backup og meta

สูตรสมูทตี้ฟักทอง เครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ

สูตรสมูทตี้ฟักทอง เครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ
สูตรสมูทตี้ฟักทอง เครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ

สูตรสมูทตี้ฟักทอง เป็นเมนูความอร่อยจากวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งเมนูคาวและหวาน นอกจากนั้น ฟักทองยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วย นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายเพราะฟักทองมีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น เบตาแคโรทีน (Beta-carotene) วิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี ช่วยบำรุงสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน เช่น บำรุงสุขภาพดวงตา ส่งเสริมและบำรุงสุขภาพหัวใจ บำรุงผิวพรรณ

[embed-health-tool-bmi]

ประโยชน์ของ ฟักทอง

ฟักทองประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

อาจช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ได้แก่ แอลฟา-แคโรทีน (Alpha-Carotene) เบตาแคโรทีน และเบต้า-คริปโตแซนทิน (Beta-Cryptoxanthin) สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ทำหน้าที่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ เสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง และลดการอักเสบของเซลล์ นอกจากนั้น การรับประทานฟักทองอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้

อาจมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก

ฟักทองมีไฟเบอร์สูง  แคลอรีต่ำ และไขมันน้อย การรับประทานฟักทองสุกหนึ่งถ้วย ประมาณ 245 กรัม จะได้ไฟเบอร์ประมาณ 3 กรัม หรือฟักทองกระป๋อง ประมาณ 7 กรัม จะได้ไฟเบอร์ในปริมาณเท่ากับขนมปังโฮลเกรน 2 แผ่น ด้วยปริมาณของไฟเบอร์ในฟักทอง จึงช่วยให้อิ่มง่ายและอยู่ท้องได้นาน ลดความอยากอาหารในมื้อต่อไป ทั้งยังไม่ทำให้แคลอรี่พุ่งเกินความต้องการของร่างกายด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหาตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

อาจช่วยบำรุงสายตา

ฟักทอง จัดเป็นอาหารที่อยู่ในตระกูลผักและผลไม้สีส้มซึ่งอุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน (Beta-carotene) ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งเป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยบำรุงสายตา กระตุ้นให้เรตินาสามารถรับและกรองแสงได้ดีขึ้น นอกจากนั้น ฟักทองยังมีลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคต้อกระจก และชะลออาการจอประสาทตาเสื่อม

อาจช่วยบำรุงผิว

สารเบตาแคโรทีนในฟักทอง นอกจากจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและบำรุงสายตาแล้ว ยังมีส่วนช่วยปกป้องสุขภาพผิวจากแสงแดดและรังสียูวี ตลอดจนชะลอการเกิดริ้วรอยด้วย ทั้งนี้ หากนำฟักทองบดไปพอกที่ใบหน้า สารสกัดในฟักทองอาจช่วยให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้ผิวกระจ่างใส

สูตรสมูทตี้ฟักทอง

สมูทตี้ฟักทอง มีส่วนผสมและวิธีทำ ง่าย ๆ ดังนี้

ส่วนผสม  

  • ฟักทอง (ปั่นละเอียด) 1/3 ถ้วย
  • กล้วยสุกแช่เย็น 1 ผล
  • เมล็ดแฟล็กซ์บด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • เครื่องเทศผสม (Pumpkin pie spice) 1/4 ช้อนชา
  • อบเชย 1/4 ช้อนชานม
  • ถั่วเหลืองกลิ่นวานิลลา 1 ถ้วย

วิธีทำ  

  1. นำฟักทองไปปั่นให้ละเอียด สัก 1 ถ้วย ใช้จริงประมาณ ⅓ ถ้วย (ประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ) ส่วนที่เหลือสามารถแช่เย็นเก็บไว้ทำครั้งต่อไปได้อีก
  2. นำกล้วยสุกที่แช่เย็นไว้ เมล็ดแฟล็กซ์ที่บดแล้ว น้ำผึ้ง อบเชย เครื่องเทศผสม นมถั่วเหลืองกลิ่นวานิลลา และฟักทองที่ปั่นละเอียดเทใส่รวมกันในเครื่องปั่น 
  3. ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว สามารถเติมน้ำสะอาดหรือนมถั่วเหลืองกลิ่นวานิลลาได้อีกเล็กน้อยหากเนื้อสมูทตี้ข้นจนเกินไป
  4. เมื่อสมูทตี้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวแล้ว เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม
  5. หากต้องการดื่มแบบเย็น ๆ สามารถปั่นรวมกับน้ำแข็ง หรือจะเพิ่มน้ำแข็งใส่เข้าไปทีหลังก็ได้เช่นกัน

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

6 Surprising Health Benefits of Pumpkin. 

https://www.webmd.com/food-recipes/features/6-surprising-health-benefits-of-pumpkin#1. Accessed August 29, 2022.

Pumpkin: Loaded with scary-good nutrients. https://www.mayoclinichealthsystem.org/hometown-health/speaking-of-health/pumpkin-loaded-with-scary-good-nutrients. Accessed August 29, 2022.

Pumpkin: Nutrition, Health Benefits, How to Cook & Use. https://nutritiontofit.com/pumpkin/. Accessed August 29, 2022.

PUMPKIN SMOOTHIE. 

https://www.budgetbytes.com/pumpkin-smoothie/. Accessed August 29, 2022.

Pumpkin, raw. https://nutritiondata.self.com/facts/vegetables-and-vegetable-products/2600/2. Accessed August 29, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

29/08/2022

เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

สูตรพายฟักทอง

สูตรผัดฟักทองใส่ไข่ อร่อยง่ายได้ประโยชน์


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 29/08/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา