ผู้ที่รักในกีฬาขี่ม้า ต้องฝึกฝนเป็นระยะเวลานานเพื่อให้ม้าคุ้นชินกับเรา และยังต้องดูแลเอาใจใส่ ใกล้ชิดกับสัตว์ใหญ่นี้เป็นพิเศษเพราะคงไม่เชื่องเหมือนน้องแมว หรือสุนัข ที่บ้านแน่ๆ จนบางครั้งก็หลงลืมป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคต่างๆ รอบตัว รวมถึง ไวรัสเฮนดรา ภาวะอันตรายที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต วันนี้ Hello คุณหมอ ขอนำความรู้ และวิธีป้องกันเชื้อไวรัสมาฝากให้หนุ่มสาวคาวบอยได้ระวังตัวกันมากขึ้น
รู้จักกับ ไวรัสเฮนดรา ให้มากขึ้นกันเถอะ
เชื้อไวรัสเฮนดรา (Hendra virus ; HeV) ถูกค้นพบครั้งแรกหลังจากการระบาดที่คอกม้าแห่งหนึ่งในปี 1994 ถึงแม้จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็มีผู้ป่วยถึง 7 ราย ที่ได้รับการติดเชื้อ จนผู้ป่วย 4 ใน 7 ได้เสียชีวิตลง โดยมีสาเหตุมาจากการสัมผัสจากน้ำลายของม้า น้ำมูก หรือของเหลวที่ออกมาจากร่างกายม้านั่นเอง
แต่ต้นตอที่แท้จริงแล้วไวรัสเฮนดรา มากจากเชื้อบางอย่างในน้ำลายของค้างคาว ที่อาจเข้ามาดื่มน้ำในคอกม้าจนทำให้เชื้อกระจายอย่างมาก เพราะการเลี้ยงดูม้าส่วนใหญ่นั้นนิยมเลี้ยงบริเวณทุ่งนา สวน หรือป่าทึบ ทำให้ค้างคาวที่ออกมาหากินช่วงเวลากลางคืนบินมาหาอาหารละแวกใกล้เคียง และแพร่เชื้อออกมา
อาการแรกเริ่มที่บ่งบอกว่าคุณรับเชื้อ ไวรัสเฮนดรา เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ได้รับไวรัสเฮนดราเข้าสู่ร่างกาย ประมาณ 9-16 วัน เชื้อนี้จะเกิดการฟักตัวกระจายทั่วร่างกายทำลายสุขภาพของคุณ
อาการแรกเริ่มที่พบได้ทั่วไปคือ : มีไข้ , อาการไอ , เจ็บคอ , ปวดศีรษะ , รู้สึกเมื่อยล้า เหมือนไข้หวัดใหญ่ปกติทั่วไป
อาการแทรกซ้อนที่คุณควรเข้าปรึกษาแพทย์ : อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น , อัตราการเต้นของหัวใจถี่และเร็ว , ทางเดินหายใจขัดข้อง , อ่อนเพลีย , ชัก
หากชะล่าใจ และไม่รู้จักป้องกันเบื้องต้น อาจส่งผลให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ และภาวะปอดติดเชื้อได้ จนนำไปสู่อาการโคม่า ถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว
ป้องกันสุขภาพให้ห่างไกลไวรัสเฮนดรา
- สวมอุปกรณ์ เช่น ถุงมือ รองเท้า เสื้อผ้าให้มิดชิด รวมถึงหน้ากากอนามัยปิดจมูก และปาก ก่อนใกล้ชิด หรือสัมผัสร่างกายของม้า
- ทำความสะอาดมือด้วยน้ำสบู่ก่อนและหลังเมื่อคุณสัมผัสกับม้า
- ถ้ามีแผลอยู่ ควรปิดบาดแผลของคุณให้สนิท โดยเฉพาะแผลสด แผลถลอกบริเวณผิวหนัง เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเฮนดราเข้าสู่กระแสเลือด
ยังไม่มีวัคซีนในการรักษาที่เจาะจงต่อโรคไวรัสชนิดนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจทำการบำบัดด้วยสารแอนติบอดี พื่อสร้างภูมิต้านทานของร่างกายป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม
Hello Health Groupไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด