ดังนั้น ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีความเข้มข้นปานกลาง เช่น จ็อกกิ้ง เดินเร็ว เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นรำ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ หรือออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที/วัน 5 วัน/สัปดาห์ ทั้งยังอาจเพิ่มการออกกำลังกายเป็นความเข้มข้นสูง 75 นาที/สัปดาห์ เช่น วิ่ง ยกน้ำหนัก
สำหรับบางคนที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคอ้วนและควบคุมน้ำหนัก อาจออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลาง 45-60 นาที/วัน หรือ 60-90 นาที/วัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากที่เคยลดน้ำหนัก ทั้งนี้ ควรปรึกษาคุณหมอถึงปัญหาสุขภาพและรูปแบบการลดน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง เพื่อป้องกันปัญหาแทรกซ้อน หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการออกกำลังกาย
นอกจากนี้ ควรเพิ่มการเดินและขยับร่างกายในแต่ละวันให้มากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ระหว่างวันเพิ่มขึ้นได้อีก เช่น ใช้วิธีการเดินแทนการขับรถหากต้องเดินทางใกล้ ๆ จอดรถให้ห่างจากร้านอาหารเพื่อเพิ่มการเดิน ใช้บันไดแทนลิฟต์ พร้อมทั้งอาจใช้เครื่องนับก้าวร่วมด้วยเพื่อติดตามจำนวนก้าวในแต่ละวัน เพื่อให้รู้จำนวนก้าวเดินและสามารถเพิ่มจำนวนก้าวขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อช่วยในการเผาผลาญมากขึ้น
-
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การนอนหลับอาจส่งผลโดยตรงต่อการลดน้ำหนัก เนื่องจาก การนอนน้อยลงหรือนอนไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายหลั่งสารคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดความเครียด ความเครียดจะส่งผลให้รู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้น รู้สึกเซื่องซึม ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยและช้าลง โดยการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยอาจมีดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย