โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) เป็นภาวะหนึ่งที่อาจนำพาไปสู่เกิดโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ และส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย เช่น ปอดยุบตัว เกิดรูขนาดใหญ่ในปอด เพิ่มความดันในหลอดเลือดแดงของหัวใจและปอดเพิ่มมากขึ้น หากไม่เข้ารีบรักษาอาจหายใจลำบาก ไอเรื้อรัง รวมไปถึงสุขภาพทางเดินหายใจเสียหายอย่างหนักได้ คำจำกัดความโรคถุงลมโป่งพอง คืออะไร โรคถุงลมโป่งพอง คือหนึ่งในโรคที่จัดอยู่ในกลุ่มปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โดยโดยจะส่งผลให้ถุงลมเสียความยืดหยุ่น อาจทำให้เยื่อบุของถุงลมได้รับความเสียหาย และแตกตัวออกจนเกิดช่องว่างภายใน ทำให้ปอดมีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้น้อยลง และขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายได้ยากขึ้น อาการอาการของ โรคถุงลมโป่งพอง อาการของ ถุงลมโป่งพอง มักแตกต่างกันออกไป โดยอาการที่พบบ่อยที่สุด มีดังนี้ ไอบ่อยและต่อเนื่อง หายใจตื้น มีเสมหะปริมาณมาก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ในรายที่มีอาการเรื้อรัง อาจมีอาการดังต่อไปนี้ หายใจมีเสียงหวีด ปอดติดเชื้อ น้ำหนักลดลงจากอาการไม่อยากอาหาร หรือเบื่ออาหาร รู้สึกเหนื่อยล้าง่าย ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีซีดเนื่องจากขาดออกซิเจน สาเหตุสาเหตุของโรคถุงลมโป่งพอง สาเหตุที่ทำให้ ถุงลมโป่งพอง และเกิดการระคายเคืองในช่องทางเดินหายใจเป็นเวลานาน มีดังต่อไปนี้ การสูบบุหรี่ หรือสูดดมควันบุหรี่ มลพิษทางอากาศ ฝุ่น สารเคมี ปัจจัยเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของโรคถุงลมโป่งพอง แม้ว่าความเสียหายของถุงลมจะเกิดจากภาวะต่าง ๆ รอบตัว และบางคนอาจไม่เผยอาการใด ๆ แต่จะมีอาการชัดขึ้นในอายุ 40-60 ปี หรือเข้าสู่ช่วงวัยผู้สูงอายุ และอาการจะมีการพัฒนาที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน และรุนแรงมากขึ้นตามมา โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องมาแทบทั้งชีวิต อีกทั้งการที่ร่างกายขาดเอนไซม์ Alpha 1-antitrypsin (AAT) ซึ่งเป็นโปรตีนในเม็ดเลือดโดยมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำลายเนื้อเยื่อ ก็อาจนำไปสู่การทำลายปอดได้ การวินิจฉัยและการรักษาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยโรคถุงลมโป่งพอง การวินิจฉัยโรคถุงลมโป่งพอง ที่คุณหมอใช้ เพื่อประเมินหาสาเหตุก่อนการรักษา มีดังนี้ การเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ […]