backup og meta

มะเดื่อ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

มะเดื่อ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

มะเดื่อ เป็นผลไม้ลักษณะกลม แป้นหรือเป็นรูปไข่ เปลือกบาง ผลสุกมีสีเหลือง แดงหรือชมพู รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอมหวาน สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง โดยมะเดื่อนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ดีต่อสุขภาพผิว ปรับปรุงระบบทางเดินอาหาร และอาจช่วยต้านมะเร็งได้

คุณค่าทางโภชนาการของมะเดื่อ

มะเดื่อ ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 249 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น

  • คาร์โบไฮเดรต 63.87 กรัม
  • น้ำตาล 47.92 กรัม
  • ไฟเบอร์ 9.8 กรัม
  • โปรตีน 3.3 กรัม
  • ไขมัน 0.93 กรัม

นอกจากนี้ มะเดื่อยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม โซเดียม

ประโยชน์ของมะเดื่อที่มีต่อสุขภาพ

มะเดื่อมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของมะเดื่อในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

  1. อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร

มะเดื่อเป็นผลไม้ที่อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ปรับปรุงอาการลำไส้แปรปรวนและช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 ศึกษาเกี่ยวกับมะเดื่อและสรรพคุณในการจัดการอาการท้องผูก พบว่า การรับประทานมะเดื่อสามารถใช้รักษาอาการท้องผูก ช่วยในการเคลื่อนไหวของลำไส้ ปรับปรุงลักษณะอุจจาระและความรู้สึกไม่สบายท้อง

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกหนึ่งชิ้นที่ตีพิมพ์ในวารสาร Explore เมื่อเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของผลมะเดื่อที่มีต่ออาการลำไส้แปรปรวน ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการท้องผูก พบว่า เมื่อให้ผู้ป่วยที่มีโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome หรือ IBS) รับประทานมะเดื่อเป็นเวลา 4 เดือน อาการของโรคลำไส้แปรปรวนดีขึ้น อาการปวดท้อง ท้องอืดลดลง ทั้งยังช่วยปรับปรุงความถี่ในการถ่ายอุจจาระและลักษณะของอุจจาระ

  1. อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

สารสกัดในใบมะเดื่ออย่างเอทิลอะซิเตต (Ethyl Acetate) อาจมีคุณสมบัติช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลรวม ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมโรคเบาหวาน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร  Pharmaceutical Biology เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับผลของใบมะเดื่อต่อการป้องกันระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด เอนไซม์การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและเซลล์ตับอ่อน (β-cells) พบว่า สารสกัดเอทิลอะซิเตตปริมาณ 250 และ 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จากใบมะเดื่อมีผลอย่างมากต่อเอนไซม์ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ซึ่งส่งผลดีต่อการลดน้ำตาลในเลือดและลดไขมันในเลือด ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของมะเดื่อในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

  1. อาจปรับปรุงสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ

สารสกัดเมทานอล (Methanol) ในมะเดื่ออาจช่วยควบคุมความดันโลหิต ระดับไขมันในเลือด ช่วยปรับปรุงสุขภาพของหลอดเลือดและลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pharmaceutical Biology เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิตของผลมะเดื่อ พบว่า มะเดื่ออาจมีฤทธิ์ที่ส่งผลดีต่อหลอดเลือดและหัวใจ ซึ่งอาจช่วยรักษาความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองได้ โดยสารสกัดเมทานอลที่พบในน้ำของผลมะเดื่อมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตสูงที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของมะเดื่อในการปรับปรุงสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ

  1. อาจส่งเสริมสุขภาพผิว

มะเดื่ออาจมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารพอลีฟีนอล (Polyphenols) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ซึ่งช่วยป้องกันและลดเรือนริ้วรอยบนผิวหนังได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 ศึกษาเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระที่มีผลต่อการยับยั้งการสลายตัวของคอลลาเจนและฤทธิ์ต้านริ้วรอยจากผลไม้ทับทิม แปะก๊วย มะเดื่อและหม่อน พบว่า การผสมสารสกัดจากทับทิม แปะก๊วย มะเดื่อและหม่อน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการสลายตัวของคอลลาเจนในผิว ทำให้ความลึกและความยาวของริ้วรอยดูตื้นขึ้น

  1. อาจช่วยป้องกันมะเร็ง

น้ำยางจากผลมะเดื่ออาจมีคุณสมบัติช่วยต้านการพัฒนาของเซลล์มะเร็ง และป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น เนื้องอกสมอง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food and Chemical Toxicology เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 ศึกษาเกี่ยวกับน้ำยางจากผลมะเดื่อและเซลล์มะเร็ง พบว่า น้ำยางจากผลไม้มะเดื่ออาจมีผลต่อเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งตับ เนื้องอกสมอง โดยการยับยั้งการสังเคราะห์ดีเอ็นเอที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง การทำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งและการหยุดวงจรของเซลล์มะเร็ง

ข้อควรระวังในการบริโภคมะเดื่อ

มะเดื่อมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ในบางกรณีมะเดื่ออาจไม่เหมาะสำหรับบางคน ดังนี้

  • มะเดื่อมีน้ำยางที่อาจมีสารก่อภูมิแพ้และผู้ที่มีอาการแพ้เกสรดอกไม้ของต้นเบิร์ช  (Birch) อาจมีอาการแพ้มะเดื่อได้เช่นกัน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical & Experimental Allergy เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ศึกษาเกี่ยวกับสารก่อภูมิแพ้ในมะเดื่อและผลไม้ตระกูลขนุน พบว่า มะเดื่อและผลไม้ตระกูลขนุนมีสารก่อภูมิแพ้ที่คล้ายกับที่พบในเกสรดอกไมของต้นเบิร์ช และมีรายงานอาการแพ้หลังการบริโภคมะเดื่อสด
  • มะเดื่ออาจมีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการท้องผูก ดังนั้น หากรับประทานมะเดื่อมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ ได้
  • มะเดื่อมีปริมาณน้ำตาลสูง เมื่อรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ฟันผุได้

[embed-health-tool-bmr]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Health Benefits of Figs. https://www.webmd.com/diet/health-benefits-figs. Accessed April 8, 2022

In vitro antioxidant, collagenase inhibition, and in vivo anti-wrinkle effects of combined formulation containing Punica granatum, Ginkgo biloba, Ficus carica, and Morus alba fruits extract. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/26203268/. Accessed April 8, 2022

Cytotoxicity of fig fruit latex against human cancer cells. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18078703/. Accessed April 8, 2022

Protective effects of Ficus carica leaves on glucose and lipids levels, carbohydrate metabolism enzymes and β-cells in type 2 diabetic rats. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6130661/. Accessed April 8, 2022

Evaluation of antihypertensive potential of Ficus carica fruit. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28187689/. Accessed April 8, 2022

Comparison and Assessment of Flixweed and Fig Effects on Irritable Bowel Syndrome with Predominant Constipation: A Single-Blind Randomized Clinical Trial. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30318190/. Accessed April 8, 2022

Randomized, double-blind, placebo-controlled trial of Ficus carica paste for the management of functional constipation. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/27440682/#affiliation-3. Accessed April 8, 2022

Identification of Bet v 1-related allergens in fig and other Moraceae fruits. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/20447079/. Accessed April 8, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

12/04/2022

เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

แก้วมังกร สารอาหาร ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

ลูกท้อ สารอาหาร ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 12/04/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา