เมื่อคนใกล้ชิดตรวจพบ โรคมะเร็งปากมดลูก การดูแลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตั้งแต่เรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารที่รับประทานในแต่ละวัน การนัดหมายกับคุณหมอ การเข้ารับการตรวจและการรักษา หรือแม้กระทั่งการดูแลในเรื่องอื่น ๆ รวมถึงสภาพจิตใจของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกด้วย เพราะการดูแลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก อย่างถูกต้อง ถือเป็นเรื่องที่ดี มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายและสภาพจิตใจได้ดีขึ้นนั่นเอง
[embed-health-tool-ovulation]
การดูแลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ควรทำอย่างไร
การรักษา โรคมะเร็งปากมดลูก อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดผลข้างเคียง ที่ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงตามมาได้ แต่ผู้ป่วย โรคมะเร็งปากมดลูก ในแต่ละคนอาจจะมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและวิธีการรักษา ในช่วงที่ทำการรักษา แน่นอนว่าผู้ป่วยหลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกกลัว กังวลใจ หรือเกิดความเครียด จนไม่สามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ดีเท่าที่ควร การมีคนคอยดูแล จัดการเรื่องต่าง ๆ ให้ถือเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจ และใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยกังวลในส่วนนี้ ซึ่งผู้ดูแลจำเป็นที่จะต้องดูแลในหลาย ๆ เรื่อง ดังนี้
การรับประทานอาหาร และน้ำหนักของผู้ป่วย
ผู้ป่วย โรคมะเร็งปากมดลูก ที่เข้าทำการรักษา ไม่ว่าจะด้วยวิธีการทำเคมีบำบัดหรือการรักษาด้วยการฉายรังสี เป็นรูปแบบการรักษาที่อาจทำให้ผู้ป่วย โรคมะเร็งปากมดลูก บางรายเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น การรับรสชาติของอาหารเปลี่ยนไป น้ำหนักเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นผู้ดูแลจึงจำเป็นต้องเลือกอาหารเหมาะสำหรับผู้ป่วย เช่น อาหารที่รับประทานได้ง่าย และมีสารครบถ้วน ตามที่ผู้ป่วยต้องการ เพื่อช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยมีการฟื้นตัวที่ดี ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย โรคมะเร็งปากมดลูก มีดังนี้
- อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี
- คาร์โบไฮเดรต
- ผักและผลไม้
- ไขมันดี
- โปรตีนลีน
- น้ำ
การออกกำลังกาย
อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งผู้ป่วยบางรายก็เหนื่อยล้า เกินกว่าที่จะมีเรี่ยวแรงในการออกกำลังกาย แต่จริง ๆ แล้วการออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ดี ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กับผู้ป่วย โรคมะเร็งปากมดลูก ได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ช่วยให้มีพลังงาน และที่สำคัญยังช่วยให้ผู้ป่วยได้คลายเครียดด้วย
การดูแลเรื่องสภาพจิตใจผู้ป่วย
เมื่อร่างกายเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเพราะ โรคมะเร็งปากมดลูก หรือโรคใด ๆ ก็ตาม ย่อมทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเครียด กังวล และทุกข์ใจ ในช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเรื่องยาก ที่ผู้ป่วยจะรู้สึกดีหรือว่ามีความคิดในแง่บวก การที่ผู้ดูแลช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับฟังปัญหาโดยไม่ตัดสิน คอยอยู่เคียงข้างเสมอเมื่อเขาต้องการ หรือคอยปลอบใจในวันที่เขารู้สึกแย่ เพียงเท่าก็ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีได้ สำหรับผู้ป่วยบางคนอาจเกิดภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลในช่วงที่ป่วยได้ หากผู้ป่วยไม่สามารถพูดคุยกับคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดได้ ควรปรึกษาจิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น
การดูแลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ในเรื่องอื่น ๆ
นอกจากการดูแลในเรื่องการรับประทานอาหาร พาผู้ป่วยออกกำลังกาย หรือดูแลด้านสภาพจิตใจแล้ว ผู้ดูแลยังจำเป็นที่จะต้องดูแลผู้ป่วยในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น
- นัดหมายกับคุณหมอ เพื่อทำการรักษา
- พาไปพบคุณหมตามนัดหมาย
- ปรึกษากับคุณหมอ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยดีขึ้น
- จัดยาให้ในแต่ละมื้อ
- ช่วยจัดการกับอาการและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
- ช่วยจัดการเรื่องบ้าน รวมทั้งซื้อของใช้ต่าง ๆ
- ช่วยบริหารจัดการเรื่องเงิน