เกลือแร่หรือแร่ธาตุมีด้วยกันหลายชนิดเช่น เหล็ก แมกนีเซียม แคลเซียม โพแทสเซียม ทองแดง สังกะสี พบได้ทั้งในผักผลไม้และอาหารที่ให้โปรตีน โดยอาหารแต่ละชนิดจะมีเกลือแร่แตกต่างกันไป
เกลือแร่พบได้มากในผัก เช่น ผักสีเขียวเข้ม เช่น ผักโขม ปวยเล้ง ผักกาดเขียว บรอกโคลี คะน้าฝรั่ง ผักสีแดง เช่น มะเขือเทศ หอมแดง กระหล่ำปลีแดง พริกแดง การเลือกซื้อผักควรเลือกจากแหล่งที่ไม่ปนเปื้อน ดูสะอาด สดใหม่ ไม่แห้งหรือช้ำ ไม่มีร่องรอยของเชื้อราหรือไข่พยาธิ ก่อนรับประทานผักควรล้างผักให้สะอาดด้วยการแช่ผักทิ้งไว้ในน้ำสะอาด 15 นาที แล้วนำมาวางให้น้ำก๊อกไหลผ่านประมาณ 2 นาทีพร้อมใช้มือคลี่ใบผักให้ทั่ว เพื่อชะล้างสารพิษที่อาจตกค้างออก
ทั้งนี้ ควรรับประทานอาหารให้หลากหลายเพื่อให้ได้รับเกลือแร่แต่ละชนิดเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
วิตามินมีหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผิวพรรณ เล็บ เส้นผม ระบบประสาท การดูดซึมแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกาย การขับสารพิษในร่างกาย การช่วยให้เลือดแข็งตัว เป็นต้น วิตามินพบได้ทั้งในเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้
วิตามินพบมากในผลไม้ เช่น แอปเปิล แอปริคอต กล้วย มะม่วง แตงโม มะละกอ ลูกพีช องุ่น เสาวรส ลูกแพร์ พลัม สับปะรด ลูกเกด ลูกพรุน มะเฟือง ส้มเขียวหวาน โดยผลไม้แต่ละชนิดจะมีชนิดและระดับวิตามินที่แตกต่างกันไป จึงควรรับประทานผลไม้อย่างหลากหลายเพื่อร่างกายให้ได้วิตามินเพียงพอ
คนทั่วไปควรเน้นรับประทานผลไม้ที่มีเส้นใยอย่างผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้อบแห้ง แทนการรับประทานผลไม้คั้นหรือปั่นเพราะมักเติมน้ำตาล หรือผลไม้แยกกากที่มักสูญเสียใยอาหารที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้ เมื่อซื้อผลไม้แช่แข็ง กระป๋อง หรือผลไม้แห้ง ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยเพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลส่วนเกิน
5. ไขมัน (ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์)
ไขมันอาจแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่จำเป็นและควรบริโภคแต่น้อย พบในเนื้อสัตว์ไขมันสัตว์ หนังสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม และไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นไขมันที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย แบ่งออกเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบในน้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว อะโวคาโด เป็นต้น และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่พบในน้ำมันพืชทั่วไปอย่างน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันงา เป็นต้น
ไขมันไม่อิ่มตัวในปริมาณที่เหมาะสมจะให้พลังงานที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ส่งเสริมการสร้างฮอร์โมนบางชนิด และช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค คนทั่วไปจึงควรเน้นบริโภคไขมันไม่อิ่มตัว และลดไขมันอิ่มตัวในอาหารด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน เลือกเนื้อสัตว์ส่วนที่ไม่ติดมัน เช่น อกไก่ หรือลอกหนังและตัดไขมันออกก่อนรับประทาน
รับประทานอาหารแต่ละหมู่มากเกินไป ส่งผลอย่างไร
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย