พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 38 หรือเด็ก 9 เดือน ในช่วงนี้ลูกอาจสามารถเริ่มลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเอง สามารถคลานและเดินได้เล็กน้อยโดยจับสิ่งของเพื่อช่วยพยุง อีกทั้งยังอาจเริ่มมีพฤติกรรมเลียนแบบคนรอบข้าง คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังและเก็บสิ่งของที่อาจเป็นอันตราย เช่น มีด ยา ของมีคม ของชิ้นเล็ก ๆ ให้พ้นมือลูก เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกกลืนหรือเกิดอุบัติเหตุ
[embed-health-tool-vaccination-tool]
การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 38
ลูกน้อยจะเติบโตอย่างไร
พัฒนาการในสัปดาห์ที่ 38 ของลูกน้อย ที่พบได้ทั่วไป อาจมีดังนี้
- ยันตัวขึ้นยืนจากท่านั่งได้
- ไถตัวหรือคลาน
- ลุกขึ้นนั่งโดยใช้หน้าท้อง
- ทักท้วงเมื่อพยายามนำของเล่นออกจากมือหรือปาก
- ยืนได้ด้วยการจับคนหรือสิ่งของ
- ใช้นิ้วหยิบของชิ้นเล็ก ๆ ได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเก็บของอันตรายให้พ้นมือลูก
- พูด “มาม๊า” หรือ “ปะป๊า” ซ้ำไปมา
- เล่นเกมจ๊ะเอ๋
- จำข้อมูลเฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น เช่น ของเล่นของตัวเอง รู้ว่าตัเวองอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน
- เลียนแบบการกระทำที่เคยเห็น
ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร
ตอนนี้ลูกน้อยสามารถนำของใส่ในกล่องและเอาออกมาจากกล่องได้ ดังนั้นควรมีถังพลาสติก และตัวต่อหลากสีไว้ให้ลูกได้หยิบจับและฝึกฝนทักษะ โดยต้องดูให้แน่ใจว่า ของเล่นมีขนาดพอดี ไม่เล็กเกินไปจนลูกอาจกลืนเข้าปากไปได้ นอกจากนี้ ลูกยังอาจชอบหรือสนใจสิ่งของต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหวไปมา เช่น ลูกบิด คันโยก ประตูที่เปิดและปิด มากเป็นพิเศษด้วย
หากหยิบของเล่นไปจากลูก ลูกมักจะทักท้วงหรือแสดงท่าทีไม่พอใจ และเริ่มแสดงออกถึงสิ่งที่ต้องการ คุณพ่อคุณแม่อาจหยิบของเล่นชิ้นใหม่ให้ลูกก่อนหยิบของเล่นชิ้นเก่าออกจากมือหรือปากของลูก
เด็กอายุ 38 สัปดาห์จะเริ่มเล่นเกมส่งบอลได้ คุณพ่อคุณแม่อาจลองกลิ้งลูกบอลไปให้แล้วดูว่าลูกจะกลิ้งลูกบอกคืนมาไหม และอาจให้ลูกเล่นของเล่นที่ช่วยในพัฒนาการ เช่น ของเล่นที่แยกประเภทสิ่งของ การโยนหวงสี ๆ ลงเสา นอกจากนี้ ลูกอายุ 38 สัปดาห์ยังชอบแบ่งปันอาหาร ดังนั้น เมื่อลูกยื่นอาหารหรือสิ่งของให้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรรับของจากลูกด้วย
สุขภาพและความปลอดภัย
ควรปรึกษาคุณหมออย่างไร
คุณหมออาจตรวจสุขภาพของเด็กอายุ 38 สัปดาห์ ด้วยวิธีต่อไปนี้
- การตรวจร่างกายทั่วไป และติดตามภาวะสุขภาพ (ถ้ามี)
- การประเมินพัฒนาการ เช่น การนั่งด้วยตัวเอง การลุกขึ้นโดยมีคนช่วยและไม่มีคนช่วย การเอื้อมหยิบของ การเสาะหาและหยิบของชิ้นเล็ก การมองหาของที่หล่นหรือถูกนำไปซ่อน การตอบสนองต่อการเรียกลูก การจดจำคำง่าย ๆ อย่างคำว่า “คุณแม่” “คุณพ่อ” “ลาก่อน” “ไม่” รวมถึงความเพลิดเพลินกับเกมที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ เช่น เกมตบแปะ เกมจ๊ะเอ๋
สิ่งที่ควรรู้
การหย่านมด้วยตัวเอง
ลูกอาจจะไม่สนใจหรือถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่ายในขณะป้อนนม จนอาจดูดนมคุณแม่ได้ครั้งละแค่ไม่กี่วินาที ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไปของเด็กอายุ 38 สัปดาห์
อีกทั้ง ลูกวัย 38 สัปดาห์หรือประมาณ 9 เดือนจะหย่านมเองตามธรรมชาติ ซึ่งคุณแม่อาจช่วยกระตุ้นให้ลูกหย่านมได้ไวขึ้นโดยการให้ลูกกินนมแม่จากขวด การกินนมผง หรืออาหารแข็ง
หรือคุณแม่อาจลดจำนวนการให้ลูกกินนมจากเต้าลงทีละนิด ให้เหลือเพียงหนึ่งครั้ง/วัน อาจเริ่มต้นด้วยการเลิกป้อนนมในช่วงเวลากลางวัน จากนั้นก็ค่อยเลิกป้อนนมช่วงเช้าตรู่ก็ได้
การดึงหรือยกลูกขึ้นยืนตอนลูกยังไม่พร้อม
ถ้าขาของลูกน้อยยังไม่พร้อมจะยืน คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรไปดึงลูกขึ้นมาตามอำเภอใจ เพราะอาจทำให้ลูกยืนในท่าที่ไม่คุ้น และล้มได้ และหากคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกเริ่มเซหรือกำลังจะล้ม ควรรีบช่วยจับให้ลูกนั่งลงเบา ๆ ทำช้า ๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้วิธีนั่งและยืนที่ถูกต้อง
สิ่งที่ต้องเป็นกังวล
ลูกเลือกกิน
เทคนิคที่อาจช่วยให้ลูกกินอาหารได้มากขึ้น หากลูกเลือกกินหรือกินยาก
- ให้ลูกน้อยกินขนมปัง ซีเรียล กล้วย หรืออาหารอะไรก็ตามที่ลูกชอบบ้าง
- ค่อย ๆ ให้ลูกลองกินอาหารชนิดใหม่ ๆ แต่ไม่ควรบังคับหรือยัดเยียด หากลูกไมยอมกินอาหารชนิดใหม่ ควรรอสักพักจึงค่อยให้ลูกลองอาหารชนิดนั้นอีกครั้ง
- ให้ลูกกินอาหารบดน้อยลง เพราะลูกอาจจะเบื่ออาหารบด และพร้อมจะกินอาหารแบบผู้ใหญ่แล้ว อาจลองเปลี่ยนมาให้ลูกกินอาหารเนื้อนิ่มที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ลูกสามารถหยิบเข้าปากได้ง่าย หรือที่เรียกว่า ฟิงเกอร์ฟูด (Finger Food) นอกจากอาจช่วยให้ลูกกินอาหารได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยฝึกกล้ามเนื้อ การทำงานประสานกันระหว่างมือและตา และประสาทสัมผัสให้ลูกได้ด้วย
- ทำอาหารให้หลากหลาย อาจช่วยให้ลูกอยากอาหารมากขึ้น
- เปลี่ยนสถานการณ์บ้าง หากลูกไม่ยอมให้ป้อนข้าว อาจให้ลูกหยิบอาหารกินเอง
- ลดปริมาณการกินของว่างของลูกให้เหลือแค่ตอนเช้า 1 ครั้งและตอนบ่าย 1 ครั้ง
- ยิ้มอยู่เสมอ การขมวดคิ้วและทำหน้าไม่พอใจในขณะป้อนอาหารให้ลูก อาจทำให้ลูกยิ่งไม่ยอมกินอาหาร คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรดุ ด่า หรือขึ้นเสียงเมื่อลูกหันหน้าหนีอาหาร แต่ควรสร้างบรรยากาศสบาย ๆ เพื่อช่วยให้ลูกรู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้น