ยืดผม เป็นประบวนการที่ทำให้เส้นผมมีลักษณะยืดตรง โดยการใช้ความร้อนหนีบผม ร่วมกับการใช้สารเคมีเพื่อช่วยทำให้เส้นผมสามารถยืดได้ง่ายขึ้น และอยู่ทรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การยืดผมอาจทำร้ายเส้นผม และทำให้ผมเสีย แห้ง แตกปลายได้ ดังนั้น จึงควรดูแลเส้นผมอย่างเหมาะสม เช่น รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เพื่อช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี ไม่แห้งเสีย หรือหลุดร่วง
[embed-health-tool-bmr]
ประเภทของเส้นผม
เส้นผมของมนุษย์มีหลายประเภทแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุกรรมที่ได้รับมาจากครอบครัว ซึ่งประเภทของเส้นผมหลัก ๆ มีดังนี้
ประเภทที่ 1 ผมตรง
เป็นผมที่มีรายละเอียดความแตกต่างของลักษณะเส้นผมแยกออกไปอีก เช่น บางคนอาจมีเส้นผมตรงที่ดูดำหนา และบางคนอาจมีเส้นผมที่เล็กดูเบาบาง แต่ทรงผมนี้เป็นทรงผมที่สไตลิสต์ได้เห็นตรงกันว่าเป็นประเภทที่สามารถจัดทำทรงผมได้หลากหลายและพบปัญหาน้อยมากที่สุด
ประเภทที่ 2 ผมหยักศก
สามารถแบ่งย่อยออกได้อีก 3 ระดับ คือ
- ระดับ 2A เป็นเส้นผมที่มีลักษณะเป็นธรรมชาติตั้งแต่โคนจรดปลาย มีสัมผัสที่นุ่มนวล มีวอลลุ่ม
- ระดับ 2B รูปทรงของเส้นผมค่อนข้างคล้ายตัว S มีความหยิกเล็กน้อย ตั้งแต่บริเวณกลางเส้นผมจนถึงปลายผม
- ระดับ 2C เป็นรูปทรงคล้ายคลื่นทะเล หรือตัว S อย่างชัดเจนกว่าระดับอื่นๆ และมีความหนาหยิกง่ายในสภาพอากาศที่ชื้น
ประเภทที่ 3 ผมหยิก
มี 3 ระดับ ดังนี้
- ระดับ 3A มีลักษณะเป็นลอนหยิกตัว S สามารถหลุดร่วงได้ง่ายหากคุณหวี หรือแปรงด้วยความรุนแรง
- ระดับ 3B ทรงข้องเส้นผมค่อนข้างคล้ายกับระดับ 3A มีความหยิกระดับปานกลางไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
- ระดับ 3C เป็นเส้นผมมีรูปร่างเหมือนเกลียวคล้ายสปริง แต่ยังคงความเบาบางเพื่อให้ง่ายต่อการจัดทรงผม
ประเภทที่ 4 คอยส์
เป็นผมหยิกที่มีเกลียวขนาดเล็กถี่ๆ ซึ่งแบ่งออกได้อีก 3 ระดับ ดังนี้
- ระดับ 4A คาสติลโล (Castillo) สไตลิสต์ชื่อดัง ผู้ก่อตั้งร้านทำผมแห่งหนึ่งในไมอามี่ ได้กล่าวไว้ว่า คุณควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมระดับนี้อย่างมาก และไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแปรงผมอีกด้วย ด้วยผมที่หยิกเป็นพิเศษอาจทำให้คุณเจ็บหนังศีรษะ
- ระดับ 4B มีลักษณะเกลียวเล็กซิกแซ็กเล็กน้อย ควรเพิ่มความชุ่มชื้น และได้รับการบำรุงเช่นเดียวกับ 4A
- ระดับ 4C เป็นเส้นผมที่ดูจากภายนอกนั้นค่อนข้างหนาแน่นมาก ด้วยความลอนเล็กเกาะเป็นกลุ่มก้อนจนดูด้วยตาเปล่าแทบไม่ออก และยังมีความบอบบางมากที่สุดซึ่งต้องใช้การดูแลอย่างเหมาะสม
ลักษณะเส้นผมทั้ง 4 ประเภทนี้ สามารถยืดผมได้ทั้งหมด แต่โดยส่วนใหญ่ผมที่เหมาะสำหรับการยืดผมคือผมประเภทผมหยิกจนถึงผมหยิกมาก เนื่องจากมีความหยิกงอ การยืดผมจึงอาจช่วยให้จัดทรงได้ง่ายขึ้น และอาจช่วยลดความชี้ฟูของผมได้
5 สูตรธรรมชาติ ยืดผม ของคุณให้ตรงสวย
-
สูตรที่ 1 กะทิและน้ำมะนาว
เตรียมกะทิ 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันแช่เย็นค้างไว้ 1 คืนก่อนการยืดผม จากนั้นแบ่งผมเป็นช่อเล็กแล้วชโลมให้ทั่วตั้งแต่รากผมจนถึงปลายผม หมักทิ้งไว้ 30 นาที แล้วสระผมด้วยแชมพูตามปกติ ควรทำสัปดาห์ละครั้ง จะสังเกตเห็นถึงความเรียบแบนของผม และความอ่อนนุ่มมากขึ้น
-
สูตรที่ 2 สเปรย์น้ำนม
นำน้ำนม 1 ส่วน 4 ของถ้วยตวง และขวดใส่ที่มีหัวฉีด เพียงแค่คุณเทนมนั้นใส่ขวดแล้วปิดฝา ก็สามารถฉีดลงบนเส้นผมของคุณได้ทันที หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และล้างออกด้วยน้ำเย็น เพราะโปรตีนจากนมจะช่วยลดการชี้ฟู รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ภายในเส้นผมอีกด้วย ควรทำประมาณ 1 – 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์
-
สูตรที่ 3 ไข่ผสมน้ำมันมันมะกอก
สูตรนี้อาจใช้เวลาหมักนานซักหน่อยแต่รับรองถึงประสิทธิภาพที่ดีปลอดภัยแก่หนังศีรษะของคุณแน่นอน โดยเตรียมไข่ไก่ 2 ฟอง และน้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี นำมาหมักผมประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นชำระล้างด้วยแชมพูสระผม และน้ำเย็น สามารถทำได้เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น
-
สูตรที่ 4 กล้วยและมะละกอ
เพราะสารที่อยู่ในผลไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้ สามารถเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม และปรับสภาพให้เส้นผมดำเงางาม นุ่มสลวย ดูเรียบแบนขึ้น โดยนำมะละกอสุกที่หั่นแล้ว 1 ชิ้นใหญ่ มาบดผสมกับกล้วยสุก 1 ลูก จนกลายเป็นเนื้อละเอียด ชโลมลงบนเส้นผมของคุณจนกว่าจะแห้ง หรือประมาณ 45 นาที จากนั้นทำความสะอาดด้วยน้ำเย็น และแชมพูสระผม
- สูตรที่ 5 ยืดผมด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เต็มไปด้วยเอนไซม์ที่ช่วยในการบำรุงให้เส้นผมที่หยิกกลับมาค่อยๆ ตรงและได้ความเนียนนุ่ม รวมถึงลดปริมาณของผมหงอกลงได้ นำว่านหางจระเข้สด หรือเจลว่านหางบริสุทธิ์ ผสมกับน้ำมันมะพร้าว 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง โดยน้ำมันมะพร้าวควรมีการนำไปอุ่นเสียก่อนแล้ว จากนั้นคนให้เข้ากันทาบริเวณเส้นผมให้ทั่วทั้งศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 40 นาที และล้างออกด้วยแชมพูให้สะอาด
ทั้ง 5 สูตรนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีในการยืดผม เพียงแต่อาจใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนานกว่า หากสาวๆ คนไหนใจร้อนอยากหนีผมหยิกหยักศกเต็มทน ก็สามารถยืดได้ที่ร้านเสริมสวยทั่วไปแต่ควรศึกษาการทำงานของสารเคมีในผลิตภัณฑ์ให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันการระคายเคืองรุนแรงบนหนังศีรษะ
วิธีการดูแลเส้นผม
- ตัดผม อย่างน้อย 3 เดือนครั้ง เพื่อลดการเจริญเติบโต และการลุกลามของปัญหาเส้นผม เช่น การแตกปลายชี้ฟู
- ควรสระผมโดยใช้น้ำที่อุณหภูมิค่อนข้างเย็น ไม่ควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะอาจทำให้หนังศีรษะของคุณแห้ง ผมร่วงได้ง่าย
- รับประทานอาหารจำพวกโปรตีน เพื่อความแข็งแรงต่อโครงสร้างภายในเส้นผมที่เปราะบาง
- บำรุงผมด้วยวิตามินบำรุงผม เช่น วิตามินซี โอเมก้า3 ไบโอติน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม เสริมสร้างคอลลาเจนทำให้สุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมแข็งแรงยิ่งขึ้น