ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ ในเด็ก มีสาเหตุจากอาการระคายเคืองในลำคอหรือการสูดดมสิ่งแปลกปลอมเข้าไป จนทำให้เกิดอาการสำลักและไอออกมา หรืออาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้ร่างกายขับเมือกหรือสารคัดหลั่งออกมามากขึ้น จนเกิดอาการไอมีเสมหะ
โดยปกติอาการไอที่เกิดจากการติดเชื้อมักมีไข้ร่วมด้วย แต่ในบางกรณี อาการไออาจเกิดขึ้นเป็นเวลานานแม้ว่าไข้จะหายดีแล้ว จึงยังอาจทำให้เด็กไอมีเสมหะ แต่ไม่มีไข้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็กเข้าพบคุณหมอหากอาการไอไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไปหลายสัปดาห์
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ เกิดจากอะไร
ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
-
การระคายเคืองในลำคอหรือระบบทางเดินหายใจ
สภาพแวดล้อมอาจมีสารระคายเคืองที่อาจทำให้เกิดอาการไอได้ เช่น ควัน ฝุ่นละออง มลภาวะในอากาศ ซึ่งอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจระคายเคือง ส่งผลให้ร่างกายผลิตเสมหะที่มากขึ้น จนเกิดอาการไอมีเสมหะและระคายคอ
การรักษา อาการไอมีเสมหะจากสาเหตุดังกล่าว คุณพ่อคุณแม่อาจล้างจมูกให้เด็กด้วยการใช้หลอดฉีดยาดูดน้ำเกลือและฉีดเข้าไปในจมูก เพื่อให้น้ำเกลือเข้าไปล้างสิ่งสกปรกรวมถึงเมือกในจมูก ซึ่งอาจช่วยให้เด็กหายใจโล่งขึ้นและบรรเทาอาการไอมีเสมหะได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในพื้นที่ที่มีความแออัด มีฝุ่นควันหรือมลภาวะทางอากาศ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
-
เสมหะในคอ
โดยปกติร่างกายจะผลิตเสมหะตามธรรมชาติ ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค แต่ในบางกรณี หากร่างกายผลิตเมือกหลังโพรงไซนัสมากเกินไปอาจทำให้เมือกไหลลงไปด้านหลังคอ จนทำให้มีอาการระคายคอ ไอมีเสมหะ เจ็บคอ คลื่นไส้ หรือมีกลิ่นปากได้
การรักษา เพื่อช่วยบรรเทาอาการเสมหะในลำคออาจทำได้ด้วยการดื่มน้ำมากขึ้นประมาณ 2-3 ลิตร/วัน หรืออาจใช้เครื่องทำความชื้นภายในบ้านเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในลำคอ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถล้างจมูกให้เด็ก ด้วยการใช้หลอดฉีดยาฉีดน้ำเกลือเข้าทางจมูก เพื่อล้างเมือกและสิ่งสกปรกภายในจมูก ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณเสมหะและทำให้เด็กหายใจสบายขึ้น
-
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เป็นการติดเชื้อในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ เช่น ไซนัส ลำคอ ปอด จมูก จึงอาจทำให้มีอาการไอมีเสมหะ มีไข้ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดหัว หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หายใจมีเสียง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน โดยปกติหากได้รับการรักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อาการไข้จะหายเป็นปกติ แต่อาจยังคงเหลืออาการไอเรื้อรัง มีเสมหะและไม่มีไข้ โดยอาจเกิดขึ้นกับเด็กที่เคยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ โรคไอกรน และโรคครูป (Croup) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเยื่อทางเดินหายใจตั้งแต่กล่องเสียงลงไปที่หลอดลมเกิดการอักเสบ
การรักษา คุณหมออาจต้องวินิจฉัยเฉพาะโรคและทำการรักษาด้วยการใช้ยา เช่น ยาแก้แพ้ ยาหดหลอดเลือด (Decongestants) เดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) ซึ่งเป็นยาระงับอาการไอ
-
โรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาและกลับเข้าไปในหลอดอาหาร ซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมระหว่างปากและท้อง จนอาจทำให้เด็กมีอาการเสียดท้อง ปวดท้อง กลืนลำบาก เจ็บหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน มีกลิ่นปากและไอมีเสมหะได้
การรักษา เพื่อช่วยป้องกันและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนในเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการให้เด็กรับประทานอาหารในปริมาณมากเกินไป หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนเข้านอน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันและมีรสเผ็ด นอกจากนี้ อาจช่วยควบคุมน้ำหนักตัวของเด็ก เพราะเด็กที่มีน้ำหนักตัวมากหรือเป็นโรคอ้วนอาจเสี่ยงในการเกิดโรคกรดไหลย้อนมากขึ้น
หากมีอาการรุนแรงควรพาเด็กเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล คุณหมออาจให้ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาลดการผลิตกรดและยารักษาหลอดอาหาร เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
-
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบภายในจมูกโดยมีสาเหตุมาจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังของสัตว์ อาจทำให้มีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น ไอแห้ง จาม คันจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหลจนอาจผลิตเมือกมากขึ้น ทำให้เมือกไหลลงไปด้านหลังคอ ส่งผลให้มีอาการระคายเคืองคอจนเกิดอาการไอมีเสมหะขึ้น
การรักษา คุณหมออาจต้องรักษาอาการภูมิแพ้ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดการอักเสบภายในจมูก โดยคุณหมออาจสั่งยาแก้แพ้ คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ในรูปแบบของยารับประทานหรือยาฉีดจมูก เพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและการอักเสบ
-
โรคปอด
โรคปอดบางชนิดอาจทำให้มีอาการไอเรื้อรังและมีเสมหะมาก เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดลมโป่งพอง เนื่องจากเป็นโรคที่อาจทำให้เกิดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ และกระตุ้นการผลิตเมือกในจมูก ซึ่งเมือกที่เพิ่มขึ้นอาจไหลลงคอและก่อให้เกิดความระคายเคืองจนมีอาการไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ รวมทั้งอาจทำให้มีอาการหายใจถี่ หายใจมีเสียง เจ็บหน้าอก ไอมีเลือด
การรักษา อาจขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของโรคปอดในแต่ละชนิด ซึ่งมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน โดยปกติคุณหมออาจให้ยาเพื่อช่วยควบคุมอาการ เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์ประเภทรับประทานหรือสูดดม อาจให้ออกซิเจนเสริมเพื่อช่วยในการหายใจ หากมีอาการรุนแรงคุณหมออาจทำการรักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตพบว่า เด็กมีอาการดังที่กล่าวมาควรรีบพาไปพบคุณหมอ เพื่อทำการตรวจปอดและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
-
อาการประหม่าหรือวิตกกังวล
ในบางกรณี ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ในเด็กอาจมีสาเหตุมาจากสุขภาพจิตที่เกิดความวิตกกังวลหรือประหม่า และแสดงพฤติกรรมไอออกมาจนติดเป็นนิสัย ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองคอจนมีเสมหะออกมาด้วย
การรักษา เพื่อบรรเทาอาการไอที่ติดเป็นนิสัยของเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยหรือแสดงพฤติกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจให้เด็กในช่วงเวลาที่รู้สึกเครียด วิตกกังวลหรือประหม่า เช่น การกอด การหอมแก้ม เพื่อให้กำลังใจ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กเมื่อเด็กเริ่มแสดงพฤติกรรมไอ เช่น พูดคุยเรื่องสนุก เล่าเรื่องตลก หยอกล้อ ซึ่งอาจช่วยให้เด็กลืมพฤติกรรมที่เคยทำจนชินไปได้