พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

วรรณกรรมเยาวชน แนะนำเล่มไหนดีที่จะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน

วรรณกรรมเยาวชน เป็นประเภทหนังสือชนิดหนึ่งมักมีเนื้อหาเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยเด็กหรือผู้ที่เริ่มอ่านหนังสือเพราะนอกจากจะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังถือเป็นประตูบานแรก ๆ ที่เปิดโลกแห่งจินตนาการ มีประโยชน์ในการช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ให้ข้อคิดเตือนใจ เป็นแรงบันดาลใจที่ดี และปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน เสริมสร้างนิสัยชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ [embed-health-tool-bmi] การอ่านสำคัญอย่างไรต่อเด็ก ๆ ในช่วงที่ลูกน้อยยังเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ด้วยการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง เมื่อลูกโตขึ้นและอยู่ในช่วงวัยที่สามารถอ่านหนังสือได้เอง ก็อาจแนะนำหนังสือที่มีเนื้อหาซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือสารคดี (Non-fiction) ที่ให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น หนังสือประวัติศาสตร์น่ารู้ หนังสือเกี่ยวกับระบบร่างกาย หรือหนังสือบันเทิงคดี (Fiction) ที่มีให้เลือกมากมายหลายแบบ เช่น วรรณกรรมเยาวชน วรรณกรรมร่วมสมัย กวีนิพนธ์ เรื่องสั้น นวนิยายต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจเลือก วรรณกรรมเยาวชน ซึ่งประเภทหนังสือที่มีให้เลือกอ่านอย่างหลากหลาย ทั้งจากนักเขียนคนไทย และนักเขียนต่างประเทศที่แปลมาเป็นภาษาไทย มาให้เด็ก ๆ ได้อ่านเป็นเรื่องแรก ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมความจำ กระตุ้นทักษะการคิดวิเคราะห์ ฝึกให้ลูกน้อยมีสมาธิจดจ่อ ช่วยให้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ เป็นการเพิ่มคลังศัพท์ให้เด็ก ๆ นำไปใช้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้มุมมองการมองโลกกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี วรรณกรรมเยาวชน 5 เล่มแนะนำ […]

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ และวิธีเสริมสร้างพัฒนาการตามวัย

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ค่อนข้างก้าวกระโดดจากขวบปีก่อนหน้า โดยจะเริ่มมีจินตนาการมากขึ้น มีความสนใจที่จะสำรวจสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ และเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองมากขึ้น นอกจากนั้น ยังรู้จักสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เริ่มมีทักษะด้านภาษาและการสื่อสารที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรหาวิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็กในวัยนี้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้เด็กเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ถูกต้องและเหมาะสมวัย [embed-health-tool-child-growth-chart] พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ มีอะไรบ้าง พัฒนาการทั่วไปของเด็ก 3 ขวบ มีดังต่อไปนี้ พัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว กระโดดอยู่กับที่ ปั่นจักรยาน 3 ล้อ แต่งตัวด้วยตัวเองขณะให้ผู้ปกครองช่วย วาดรูปวงกลมตามแบบด้วยดินสอหรือสีเทียน หมุนเปิดและปิดฝาขวด หมุนลูกบิดประตูได้ เปิดหน้าหนังสือด้วยตัวเอง พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร พูดเป็นประโยคได้ยาวตั้งแต่ 3 คำขึ้นไป เรียนรู้คำศัพท์ประมาณ 200 คำขึ้นไป พูดคุยโต้ตอบกับผู้ปกครองได้ บอกได้ว่าตัวเองทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน คำพูดเริ่มฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้น ทำตามคำสั่ง 2-3 ขั้นตอนได้แล้ว เช่น แปรงฟัน บ้วนปาก เช็ดปาก พัฒนาการด้านสติปัญญา มีความเข้าใจและเชื่อมโยงเหตุการณ์กับการกระทำได้ เช่น เมื่อผู้ปกครองบอกให้ใส่รองเท้า เด็กจะรู้ว่าได้เวลาไปนอกบ้าน ทำตามคำสั่งได้ เช่น ไม่เข้าใกล้เตาหรือสัมผัสของร้อน เข้าใจประโยคยาว […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

ครีมทาผิวเด็ก และวิธีเลือกครีมสำหรับเด็กอย่างเหมาะสม

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึงเป็นพิเศษเมื่อเลือกซื้อ ครีมทาผิวเด็ก คือ ส่วนประกอบของครีมทาผิว ควรเลือกครีมทาผิวเด็กที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ มีส่วนประกอบพื้นฐานเพียงไม่กี่อย่าง และไม่มีส่วนประกอบที่อาจทำให้ผิวที่บอบบางของเด็กแพ้และระคายเคือง เช่น น้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ [embed-health-tool-bmi] เคล็ดลับการเลือก ครีมทาผิวเด็ก การเลือก ครีมทาผิวเด็ก อาจทำได้ดังนี้ เลือกครีมทาผิวเด็กที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่น น้ำมันมะกอก ว่านหางจระเข้ ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวและมักไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง แต่หากเป็นไปได้จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่มาจากอาหาร เช่น จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต เลือกครีมทาผิวเด็กที่มีส่วนประกอบพื้นฐานเพียงไม่กี่อย่าง เพราะครีมที่มีสารต่าง ๆ มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ สำหรับทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถใช้ครีมทาผิวเด็กที่มีส่วนประกอบของสารกันแดด หรือครีมกันแดดเด็กได้ เพื่อป้องกันแสงยูวี โดยควรมีค่าเอสพีเอฟ (SPF) 50 ขึ้นไป อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ของครีมทาผิวเด็ก หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้กับผิวเด็กอย่างละเอียดทุกครั้งก่อนซื้อมาใช้ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเลือก ครีมทาผิวเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกส่วนผสมของครีมทาผิวที่อ่อนโยนสำหรับผิวเด็ก และหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม อาจทำให้ผิวที่บอบบางของเด็กระคายเคือง สำหรับเด็กที่มีผิวแพ้ง่าย อาจทำให้เกิดการอักเสบจนผิวหนังเป็นขุย มีผดผื่น และเกิดอาการคันได้ พาราเบน เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แต่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาการแพ้ นอกจากนี้ พาราเบนยังซึมเข้าสู่ผิวเด็กได้ง่าย […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

เนอสเซอรี่ ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับลูกน้อย

การมองหา เนอสเซอรี่ ที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองอาจเป็นเรื่องยาก เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม ทำเลที่ตั้ง ราคาที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับฐานะของที่บ้าน ระบบรักษาความปลอดภัย ความเชี่ยวชาญของบุคลากร ชั่วโมงที่รับฝาก เป็นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมมากที่สุด [embed-health-tool-child-growth-chart] เนอสเซอรี่ คืออะไร เนอสเซอรี่ (Nursery) หรือเดย์แคร์ (Day care) เป็นสถานที่รับฝากเด็กเล็กหรือเด็กก่อนวัยเรียนในช่วงกลางวัน มีทั้งการดูแลเป็นรายวันและรายเดือน โดยมีค่าใช้จ่ายแตกต่างไปในแต่ละสถานที่ ราคาอาจขึ้นอยู่กับระยะเวลา ทำเลที่ตั้งของเนอสเซอรี่ อาหารสำหรับเด็ก โปรแกรมการดูแล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ คุณภาพของบุคลากร เป็นต้น ข้อดีและข้อเสียของการส่งลูกไป เนอสเซอรี่ ข้อดีและข้อเสียที่คุณพ่อและคุณแม่ควรศึกษาและพิจารณาก่อนส่งลูกไปเนอสเซอรี่ อาจมีดังนี้ ข้อดี สะดวกต่อคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำงานและไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ เนอสเซอรี่หลายที่มีเวลารับฝากที่ยืดหยุ่นและอาจให้บริการในเวลาหลังเลิกงาน จึงช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการกับเวลาส่วนตัวได้สะดวกขึ้น ลูกจะได้ฝึกทักษะการเข้าสังคมกับเด็กในวัยใกล้เคียงกัน ลูกได้รับการเสริมสร้างพัฒนาการที่เหมาะสมจากบุคลากรที่มีประสบการณ์ ข้อเสีย การฝากลูกให้เนอสเซอรี่ช่วยเลี้ยงทำให้ลูกต้องอยู่ไกลหูไกลตาคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัว และคุณพ่อคุณแม่อาจไม่สามารถตรวจสอบความเป็นอยู่ของลูกได้ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นไปได้ที่ลูกจะได้รับบาดเจ็บ ถูกรังแก หรือเกิดอุบัติเหตุ อาจมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะบ้านที่ส่งให้ลูกไปอยู่เนอสเซอรี่เพราะไม่มีคนคอยดูแลในช่วงกลางวันที่ต้องออกไปทำงาน ทำให้ต้องฝากลูก 20 วันขึ้นไป/เดือน ลูกอาจเสี่ยงติดเชื้อโรคหรือปรสิต เช่น เชื้อโควิด-19 โนโรไวรัส ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เหา จากเพื่อนร่วมเนอสเซอรี่ได้ง่าย วิธีเลือก เนอสเซอรี่ […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

สนามเด็กเล่น มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกน้อยอย่างไร

สนามเด็กเล่น เป็นพื้นที่สำหรับวิ่งเล่นและใช้เวลาทำกิจกรรมนอกบ้านของเด็กหลากหลายช่วงวัย ทั้งยังเป็นสถานที่ที่ช่วยให้ลูกได้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย การแก้ไขปัญหา การแบ่งปัน การมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กคนอื่นในวัยใกล้เคียงกัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรปล่อยให้ลูกได้เล่นและสำรวจอย่างอิสระ แต่ก็ควรดูแลสอดส่องลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นขณะที่ลูกอยู่ในสนามเด็กเล่น [embed-health-tool-child-growth-chart] ประโยชน์ของ สนามเด็กเล่น การออกไปเล่นนอกบ้านของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นในบริเวณ สนามเด็กเล่น ของชุมชน โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เด็กสามารถเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ รวมถึงได้มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กในวัยเดียวกัน นอกจากจะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังช่วยลดความเครียด ช่วยเพิ่มช่วงความสนใจ (Attention span) หรือระยะเวลาที่ลูกสามารถมีสมาธิและจดจ่อกับกิจกรรมได้โดยไม่มีสิ่งรบกวน และอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยได้ ดังนี้ พัฒนาการด้านร่างกาย เมื่อออกไปนอกบ้านเพื่อเล่นสนุกในสนามเด็กเล่น ลูกจะได้พัฒนาทักษะการประสานงาน การเคลื่อนไหว การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทั้งยังเสริมสร้างนิสัยที่ดีทางสุขภาพ อาจช่วยให้ลูกกระตือรือร้นในการออกไปทำกิจกรรมทางกาย และอยากใช้เวลากับโลกภายนอกมากกว่าที่จะนั่งเฉย ๆ เพื่อดูโทรทัศน์หรืออยู่หน้าจอมือถือ พัฒนาการด้านสติปัญญา การออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นถือเป็นโอกาสดีที่ลูกจะได้เคลื่อนไหว คิดวิเคราะห์ หาวิธีแก้ปัญหา และมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งอาจช่วยให้ปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตที่โรงเรียนได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ การปีนป่ายเครื่องเล่นต่าง ๆ ยังอาจช่วยให้ลูกได้พัฒนาทักษะการตระหนักรู้ทางร่างกาย (Body awareness) และได้เรียนรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ในท่าทางแบบไหนเพื่อจะปีนขึ้นไปได้ […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

เด็กดักแด้ สาเหตุ อาการ วิธีรักษาและการดูแล

เด็กดักแด้ (Harlequin Ichthyosis) เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก เกิดจากเซลล์ผิวหนังแบ่งตัวผิดปกติ ทำให้ผิวหนังตกสะเก็ด แสบคัน แตกแยกเป็นแผ่น ๆ ทั่วร่างกาย โดยระดับความรุนแรงโรคอาจแตกต่างไปในแต่ละคน ในกรณีรุนแรง อาจทำให้เด็กเสี่ยงเสียชีวิตในช่วงไม่กี่วันหลังคลอดได้ ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่การดูแลอย่างเหมาะสมก็อาจช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคนี้ได้ [embed-health-tool-child-growth-chart] เด็กดักแด้ คืออะไร เด็กดักแด้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่รุนแรงและหายากซึ่งส่งผลต่อผิวหนังของผู้ป่วย โดยปกติแล้วผิวหนังจะเป็นเหมือนเกราะป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบ แต่ผู้ที่เป็นโรคเด็กดักแด้ มักคลอดก่อนกำหนดพร้อมกับมีผิวหนังแข็ง หนา ตกสะเก็ด ห่อหุ้มทั่วทั้งร่างกาย และผิวหนังอาจรัดตึงจนแยกเป็นแผ่น กระทบต่อการควบคุมการสูญเสียน้ำ การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และการต่อสู้กับการติดเชื้อ สาเหตุของ เด็กดักแด้ เด็กดักแด้ เป็นความผิดปกติที่เกิดจากยีนด้อย (Autosomal Recessive) เนื่องจากการกลายพันธุ์ของยีน ABCA12 ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากทั้งพ่อและแม่ ยีนชนิดนี้เป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างผิวหนัง เมื่อกลายพันธุ์จึงทำให้ชั้นผิวหนังพัฒนาไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยีน ABCA12 ที่กลายพันธุ์ยังไปยับยั้งไม่ให้เซลล์สร้างโปรตีน และขัดขวางการขนส่งน้ำมันเคลือบผิวไปยังชั้นผิว ส่งผลให้เด็กมีสภาพผิวที่เป็นเกล็ดแข็งและหนาผิดปกติ โดยหากคน ๆ หนึ่งได้รับยีนปกติและยีนกลายพันธุ์จากพ่อและแม่ ก็จะกลายเป็นพาหะของโรค แต่จะไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ โอกาสของการเกิดเด็กดักแด้ หากทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะ (มียีน ABCA12 กลายพันธุ์) อาจมีดังนี้ โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเด็กดักแด้ คือ 25% […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

ชักโครก เด็ก ควรเริ่มใช้งานเมื่อไหร่ และวิธีฝึกให้เด็กนั่งส้วม

เด็กอายุประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ เป็นวัยที่เหมาะสมในการฝึกให้เด็กหัดใช้กระโถนเพื่อขับถ่ายแทนการใส่ผ้าอ้อม และเมื่อเด็กใช้กระโถนและนั่งทรงตัวได้เองอย่างมั่นคงแล้ว จึงค่อยเริ่มฝึกให้เด็กขับถ่ายด้วยการใช้ ชักโครก เด็ก วิธีนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสอนเด็กเกี่ยวกับสุขอนามัยและการทำความสะอาดร่างกายหลังขับถ่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ควรหาที่วางเท้าสำหรับขับถ่ายหรือเก้าอี้ตัวเล็กมาให้เด็กวางเท้าได้อย่างมั่นคง และเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกจากชักโครก รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังเป็นอันขาด [embed-health-tool-baby-poop-tool] ชักโครก เด็ก ควรเริ่มใช้เมื่อไหร่ เวลาที่เหมาะสมในการเริ่มใช้ชักโครก เด็ก คือ เมื่อคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าเด็กใช้กระโถนได้คล่องแล้ว โดยทั่วไปจะอยู่ที่อายุประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ ตามปกติแล้วเด็กส่วนใหญ่จะควบคุมการขับถ่ายของตัวเองได้อย่างเต็มที่ในช่วงอายุ 3-4 ขวบ แต่เด็กบางคนก็อาจยังมีปัญหาปัสสาวะรดที่นอนอยู่ ซึ่งอาจค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป สัญญาณที่แสดงว่าเด็กพร้อมใช้ชักโครก เด็ก หลังจากเด็กเปลี่ยนจากการสวมผ้าอ้อมอย่างเดียว ไปเป็นการขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมควบคู่กับการใช้กระโถน หรือใช้กระโถนอย่างเดียวมาระยะหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตเห็นพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณว่าเด็กพร้อมสำหรับการฝึกเข้าห้องน้ำแล้ว ดังนี้ เด็กสามารถขับถ่ายในกระโถนในท่านั่งยอง ๆ ได้อย่างมั่นคง เด็กลุกไปใช้กระโถนในตอนกลางคืนแทนการขับถ่ายใส่ที่นอนหรือใส่ผ้าอ้อมที่สวมอยู่ เด็กแสดงความสนใจที่จะเข้าไปขับถ่ายในห้องน้ำ เทคนิคการฝึกให้เด็กใช้ ชักโครก เด็ก วิธีเหล่านี้ช่วยให้เด็กฝึกใช้ชักโครก เด็ก อย่างได้ผล เป็นแบบอย่างให้เด็กเห็น เด็ก ๆ มักมีพฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่อาจเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อแสดงให้เด็กเห็นวิธีเข้าห้องน้ำของผู้ใหญ่ เช่น เดินเข้าห้องน้ำไปนั่งบนโถส้วมและกดชักโครก จากนั้นก็ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

กระโถน เด็ก ควรให้ใช้เมื่อไหร่ และวิธีฝึกเด็กให้ขับถ่ายด้วยกระโถน

คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มฝึกให้เด็กใช้กระโถนในการขับถ่ายแทนการสวมผ้าอ้อม เมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ เนื่องจากเป็นวัยที่เด็กสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้แล้ว และอาจแสดงพฤติกรรมว่าพร้อมใช้ กระโถน เด็ก เช่น เด็กไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหลังนอนกลางวัน เด็กบอกได้ว่าตัวเองกำลังจะถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ ทั้งนี้โดยคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรฝึกให้นั่งกระโถนเร็วเกินไปหรือบังคับให้เด็กใช้กระโถน เพราะอาจทำให้เด็กงอแง และฝึกขับถ่ายด้วยกระโถนได้ล่าช้ากว่าเดิม [embed-health-tool-baby-poop-tool] กระโถน เด็ก ควรเริ่มใช้เมื่อไหร่ ในช่วงขวบปีแรก เด็ก ๆ จะยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ การขับถ่ายของเด็กในวัยนี้จึงเป็นไปโดยอัตโนมัติและมักไม่เป็นเวลา เด็กมักจะเริ่มควบคุมการขับถ่ายของตัวเองได้มากขึ้นตอนอายุ 1 ขวบครึ่ง และอาจเริ่มแสดงพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณว่าสามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ดีขึ้น เช่น ขับถ่ายเป็นเวลา ไม่ขับถ่ายหลังงีบหลับ ในช่วงที่เด็กอายุได้ประมาณ 1 ขวบครึ่งถึง 2 ขวบ จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มฝึกให้เด็กนั่งกระโถนเพื่อขับถ่าย และช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การรักษาสุขอนามัย หากเริ่มช้าหรือเร็วกว่านี้อาจทำให้เด็กมีปัญหาในการขับถ่ายอย่างเป็นที่ด้วยตัวเอง ส่งผลให้พัฒนาการไม่เป็นไปตามวัย ทั้งนี้ พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เด็กบางคนก็อาจเริ่มใช้กระโถนเด็กในการขับถ่ายได้ในช่วงอายุ 3 ขวบ ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด สัญญาณว่าเด็กพร้อมใช้กระโถน เด็ก พฤติกรรมที่อาจแสดงว่าเด็กพร้อมเปลี่ยนจากขับถ่ายในผ้าอ้อมไปใช้กระโถน อาจมีดังนี้ เด็กไม่ขับถ่ายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงในช่วงกลางวัน เด็กไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหลังนอนกลางวัน เด็กขับถ่ายเป็นเวลาและสม่ำเสมอ เช่น ถ่ายอุจจาระในช่วงเช้า เด็กแสดงสีหน้า […]


การเติบโตและพัฒนาการในวัยเรียน

ของเล่น เด็ก โต ส่งเสริมพัฒนาการลูกให้เรียนรู้ไวตั้งแต่เด็กจนโต

ตั้งแต่เล็กจนโต ของเล่นมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก เด็กแต่ละวัยจะมีการเล่นหรือของเล่นที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ของเล่นไม่เพียงทำให้เด็กรู้สึกสนุกเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะตั้งแต่วัยเยาว์ พ่อแม่จึงควรเลือกของเล่นให้เหมาะกับช่วงวัย เช่น ของเล่นเด็กเล็ก ของเล่น เด็ก โต เพราะพฤติกรรมการเล่นของเด็กจะพัฒนาตามวุฒิภาวะ ความพร้อมทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา [embed-health-tool-vaccination-tool] พฤติกรรมการเล่นของเด็กแต่ละช่วงวัย การเล่นจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสในร่างกายของลูก จึงควรทราบถึงพฤติกรรมการเล่นของเด็กแต่ละช่วงวัย เพื่อพิจารณาเลือกของเล่นให้เหมาะว่า ของเล่นประเภทไหนสำหรับเด็กเล็ก หรือเป็นของเล่นเด็กโต ให้ทุกการเล่นของลูกได้พัฒนาร่างกาย จิตใจ และอารมณ์  พฤติกรรมการเล่นของเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี เด็กวัยแรกเกิดถึง 3 เดือน จะเริ่มมีพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสการมองเห็นและการได้ยินในช่วงแรกของชีวิต จึงเหมาะกับของเล่นที่มีสีสันสดใส มีเสียง และเคลื่อนไหวได้ การแขวนของเล่นสีสดใสที่มีเสียงแกว่งไปมา จะช่วยให้เด็กกรอกตามอง สังเกตความเคลื่อนไหว และได้ยินเสียงไปด้วย ต่อมาเด็กจะสามารถใช้กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวได้ เริ่มบังคับกล้ามเนื้อได้ และชอบคว้าของเล่นเข้าปาก จึงควรเลือกของเล่นที่ปลอดภัย สามารถนำเข้าปากได้ ไม่อันตราย และไม่ควรมีขนาดเล็กเพื่อป้องกันไม่ให้ติดคอหรือสำลัก พฤติกรรมการเล่นของเด็กช่วงวัย 1-2 ปี เด็กวัยนี้เริ่มเกาะเดินได้ จึงควรได้ฝึกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ อีกทั้งเป็นช่วงวัยที่ชอบเรียนรู้ สนุกกับอะไรใหม่ ๆ ผู้ใหญ่จึงควรอยู่ใกล้ชิดขณะที่เด็กเล่นของเล่นเพื่อความปลอดภัย […]


เด็กทารก

พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน และวิธีเสริมพัฒนาการเด็กอย่างเหมาะสม

เด็ก 5 เดือน เป็นช่วงวัยที่มีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้น เด็กจะตัวใหญ่ขึ้น มีพัฒนาการทางกายภาพและการเคลื่อนไหว รวมถึงพัฒนาการในด้านอื่น ๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น การเรียนรู้ถึง พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน และวิธีเสริมพัฒนาการเด็กในวัยนี้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์สมวัย [embed-health-tool-bmi] พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน มีอะไรบ้าง พัฒนาการทั่วไปของเด็กอายุ 5 เดือน อาจมีดังต่อไปนี้ พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม สามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลายขึ้น เช่น ยิ้มเมื่อมีความสุข เบ้ปากเมื่อไม่สบายตัว หัวเราะชอบใจ รู้สึกตื่นตัวเมื่อมีคนเข้ามาใกล้ ยิ้มแย้มเมื่อได้อยู่กับคนหรือเมื่อมีคนสนใจ จำหน้าคุณพ่อคุณแม่หรือคนในบ้านได้ พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร สามารถพูดอ้อแอ้ตามประสาทารกและอาจมีบางคำที่เริ่มฟังเหมือนคำพูดจริง ๆ มีการนำเสียงพยัญชนะและสระมาผสมเข้าด้วยกัน เช่น “มา-มา” แต่ยังอาจไม่เข้าใจความหมายของคำ และยังไม่รู้ว่าหมายถึงบุคคลใด แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจหันศีรษะไปตามเสียงเรียกชื่อหรือคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น คำว่า “ไม่” สามารถแสดงท่าทาง เคลื่อนไหวร่างกาย ใช้เสียงต่าง ๆ ในการสื่อสารเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เช่น ร้องไห้เมื่อถูกขัดใจ ปัดมือออกเมื่อไม่อยากกินอาหาร ส่งเสียงเรียกให้คนเข้ามาหา ชูแขนให้อุ้ม พัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว […]


โภชนาการสำหรับทารก

อาหารเด็ก7เดือน ที่ช่วยเสริมสุขภาพและพัฒนาการ

นมแม่เป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก 7 เดือน อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ อาหารเด็ก7เดือน ที่เป็นอาหารประเภทอื่นเสริมด้วยได้ โดยอาจให้เด็ก 7 เดือนกินธัญพืช พืชหัว ผักใบเขียว ผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากนมวัว ไข่สุก เนื้อปลา ที่บดหรือปั่นจนละเอียดและเคี้ยวง่าย ในปริมาณน้อย วันละ 2-3 ครั้ง ซึ่งอาจเสริมสร้างโภชนาการและช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย [embed-health-tool-child-growth-chart] เด็ก7เดือน กินอาหารแข็งได้หรือยัง อาหารแข็ง (Solid Food) เป็นอาหารที่ผ่านการบดจนละเอียดเพื่อช่วยให้ย่อยได้ง่าย เหมาะกับระบบย่อยอาหารของเด็กที่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยทั่วไปจะเป็นผักและผลไม้บด เนื้อสัตว์บด ธัญพืชบด เป็นต้น บางครั้งอาจผสมกับนมแม่เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและช่วยให้เด็กกินได้สะดวกขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เด็กเริ่มกินอาหารแข็งได้เมื่อเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเด็กเริ่มต้องการพลังงานมากขึ้นและจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอื่น ๆ นอกเหนือไปจากนมแม่ในการเจริญเติบโต ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้กินนมแม่ในปริมาณเท่าเดิมควบคู่ไปด้วย ไม่ควรหยุดให้นมแม่โดยทันที เนื่องจากนมแม่ยังคงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เด็ก 7 เดือน ถือเป็นวัยที่กินอาหารแข็งได้แล้ว และหากให้เด็กเริ่มกินอาหารแข็งตั้งแต่อายุ 6 เดือน ในตอนนี้เด็กก็จะคุ้นเคยกับการกินอาหารแข็งบ้างแล้ว แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่บดหรือปั่นอาหารให้ละเอียด เด็กจะได้กินง่ายขึ้นและช่วยให้ย่อยง่ายด้วย โดยควรให้เด็ก 7 เดือนกินอาหารแข็งครั้งละครึ่งถ้วย […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!


advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม