วิตามินบี 1 (Vitamin B1) หรือ ไทอามีน (Thiamin) เป็นสารอาหารสำคัญที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 เป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดวิตามินบี เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น มือเท้าชา แขนขาอ่อนแรง ความจำเสื่อม
[embed-health-tool-bmi]
วิตามินบี 1 คืออะไร
ไทอามีน (Thiamin) หรือวิตามินบี 1 (Vitamin B1) เป็นสารอาหารสำคัญในกลุ่มของวิตามินบี โดยเป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ เมื่อวิตามินบี 1 เข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อย่อยสลายหมดแล้วจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านปัสสาวะ โดยวิตามินบี 1 ยังเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และมีส่วนช่วยสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทและระบบหัวใจด้วย
ประโยชน์ของวิตามินบี 1 มีอะไรบ้าง
วิตามินบี 1 มีประโยชน์ต่อสุขภาพต่อร่างกาย หลายประการ ได้แก่
ป้องกันภาวะขาดแคลนวิตามินบี 1
ภาวะการขาดแคลนวิตามินบี 1 เกิดจากการที่ร่างกายมีระดับของวิตามินบี 1 ต่ำกว่าเกณฑ์ ดังนั้น ควรจะต้องรับประทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของภาวะขาดแคลนวิตามินบี 1 ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นโรคเหน็บชา ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท และสุขภาพหัวใจ
บำรุงสมอง
หนึ่งในหน้าที่สำคัญของวิตามินบี 1 คือ เป็นตัวกระตุ้นการนำความรู้สึกของเซลล์ประสาท และเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง ดังนั้น ผู้ที่มีภาวะขาดแคลนวิตามินบี 1 อาจจะมีปัญหาที่ระบบประสาทและสมอง หรือในกรณีที่รุนแรงอาจเสี่ยงต่อกลุ่มอาการความจำเสื่อมเนื่องจากการขาดวิตามินบี 1 (Wernicke-Korsakoff syndrome) โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ออาการนี้คือผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำ โดยแอลกอฮอล์จะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินบี 1 ในร่างกาย เสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายมีระดับวิตามินบี 1 ไม่เพียงพอ
บำรุงหัวใจ
ภาวะหัวใจล้มเหลว อาจเกิดจากภาวะขาดแคลนวิตามินบี 1 ในร่างกาย ดังนั้น การรับประทานอาหารและอาหารเสริมที่ให้วิตามินบี 1 จะช่วยให้ร่างกายมีระดับของวิตามิน บี 1 อย่างเพียงพอ ทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ และลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลวได้ด้วย
ลดความเสี่ยงโรคเหน็บชา
หากร่างกายมีระดับของวิตามินบี 1 ไม่เพียงพอ จะเสี่ยงต่อโรคเหน็บชา ผู้ป่วยจะมีอาการชาที่มือและเท้า ในบางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง ขณะที่บางรายอาจมีอาการบวมที่ขาและเท้า หรือเสี่ยงที่จะเป็นอัมพาต ดังนั้น การรับประทานอาหารและอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 ในแต่ละวันจะช่วยให้ร่างกายมีระดับของวิตามินบี 1 ที่เพียงพอ ป้องกันความเสี่ยงของโรคเหน็บชาได้
อาหารชนิดใดบ้างที่ให้ วิตามินบี 1
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำปริมาณวิตามินบี 1 ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน เอาไว้ดังนี้
- สำหรับผู้ชาย ควรได้รับวิตามินบี 1 ในปริมาณ 1.2 มิลลิกรัม/วัน
- สำหรับผู้หญิง ควรได้รับวิตามินบี 1 ในปริมาณ 1.1 มิลลิกรัม/วัน
ทั้งนี้ วิตามินบี 1 พบได้ในอาหารทั่วไป ดังต่อไปนี้
- เนื้อหมู
- เนื้อสัตว์ปีก
- เนื้อปลา
- ถั่ว
- ธัญพืชต่าง ๆ
- ขนมปัง
- ข้าว
- พาสต้า
- ซีเรียล
- อาหารทะเล
- ชา
- กาแฟ
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- กะหล่ำดอก
- มันฝรั่ง
- หน่อไม้ฝรั่ง
- คะน้า
- ผักเคล
- ส้ม
นอกจากอาหารเหล่านี้แล้ว ยังสามารถพบวิตามินบี 1 ได้ในอาหารเสริมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริม การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ยกเว้นผู้ที่มีภาวะขาดแคลนวิตามินบี 1 หรือโรคเหน็บชา คุณหมออาจวินิจฉัยให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารเสริมวิตามินบี 1 เพื่อรักษาโรคและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น