[embed-health-tool-bmi]
ฉี่แล้วแสบ เกิดจากอะไร
1. สาเหตุจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในวัยทำงานจากการกลั้นปัสสาวะ พบมากในเพศหญิงวัย 30-40 ปี โดยเฉพาะผู้ที่แต่งงานแล้ว อาจเกิดการอักเสบในช่องคลอดได้บ่อย เกิดตกขาวมากกว่าปกติ เชื้อแบคทีเรียจะเข้ากระเพาะปัสสาวะง่ายเพราะหลอดปัสสาวะผู้หญิงสั้นกว่าผู้ชาย ซึ่งแพทย์จะตรวจปัสสาวะ พบการติดเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจปนอยู่ในน้ำปัสสาวะ เช่น เชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะเชื้ออีโคไล เลือด หรือเม็ดเลือดขาว
อาการสำคัญของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีดังนี้
- ปวดฉี่บ่อย อาจมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน
- ลุกมาฉี่บ่อยมากในเวลากลางคืน
- ฉี่บ่อย แต่ฉี่ออกมาครั้งละน้อย ๆ
- ฉี่ได้ไม่สุด หรือเมื่อฉี่สุดแล้ว อาจเจ็บเสียวบริเวณปลายหลอดปัสสาวะ
- ฉี่แล้วแสบขัด
- เจ็บเสียวบริเวณปลายหลอดปัสสาวะหรือบริเวณท้องน้อย
- บางรายมีเลือดปนกับปัสสาวะ
วิธีป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำอย่างน้อย 6 – 8 แก้วต่อวัน
- ขับถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวด ไม่กลั้นปัสสาวะนานเกิน 6 ชั่วโมง
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน เพื่อลดการติดเชื้อโรค
2. สาเหตุจากโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ความเป็นกรดในปัสสาวะและภูมิคุ้มกันลดลง อีกทั้งมีแหล่งสะสมเชื้อโรคเพิ่มในร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการปัสสาวะเล็ด ในเพศชายเมื่ออายุมากขึ้น สารคัดหลั่งจากต่อมลูกหมากมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อลดลง ส่วนผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนจะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน เชื้อแลคโตบาซิลลัสบริเวณช่องคลอดน้อยลง ทำให้ค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอดสูงขึ้น เชื้อโรคจึงเติบโตได้ดี
อาการสำคัญของโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เช่น
- ร่างกายติดเชื้อส่วนล่างของระบบทางเดินปัสสาวะจะมีผลต่อกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ
- ฉี่แล้วแสบขัด
- ฉี่บ่อยขึ้น น้ำปัสสาวะสีขุ่น
- หากติดเชื้อที่กรวยไตจะมีไข้ ปวดหลังร่วมด้วย
วิธีป้องกันโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำอย่างน้อย 6 – 8 แก้วต่อวัน ปัสสาวะจะเจือจางและล้างเชื้อโรคออกจากกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้แบคทีเรียลดลง
- ดูแลสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาด
- สวมเสื้อผ้า กางเกงที่โปร่งสบายเพื่อป้องกันการอับชื้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ ชา และน้ำอัดลม
- ไม่กลั้นปัสสาวะนาน ๆ
- ดูแลสุขอนามัย
- รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อป้องกันท้องผูกเพราะมีผลต่อการทำงานของลำไส้และกระเพาะปัสสาวะ
3. สาเหตุจากโรคฮันนีมูน
โรคฮันนีมูน เกิดเฉพาะในเพศหญิง จากการอักเสบบริเวณท่อปัสสาวะ ช่องคลอด หรือกระเพาะปัสสาวะ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคบริเวณช่องคลอด ฝีเย็บ และทวารหนัก ที่ลุกลามไปยังท่อปัสสาวะจนถึงกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการแสบที่ปลายท่อปัสสาวะ หรือเจ็บที่บริเวณปากช่องคลอด และหากมีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบหลังมีเพศสัมพันธ์จะเรียกชื่อโรคว่า โรคฮันนีมูน ซิสไตติส (Honeymoon Cystitis)
อาการสำคัญของโรคฮันนีมูน
- ฉี่แล้วแสบที่บริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด
- ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่สุด หรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้
- หากมีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อย
วิธีป้องกันโรคฮันนีมูน
- ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำอย่างน้อย 6 – 8 แก้วต่อวัน
- หลังมีเพศสัมพันธ์ควรปัสสาวะและทำความสะอาด
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน
4. สาเหตุจากโรคหนองใน
หนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ผู้ป่วยจะมีอาการของโรคชัดเจนและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา หากปล่อยไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ภาวะมีบุตรยากทั้งหญิงและชาย ปวดท้องน้อยเรื้อรัง และการตั้งครรภ์นอกโพรงมดลูก
อาการของโรคหนองใน
- ตกขาวผิดปกติ ปริมาณมากขึ้น มีสีเหลืองหรือเขียว
- ฉี่แล้วแสบ
- เลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน
- มีอาการปวดท้องน้อย
- อาการเพิ่มเติมในผู้ชาย เช่น มูกใสออกจากท่อปัสสาวะโดยไม่ใช่น้ำปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ มีอาการปวดอัณฑะ อาจมีการอักเสบที่หนังหุ้มปลายองคชาต
วิธีป้องกันโรคหนองใน
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- งดการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยโรคหนองใน
- ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ