำเลสิกที่พบได้บ่อย แต่ผู้ที่มีภาวะเหล่านี้ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะตาแห้งหลังทำเลสิกมากขึ้น มีอาการตาแห้งตั้งแต่ก่อนทำเลสิก ใส่คอนแทคเลนส์ เป็นโรคเบาหวาน สายตาสั้นมากก่อนทำเลสิก มีเชื้อสายเอเชีย เป็นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน เป็นโรคภูมิต้านตนเอง หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune diseases) […]


ปัญหาตาแบบอื่น

เปลือกตาบวม (Swollen Eyelid) เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

บางคนอาจคิดว่า เปลือกตาบวม คือเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นที่จะต้องรับการรักษาก็ได้ แต่เมื่อใดที่ปล่อยให้เปลือกตาบวมเป็นระยะเวลานาน ก็อาจส่งผลต่อดวงตาของคุณได้ นอกจากนั้นแล้วเปลือกตาบวมยังอาจมีอีกหลายสาเหตุด้วยกัน ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องนี้มานำแชร์กัน เปลือกตาบวม (Swollen Eyelid) เกิดจากอะไร? เปลือกตาบวมถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ สาเหตุที่ทำให้เกิดเปลือกตาบวมอาจมีสาเหตุตั้งแต่การกักเก็บของเหลว ไปจนถึงขั้นติดเชื้อรุนแรง ในกรณีส่วนใหญ่เมื่อเกิดอาการเปลือกตาบวม มันจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถลดอาการบวมได้ด้วยการประคบตรงเปลือกตาที่บวม แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดอาการเปลือกตาบวมด้วย สำหรับเปลือกตาบวมก็สามารถเกิดจาหลายสาเหตุด้วยกัน บางครั้งเงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง ก็อาจทำให้เกิดอาการเปลือกตาบวมได้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงโรคคอพอกตาโปน (Graves) และมะเร็งตา ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่หาได้ยากก็ตาม ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา หากอาการบวมเกิดขึ้นนานกว่า 24-48 ชั่วโมง สาเหตุที่ทำให้เปลือกตาบวม (Swollen Eyelid) สาเหตุส่วนใหญ่ของเปลือกตาบวมนั้นมักจะไม่ค่อยเป็นอันตราย แต่ดูเหมือนว่าปัญหาเล็กน้อยนี้อาจจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นได้ สำหรับสาเหตุของเปลือกตาบวม มีดังนี้ กุ้งยิง กุ้งยิงเกิดขึ้นจากการติดเชื้อของต่อมเปลือกตา ซึ่งกุ้งยิงชนิดที่พบมากที่สุดคือการติดเชื้อของต่อมน้ำตาที่อยู่ที่ฐานของขนตา บางครั้งกุ้งยิงก็เกิดขึ้นภายในเปลือกตา เนื่องจากต่อมน้ำมันที่ติดเชื้อ กุ้งยิงมีชักเริ่มเป็นจากสีแดง คัน เจ็บปวด บวมเป็นก้อน ในชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือต้องใช้เวลา 2-3 วัน มันจะเริ่มมีลักษณะคล้ายกับสิว และบางคนก็มีหัวสีขาวด้วย โรคภูมิแพ้ดวงตา สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของเปลือกตาบวม คือ โรคภูมิแพ้ที่ตา ซึ่งโรคภูมิแพ้ดวงตานั้นมักจะขัดจังหวะกิจวัตรประจำวัน […]


ปัญหาตาแบบอื่น

ตาเหลือง หม่นหมองแบบนี้ เกิดจากอะไรกันนะ?

ดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของดวงใจ การมีแววตาที่สดใส เป็นการสร้างเสน่ห์ให้แก่ผู้ที่พบเห็น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ตาของคุณเป็นสีเหลือง ดูหม่นหมอง นั่นอาจไม่ใช่เพียงแค่การทำให้คุณหมดความมั่นใจ แต่อาจหมายถึงคุณกำลังมีอาการของโรคร้ายอื่น ๆ โดยไม่รู้ตัว มาทำความรู้จักกับอาการ ตาเหลือง ให้มากขึ้น กับบทความนี้ โดย Hello คุณหมอ อาการ ตาเหลือง คืออะไร ตาเหลือง หรือ อาการตาเหลือง มักเกิดขึ้นในกรณีที่มีภาวะของโรคดีซ่าน ที่เกิดจากการมีสารบิลิรูบิน (Bilirubin) สะสมอยู่ในกระแสเลือดมากจนเกินไป และเข้าไปจับกับเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมีสีเหลือง ทั้งบริเวณผิวหนัง และดวงตา ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าดีซ่านนั้นเป็นเฉพาะในวัยเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ใหญ่ในช่วงวัยอื่น ๆ ก็สามารถเผชิญกับโรคนี้ได้เช่นกัน ตาเหลืองเกิดจากอะไร การมีดวงตาที่สดใส เนื้อตาขาวมีสีขาว สะอาด ไม่ขุ่นมัว เป็นการบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดี แต่เมื่อใดก็ตามที่บริเวณเนื้อตาสีขาวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของสี อาจจะถึงเวลาที่คุณควรจะไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัย เพราะคุณอาจจะกำลังมีอาการตาเหลือง สาเหตุของอาการ ตาเหลือง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยมีปัญหาหลักคือ การที่ร่างกายมีสารบิลิรูบินสะสมอยู่ในเลือดมากเกินไป จนทำให้เกิดโรคดีซ่าน ที่แสดงอาการในลักษณะของตัวเหลือง และตาเหลือง ซึ่งอาการที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้น จะเห็นได้ชัดมากที่ดวงตา เนื่องจากสีขาวของดวงตาจะไม่มีเม็ดสีเหมือนกับที่พบในผิวหนัง อย่างไรก็ตาม […]


ปัญหาตาแบบอื่น

สีดวงตา สามารถบอกถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพได้

โดยปกติแล้ว สีดวงตา ของแต่ละคนมักจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติของบุคคลนั้นๆ เป็นหลัก แต่รู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วสีของดวงตา ก็สามารถบอกถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพได้เช่นกัน เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว ลองอ่านบทความนี้ของ Hello คุณหมอ แล้วมาสังเกตสีดวงตากันดีกว่า สีดวงตา แต่ละสี บอกความเสี่ยงอะไรต่อสุขภาพบ้าง หลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” ความจริงแล้วดวงตายังสามารถเป็นหน้าต่างของสุขภาพได้อีกด้วย โดย สีดวงตา แต่ละสี สามารถบอกความเสี่ยงต่างๆ ได้ดังนี้ ดวงสีอ่อน โดยปกติแล้ว ทางการแพทย์ได้ระบุเอาไว้ว่า ผู้ที่มีม่านตาสีอ่อน มีแนวโน้มว่าจะมีความไวต่อแสงมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากดวงตาที่มีสีอ่อนมีเม็ดสีที่น้อยกว่าในการปกป้องพวกเขาจากรังสีอัลต้าไวโอเลตที่เป็นอันตราย นั่นหมายความว่านอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายของการมากเห็นจากดวงอาทิตย์มากขึ้นแล้ว ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง รวมไปถึงจอประสาทตาเสื่อมสภาพ ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นได้ ดังนั้นการสวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวี จึงเป็นเรื่องที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยลดโอกาสความเสียหายของดวงตา แต่ในทางกลับกันการวิจัยก็ชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่มีดวงตาสีอ่อนก็สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้มากขึ้น นอกจากนั้นแล้วนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแพทย์พิตต์สเบิร์ก ได้ศึกษาหญิงตั้งครรภ์ 58 คน พบว่า ผู้ที่มีตาสีอ่อนมักมีอาการเจ็บปวดระหว่างคลอดน้อย ทั้งยังเกิดภาวะความวิตกกังวลต่ำ และมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีดวงตาสีเข้ม แต่ผู้ที่มีดวงตาสีฟ้าและผิวขาว มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นคนติดสุรา ดวงตาสีเข้ม การศึกษาที่มหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ แสดงให้เห็นว่าคนที่มีดวงตาสีเข้ม มักจะมีการตอบสนองที่ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข้าร่วมในกิจกรรมกีฬาบางอย่างมากกว่าคนที่มีตาสีอ่อน ผู้ที่มีดวงตาสีเข้มอาจมีความอดทนต่อความเจ็บปวดน้อยกว่า ทั้งยังมีโอกาสเกิดภาวะวิตกกังวลสูงกว่าผู้ที่มีดวงตาสีอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการคลอดบุตร ผู้ที่มีดวงตาสีเข้มอาจบ่งบอกได้ว่า มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังลดลง ทั้งยังมีแนวโน้มจะทำให้คนรู้สึกไว้วางใจได้มากกว่าคนอื่นๆ […]


ปัญหาตาแบบอื่น

ACHOO Syndrome : มองแสงแล้วจาม ทุกที เกิดจากอะไรกันแน่!

อาการจามถือเป็นเรื่องที่ปกติ สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติในชีวิตประจำวัน เพราะจมูกมีความระคายเคือง จึงส่งผลให้จาม แต่จะมีบางคนที่เมื่อ มองแสงแล้วจาม เจอแดดจ้าๆ แล้วจาม แถมจามต่อเนื่องติดต่อกันหลายครั้ง อาการนี้เรียกว่า ACHOO Syndrome หากใครกำลังสงสัยวันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลมาให้อ่านกันค่ะ เมื่อ มองแสงแล้วจาม เกิดขึ้นจากอะไร การจาม เป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยขจัดสิ่งระคายเคืองออกจากจมูก ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่เป็นหวัดธรรมดาหรือเป็นภูมิแพ้ แต่บางคนก็จะจามเมื่อมองแสงจ้าๆ และสิ่งกระตุ้นอื่น ๆ เมื่อมองแสงสะท้อนแล้วจามเป็นโรคที่เรารู้จักกันในชื่อ Autosomal dominant Compelling Helio-Ophthalmic Outburst (ACHOO) มันเป็นอาการที่เกิดจากการจามอย่างต่อเนื่องเมื่อเจอแสงจ้าๆ ซึ่งมีความแตกต่างจากการจามปกติ ที่เกิดจากการติดเชื้อหรือการระคายเคือง ซึ่ง ACHOO syndrome จะส่งผลกระทบต่อประชากรประมาณร้อยละ 11 ถึง 35 แต่ก็ยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างละเอียด จากการศึกษาของปี 1995 แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในวารสาร American Optometric Association กล่าวว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีอาการมองแสงแล้วจาม จะเป็นผู้หญิงมากกว่าและชาวคอเคเชี่ยนมีโอกาสเป็นมากกว่า พันธุ์กรรมเกี่ยวข้องอย่างไรกับการ มองแสงแล้วจาม ACHOO Syndrome เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่สืบทอดและส่งต่อกันมา แต่เนื่องจากการจามถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการจามเพราะการติดเชื้อหรือว่าภูมิแพ้ จึงอาจทำให้หลายๆ คนไม่ทันได้สังเกตว่า การจาม ของตัวเองมีสาเหตุมาจากอะไร […]


ปัญหาตาแบบอื่น

บำรุง ขอบตาดำ ให้กลับมาไบรท์ ด้วยสูตรนมเปรี้ยวผสมขมิ้น

เคยไหม ? ขอบตาดำ จนทำให้รู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องกับหมีแพนด้า เนื่องจากหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ดวงตาของเรานั้นทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดความอ่อนล้า เกิดเป็นรอยหมองคล้ำบริเวณรอบๆ ไม่สดใสเหมือนเดิม วันนี้ Hello คุณหมอ มีสูตรบำรุงขอบตาให้กับมาดูสดใสไม่หมองคล้ำ ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง นมเปรี้ยวและขมิ้น ขอบตาดำ เกิดขึ้นได้อย่างไร ? การเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่พองตัวขึ้นบริเวณรอบดวงตา เปลือกตา และใต้ตาทำให้มีสีที่เข้มขึ้น ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้คุณมีขอบตาดำคล้ำ หม่นหมองอีกด้วย นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน โรคภูมิแพ้ รอยดำซึ่งเกิดจากร่างกายผลิตเมลานินมากเกินไป ผิวใต้ตาบอบบาง โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ได้รับแสงแดดมากเกินไป สูบบุหรี่ พันธุกรรมที่สืบทอดมา ร่างกายขาดน้ำ อายุที่มากขึ้น การเสื่อมสภาพของร่างกาย ประโยชน์ด้านความงามของนมเปรี้ยวและขมิ้น ก่อนจะไปพบกับสูตรบำรุงขอบตานั้นมาทำความรู้จักกับประโยชน์ด้านความงามของนมเปรี้ยวและขมิ้นกันก่อนดีกว่าว่ามีข้อดีอะไรกันบ้าง นมเปรี้ยว มีส่วนประกอบของกรดแลคติค (Lactic) เป็นกรดธรรมชาติซึ่งอยู่ในนมเป็นส่วนใหญ่ นอกจากที่นำมาดื่มเพื่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังสามารถใช้ในการบำรุงผิวพรรณ ผลัดเซลล์ผิวเก่าออกทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น จุดด่างดำจางลง และรอยเหี่ยวย่นดูตื้นขึ้นตามลำดับ เช่นเดียวกันกับการที่นำนมเปรี้ยวมาพอกบริเวณขอบตาที่มีความหมองคล้ำ กรดแลคติคในนมเปรี้ยวจะลดความดำและร่องรอยเหี่ยวย่นต่างๆ ที่เกิดจากการเหนื่อยล้าของรอบดวงตาได้ในระดับดี ขมิ้น เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่รู้จักกันดีในบรรดากลุ่มสาวๆ และถูกกล่าวถึงอย่างมากในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณให้ผ่องใส เนื่องจากขมิ้นมีสาร เคอร์คูมิน (Curcumin) เป็นสารจำพวกเดียวกับที่อยู่ในขิง มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ป้องกันแบคทีเรียปรสิต และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ นอกจากบำรุงผิวกายที่คุณคุ้นเคยกันดีแล้ว ยังสามารถนำมาบำรุงขอบตาที่ดำคล้ำเพื่อให้สารเคอร์คูมิน (Curcumin) และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่อยู่ในขมิ้นลดอาการอักเสบบวมของหลอดเลือดที่พองขึ้นทำให้ระบบไหลเวียนเลือดกลับมาสมดุลและดวงตาค่อยๆ กลับมาสว่างอีกครั้ง สูตรบำรุง ขอบตาดำ ให้กลับมาไบร์ท […]


ปัญหาตาแบบอื่น

ตาแดง เพียงแค่สบตา ก็ติดต่อกันได้จริงเหรอ

เราอาจจะเคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่หลาย ๆ คนบอกไม่ให้เราสบตากับคนที่เป็น ตาแดง หรือให้แลบลิ้นใส่คนที่เป็นตาแดงเพื่อแก้เคล็ดไม่ให้โรคติดต่อกัน แต่โรคนี้สามารถติดต่อสู่คนอื่นได้จากการสบตาจริง ๆ หรือไม่อย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร และป้องกันโรคได้อย่างไรบ้าง [embed-health-tool-bmi] ตาแดง เกิดจากอะไร ตาแดง (Conjunctivitis or Pink eye) เป็นอาการอักเสบของเยื่อบุลูกตา ซึ่งคือส่วนที่เป็นสีขาวของดวงตาและภายในเปลือกตา ตาแดงนั้นสามารถเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อและไม่ใช่การติดเชื้อ แต่โดยส่วนใหญ่นั้นมักจะเกิดจากการติดเชื้อ และสามารถแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ โดยปกติแล้ว ตาแดง มักจะพบได้มากในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ตาแดง จากการติดเชื้อได้ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะเป็นเชื้อประเภทเดียวกันกับเชื้อที่ทำให้เกิดโรคหวัดและการติดเชื้ออื่น ๆ เช่น การติดเชื้อที่หู การติดเชื้อที่ไซนัส หรืออาการเจ็บคอจากการติดเชื้อ ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อแบคทีเรียนั้นยังอาจจะเป็นเชื้อประเภทเดียวกันกับเชื้อที่ทำให้เกิดโรคหนองในได้เช่นกัน หากได้สัมผัสกับบริเวณอวัยวะเพศของผู้ที่ติดเชื้อหนองใน แล้วมาขยี้ตาโดยไม่ได้ล้างมือ ความแตกต่างของ โรคตาแดง จากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ตาแดง จากเชื้อไวรัส โรคตาแดงจากเชื้อไวรัสนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายมาจากบริเวณจมูก หรือเกิดจากเชื้อไวรัสที่ได้รับเมื่อมีคนมาไอหรือจามใส่ ตาแดง จากเชื้อแบคทีเรีย โรคตาแดงจากเชื้อแบคทีเรียนั้นมักจะมาจากเชื้อแบคทีเรียที่มาจากระบบทางเดินหายใจหรือแบคทีเรียบนผิวหนัง นอกจากนี้ อาจมีโอกาสที่จะติดเชื้อแบคทีเรียจากการสัมผัสกับมือที่สกปรก ใช้เครื่องสำอางที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย หรือแบ่งปันของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ที่ติดโรคตาแดงอยู่ได้เช่นกัน ตาแดง จากการติดเชื้อทั้ง 2 ประเภทนั้น มักจะมีอาการที่คล้ายกัน คือ มีอาการตาแดงในบริเวณลูกตาขาว มีน้ำตาไหล […]


ปัญหาตาแบบอื่น

เตรียมพร้อมรับมือกับ ภาวะสายตายาวตามวัย ในวัยใกล้ 40

หากคุณมีอายุเกิน 40 ปี และต้องเหยียดแขนถือหนังสือ เพื่อที่จะได้มองเห็นตัวหนังสือไกลมากกว่าปกติแล้วล่ะก็ คุณอาจมีโอกาสที่คุณกำลังมี ภาวะสายตายาวตามวัย แล้วล่ะ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาไปอ่านกันว่าภาวะนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ภาวะสายตายาวตามวัยคืออะไร ภาวะสายตายาวตามวัย (Presbyopia) คือภาวะที่เกิดในกลุ่มคนอายุเกิน 40 ปี ซึ่งมีปัญหาทางด้านการมองเห็นในระยะใกล้ คำว่า Presbyopia มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกซึ่งแปลว่า ดวงตาที่แก่ตัวลง ซึ่งคนจำนวนมากจะรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงด้านสายตาเมื่อมีอายุ 40 ปีขึ้นไป แม้ชื่อจะฟังแล้วไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจสักเท่าไหร่ แต่มันไม่ใช่โรคร้าย เป็นเพียงภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้เมื่อคนเราอายุมากขึ้นเท่านั้นเอง ตอนที่เราอายุยังน้อย เลนส์ดวงตาเรายังมีควาอ่อนตัวและยืดหยุ่นสูง สามารถรับการมองเห็นรูปภาพและสิ่งของได้ในระยะที่ทั้งใกล้และไกล แต่เมื่อมีอายุถึง 40 ปี เลนส์ดวงตาจะแข็งตัวและไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนอย่างเคย ความยืดหยุ่นของดวงตาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตามวัยนี่เองที่ทำให้เกิดภาวะสายตายาวตามวัย โดยเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นภาพชัดในระยะใกล้ๆ แต่การมองเห็นในระยะไกลยังคงเป็นปกติดี ภาวะสายตายาวตามวัยกับปัญหาสายตาชนิดอื่นๆ ปกติแล้ว มักเกิดความสับสนระหว่างภาวะสายตายาวสูงอายุกับอาการสายตายาวทั่วไป เนื่องจากทั้งสองภาวะนี้มีอาการที่คล้ายคลึงกันมาก แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือสาเหตุของปัญหา โดยภาวะสายตายาวตามวัย จะเกิดขึ้นเมื่อเลนส์ตาของเรานั้นมีความยืดหยุ่นน้อยลง เมื่ออายุมากขึ้น ในขณะที่ สายตายาวทั่วไป เกิดจากรูปทรงของดวงตาผิดปกติ ซึ่งทำให้การหักเหของแสงเข้าสู่ดวงตาเพื่อสร้างภาพไม่ถูกต้อง ส่งผลให้เวลามองภาพที่อยู่ในระยะใกล้ ภาพจะพร่ามัวและไม่ชัดเจน ทุกคนสามารถเกิดภาวะสายตายาวตามวัยได้เมื่ออายุมากขึ้น สำหรับผู้ที่มีภาวะสายตายาว สายตาสั้น หรือสายตาเอียงอยู่แล้ว ก็สามารถเกิดอาการสายตายาวตามวัยร่วมด้วยได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีสายตาสั้นจะพบว่า การมองภาพระยะใกล้มีความพร่ามัว แม้จะใส่คอนแท็คเลนส์หรือแว่นสายตาที่เคยใส่แล้วก็ตาม อาการของภาวะสายตายาวตามวัย ผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามวัยจะไม่สามารถอ่านหนังสือได้ เนื่องจากสายตาพร่ามัว […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม