ตกขาวสีดำ อาจเป็นตกขาวที่ปนกับเลือด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก ประจำเดือนตกค้าง ประจำเดือนมาน้อยในช่วงวันแรกหรือใกล้หมดประจำเดือน แต่หากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น เจ็บแสบช่องคลอดขณะปัสสาวะและมีเพศสัมพันธ์ คันรอบนอกช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อในช่องคลอดหรือมะเร็งปากมดลูกได้
[embed-health-tool-ovulation]
ตกขาวสีดำ เกิดจากอะไร
ตกขาวสีดำ คือตกขาวปนเลือด ที่มีอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
- ประจำเดือน
ในช่วงแรกที่ประจำเดือนมาและช่วงใกล้หมดประจำเดือน อาจมีเลือดตกค้างที่ใช้เวลานานกว่าจะขับออกจากช่องคลอดทำให้เลือดที่ออกมามีสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ซึ่งหากมีตกขาวร่วมด้วยก็อาจส่งผลให้มีตกขาวสีดำ นอกจากนี้ หากมีประจำเดือนมาไม่ปกติ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย และมีประจำเดือนตกค้างภายในช่องคลอด ก็อาจส่งผลให้มีตกขาวสีดำได้เช่นกัน
- สิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในช่องคลอด
ตกขาวสีดำอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ภายในช่องคลอด เช่น ถุงยางอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด อุปกรณ์คุมกำเนิด จนส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดระคายเคือง มีแผล และอาจนำไปสู่การติดเชื้อ
ตกขาวสีดำอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสและเชื้อราในช่องคลอดผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม หูดหงอนไก่ โรคพยาธิในช่องคลอด ซึ่งควรรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปวดกระดูกเชิงกรานเรื้อรังและภาวะมีบุตรยาก
- การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร
ตกขาวสีดำอาจเกิดขึ้นเนื่องจากตัวอ่อนฝังตัวลงบนผนังมดลูก ทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดไหลปนกับตกขาว หรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของการแท้งบุตร นอกจากนี้ คุณแม่หลังคลอดอาจมีลิ่มเลือดตกค้างจากการคลอดทำให้ตกขาวมีสีแดง สีชมพู สีน้ำตาลหรือตกขาวสีดำได้ โดยปกติแล้วมักเกิดขึ้นช่วงหลังคลอดบุตร 4-6 สัปดาห์
- โรคมะเร็งปากมดลูก
ตกขาวสีดำอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งปากมดลูก โดยในระยะแรกอาจมีอาการตกขาวสีใสเป็นน้ำ และอาจมีกลิ่นเหม็น เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีเลือดปนและเปลี่ยนเป็นตกขาวสีน้ำตาลหรือตกขาวสีดำออกมาทางช่องคลอด
ตกขาวสีดํา อันตรายไหม
อาการตกขาวสีดำ อาจเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ผู้หญิงส่วนใหญ่พบเจอในช่วงระยะแรกที่ประจำเดือนมาหรือหมดประจำเดือน แต่หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรเข้าพบคุณหมอทันที โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้
- ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น
- อาการคันในช่องคลอดและรอบนอกช่องคลอด
- ปัสสาวะลำบาก
- ผื่นหรือตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ
- เจ็บแสบช่องคลอดขณะปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
- ปวดท้องน้อยรุนแรงหรือปวดอุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับภาวะแท้งบุตรหรือมะเร็งปากมดลูก
ตกขาวสีดํา วิธีรักษา
วิธีรักษาตกขาวสีดำ อาจแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวสีดำ ดังต่อไปนี้
- สำหรับผู้ที่มีตกขาวสีดำเนื่องจากประจำเดือนมาไม่ปกติและฮอร์โมนไม่สมดุล คุณหมออาจรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด เพื่อช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติ ป้องกันประจำเดือนตกค้าง
- สำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด อาจใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- สำหรับผู้ที่มีภาวะแท้งบุตร คุณหมออาจจำเป็นต้องนำทารกที่หยุดการเจริญเติบโตออกและขูดมดลูกเก่าทิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและป้องกันภาวะเสียเลือดมากที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
- สำหรับผู้ที่มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในช่องคลอด ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ออก
- สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งปากมดลูก คุณหมออาจรักษาด้วยการฉายรังสี เคมีบำบัดหรือการผ่าตัด เพื่อชะลอการเจริญเติบโตเซลล์มะเร็งหรือกำจัดเซลล์มะเร็ง
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันตกขาวสีดำ
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันตกขาวสีดำ อาจทำได้ดังนี้
- บันทึกและตั้งแจ้งเตือนกำหนดวันที่ควรเปลี่ยนอุปกรณ์คุมกำเนิด เพื่อป้องกันการลืมเปลี่ยน
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยการใช้สบู่สูตรอ่อนโยน และซับให้แห้งสนิทโดยใช้ทิชชูหรือผ้าสะอาดเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังทวารหนัก เพื่อไม่ให้สัมผัสกับเชื้อโรคในบริเวณทวารหนัก
- เลือกกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายที่ระบายความอับชื้นได้ดี ป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไปที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อในช่องคลอดและตกขาวสีดำ
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ลีกเลี่ยงการใช้เซ็กส์ทอยร่วมกับผู้อื่น และควรทำความสะอาดก่อนทุกครั้งก่อนใช้งานและหลังใช้งานเสร็จ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เช่น การเข้ารับการรักษามะเร็ง การรับประทานยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจคัดกรองโรค และตรวจสุขภาพขณะตั้งครรภ์สม่ำเสมอ