โรค ดีซ่าน (Jaundice หรือ Icterus) เป็นภาวะตกเหลืองบริเวณผิวหนังและตาขาว มีสาเหตุมาจากระดับบิลิรูบิน (Bilirubin) ในเลือดพุ่งสูงมาก
คำจำกัดความ
ดีซ่าน คืออะไร
โรคดีซ่าน (Jaundice หรือ Icterus) เป็นภาวะตกเหลืองบริเวณผิวหนังและตาขาว มีสาเหตุมาจากระดับบิลิรูบิน (Bilirubin) ในเลือดพุ่งสูงมาก บิลิรูบินก่อตัวขึ้นเมื่อเซลล์เม็ดเลือดแดงแตกตัว ร่างกายมักจะกำจัดบิลิรูบินผ่านตับ โดยทั่วไป ตับในเด็กแรกเกิดจะยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ซึ่งทำให้บิลิรูบินก่อตัวเร็วกว่าที่ตับจะสามารถกำจัดได้ สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับเช่นกัน
ดีซ่านพบได้บ่อยแค่ไหน
โรคดีซ่านเป็นอาการที่พบได้บ่อย ดีซ่านเกิดขึ้นได้กับทุกวัย แต่พบได้บ่อยในเด็กแรกเกิด ดีซ่านมักหายไปเองในเด็กแรกเกิด แต่หากไม่หาย นั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการรุนแรงกว่านั้นได้ ซึ่งเราสามารถจัดการได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยงของตัวเอง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของโรค ดีซ่าน
สัญญาณและอาการของภาวะตกเหลืองทางผิวหนังและดวงตาที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ภายในช่องปากมีสีเหลือง
- ปัสสาวะมีสีเข้มหรือสีน้ำตาล
- อุจจาระมีสีซีดหรือสีเหมือนโคลน
- ระดับบิลิรูบินสูง
- เบื่ออาหาร
- รู้สึกเหนื่อยและอ่อนแรง
สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากมีข้อสงสัยใด ๆ โปรดปรึกษาแพทย์
ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
หากคุณมีสัญญาณหรืออาการ ควรเข้าพบคุณหมอทันที
- ผิวหนังของลูกเป็นสีเหลืองมากขึ้นเรื่อย ๆ
- ผิวหนังบริเวณท้อง แขนและขา ดูมีลักษณะออกสีเหลือง
- ส่วนตาขาวของลูกคุณกลายเป็นสีเหลือง
- ลูกของคุณดูไม่มีชีวิตชีวา หรือป่วย หรือปลุกแล้วตื่นยาก
- น้ำหนักของลูกคุณไม่เพิ่มขึ้น หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
- ลูกของคุณร้องไห้เสียงดังมาก
- ลูกของคุณมีสัญญาณหรือเกิดอาการใด ๆ ก็ตามที่คุณกังวล
- โรคดีซ่านเกิดขึ้นต่อเนื่องมานานกว่า 3 สัปดาห์
ในผู้ใหญ่ ผิวหนังเหลืองอาจเป็นอาการของโรคไตได้ด้วย
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของโรคดีซ่าน
ดีซ่านมีสาเหตุการก่อตัวของบิลิรูบินที่เป็นผลผลิตของเซลล์เม็ดเลือดแดง บิลิรูบินก่อตัวขึ้นเมื่อเซลล์เม็ดเลือดแดงแตกตัว ร่างกายมักจะขจัดบิลิรูบินผ่านทางตับ เมื่อตับทำงานผิดปกติ ตับจะไม่สามารถกรองบิลิรูบินออกจากเลือดได้ เป็นอาการทั่วไปเมื่อตับเกิดความเสียหายหรือยังไม่เติบโตเต็มที่
บิลิรูบินที่มีระดับสูงมากสามารถส่งผลเสียได้ เช่น ระบบประสาทของเด็กเสียหาย เด็กที่คลอดก่อนกำหนดมีโอกาสในการเป็นดีซ่านมากกว่าเด็กที่คลอดตามกำหนด
สาเหตุอื่น ๆ ได้แก่
- การติดเชื้อ
- กรุ๊ปเลือดที่ไม่ตรงกันของแม่กับเด็ก
- การป้อนน้ำนมจากเต้า เพราะในบางครั้ง น้ำนมจากเต้า จะรบกวนความสามารถในการขจัดบิลิรูบินของตับในเด็ก ดีซ่านประเภทนี้จะเกิดอาการช้ากว่าประเภทอื่น และสามารถเรื้อรังเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของโรคดีซ่าน
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคดีซ่านมีด้วยกันมากมาย เช่น
- เด็กที่คลอดก่อนกำหนด อาจไม่สามารถขจัดบิลิรูบินได้เร็วเท่ากับเด็กที่คลอดตามกำหนด อีกทั้ง การที่เด็กดูดนมหรือขับถ่ายน้อยลง ส่งผลให้การขจัดบิลิรูบินในอุจจาระลดลง
- รอยฟกช้ำระหว่างการคลอด หากเด็กแรกเกิดได้รับรอยฟกช้ำระหว่างการคลอด เด็กอาจมีระดับบิลิรูบินสูงขึ้นจากเซลล์เม็ดเลือดแดงที่แตกตัวมากขึ้น
- หากกรุ๊ปเลือดของแม่เด็กกับเด็กแตกต่างกัน เด็กอาจได้รับภูมิต้านทานผ่านสายรกในครรภ์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์เม็ดเลือดแดงของเด็กแตกตัวไวขึ้น
- ความลำบากในการป้อนนม เด็กที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดหรือไม่ได้รับสารอาหารจากการดูดนมจากเต้าอย่างเพียงพอ มีความเสี่ยงสูงในการเป็นดีซ่าน ภาวะขาดน้ำหรือการบริโภคแคลอรี่น้อย อาจมีส่วนสำคัญต่อการเกิดโรคดีซ่านได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำการป้อนนมจากเต้า เนื่องจากวิธีนี้ยังมีคุณประโยชน์ การทำให้ลูกของคุณได้รับสารอาหารและของเหลวอย่างเพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญ
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคดีซ่าน
แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อเช็คระดับของบิลิรูบิน ซึ่งสำหรับผู้ใหญ่ อาจมีการตรวจเพื่อดูโรคอื่น ๆ ได้แก่
- ไวรัสตับอักเสบ เพื่อดูการติดเชื้อของตับ
- การตรวจประสิทธิภาพการทำงานของตับ
- การตรวจเม็ดเลือดเพื่อดูภาวะเกล็ดเลือดต่ำหรือโรคโลหิตจาง
- การอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง
- ทำการซีที สแกน บริเวณช่องท้อง
- การส่องกล้องตรวจรักษาท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
- การเอ็กซเรย์ดูภาพท่อน้ำดี (PTCA)
- การเจาะตับ
- ระดับคอเลสเตอรอล
- การวัดระยะเวลาที่เลือดแข็งตัว (Prothrombin time)
การรักษาโรคดีซ่าน
การรักษาในผู้ใหญ่ เป็นการรักษาที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของการเกิดดีซ่านที่ซ่อนอยู่ แต่สำหรับเด็กส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรักษา
วิธีรักษาที่ดีที่สุด คือ
- การฉายแสง (Phototherapy)
วิธีนี้ใช้กับเด็ก โดยให้เด็กนอนเปลือยอยู่ใต้แสงไฟฟลูออเรสเซนท์ เด็กจะได้รับผ้าปิดตา เพื่อป้องกันตาระหว่างการรักษา แสงไฟจะช่วยแตกตัวบิลิรูบินที่มีมากเกินไป เพื่อที่จะสามารถกำจัดบิลิรูบินออกได้ง่ายขึ้น
- ผ้าห่มยูวี (Ultraviolet Blanket)
อาจถูกนำมาใช้ หากมีการเช็กระดับบิลิรูบินในเลือดอย่างต่อเนื่อง การฉายแสงมักจะลดระดับบิลิรูบินลงได้ใน 2 วัน บางครั้งระดับของบิลิรูบินจะเพิ่มขึ้นชั่วคราวหลังการฉายรังสี อาการตกเหลืองอาจคงอยู่ไม่กี่วันหรือแค่ 1-2 สัปดาห์ แม้ว่าระดับบิลิรูบินจะลดลงแล้วก็ตาม
- การถ่ายเลือด
หากระดับบิลิรูบินสูงมากจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฉายแสง อาจจำเป็นต้องถ่ายเลือด วิธีนี้จะเป็นการถ่ายเลือดที่มีระดับบิลิรูบินสูงออก และแทนที่ด้วยเลือดอื่น แต่กรณีนี้ค่อนข้างพบได้ยาก
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองที่ช่วยรับมือกับโรคดีซ่าน
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองดังต่อไปนี้ อาจช่วยคุณรับมือกับโรคดีซ่านได้
- ป้อนนมลูกบ่อย ๆ วิธีนี้จะช่วยให้เด็กขับถ่ายอุจจาระมากขึ้น ส่งผลให้ลำไส้ดูดซึมบิลิรูบินน้อยลง
- ไปพบหมอของคุณทันที หากลูกของคุณเกิดดีซ่านกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง เพราะนั่นหมายความว่ายังมีปัญหาอื่นซ่อนอยู่ เมื่อดีซ่านในเด็กแรกเกิดหายไปแล้ว มักจะไม่กลับมาอีก
หากมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
[embed-health-tool-bmi]