การรับประทานหอยแมลงภู่ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนจำเป็น เช่น ฮิสทิดีน (Histidine) ทริปโตเฟน (Tryptophan) ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) อาจช่วยปกป้องสุขภาพสมอง และช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองที่เสื่อมสภาพตามอายุได้
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food and Chemical Toxicology เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ศึกษาเกี่ยวกับหอยแมลงภู่ในการปรับปรุงสุขภาพสมองและลดความเสื่อมของสมอง พบว่า หอยแมลงภู่อุดมไปด้วยโอลิโกเปปไทด์ (Oligopeptide) ซึ่งเป็นโมเลกุลโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน ซึ่งช่วยปรับปรุงการเรียนรู้ทางปัญญา ความสามารถในการจำ และช่วยปกป้องเซลล์ประสาท รวมถึงยังช่วยป้องกันการอักเสบของเซลล์สมองจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ จึงช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของหอยแมลงภู่ในการช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง
ข้อควรระวังในการบริโภคหอยแมลงภู่
การรับประทานหอยแมลงภู่อาจมีข้อควรระวัง ดังนี้
- โรคภูมิแพ้ หอยแมลงภู่เป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ดังนั้น ผู้ที่มีอาการแพ้หอยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหอยทุกชนิด เพื่อป้องกันอาการของโรคภูมิแพ้กำเริบ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
- อาจเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อโรค ควรรับประทานหอยแมลงภู่ที่ผ่านการปรุงสุก เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับหอย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง
- อาจปนเปื้อนสารปรอท หอยแมลงภู่เป็นอาหารทะเลที่อาจมีการปนเปื้อนของสารปรอท จึงควรรับประทานไม่เกิน 340 กรัม/สัปดาห์ เพื่อป้องกันร่างกายได้รับสารปรอทมากเกินไป จนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น หายใจลำบาก ปอดอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย