backup og meta

ปวดหัวข้างเดียว เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 19/01/2023

    ปวดหัวข้างเดียว เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่

    ปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการที่อาจพบได้บ่อย โดยอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรัง และอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสมอง เซลล์ประสาท กะโหลกศีรษะ หรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น หูอักเสบ ความผิดปกติของสายตา โพรงจมูกอักเสบ อุบัติเหตุ ดังนั้น จึงควรสังเกตความรุนแรงของอาการปวดหัวข้างเดียวอยู่เสมอ หากอาการแย่ลงควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม

    ปวดหัวข้างเดียว เกิดจากอะไร

    อาการปวดหัวข้างเดียวอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากปัจจัยภายในร่างกายหรือปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดอาการ ดังนี้

    ปัจจัยภายในร่างกาย

    • ความผิดปกติของสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองโป่งพอง
    • ความผิดปกตินอกเหนือจากสมอง เช่น หูอักเสบ ความผิดปกติของสายตา โพรงจมูกอักเสบ ความดันโลหิตสูง ไมเกรน ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อ
    • สภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า
    • การออกกำลังกายและการมีเพศสัมพันธ์อย่างหนัก
    • ความเหนื่อยล้าและความอ่อนเพลีย
    • การรับประทานของเย็นจัด
    • ผลข้างเคียงจากการใช้ยา

    ปัจจัยภายนอกร่างกาย

    การกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะอย่างรุนแรง เช่น รถชน หกล้ม อาจส่งผลทำให้สมอง กะโหลกศีรษะ หรือเซลล์ประสาทบางส่วนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวข้างเดียวได้

    ปวดหัวข้างเดียว อันตรายหรือไม่

    ปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการปวดหัวเพียงข้างใดข้างหนึ่งที่อาจพบได้บ่อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไมเกรน ความเครียด ความผิดปติในสมอง ความผิดปกติของหู สายตาหรือจมูก โดยอาการปวดหัวข้างเดียวอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เป็น ๆ หาย ๆ และสามารถหายได้เอง หรือบางอาการอาจเกิดขึ้นอย่างเรื้อรังเป็นเวลานานและเจ็บปวดรุนแรงมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการปวดหัวข้างเดียว หากมีอาการต่อไปนี้อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการวินิจฉัย

    • อาการปวดหัวข้างเดียวรุนแรงถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
    • อาการปวดหัวข้างเดียวอย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะหากอาการปวดหัวรุนแรงจนทำให้ตื่นกลางดึก
    • อาการปวดหัวข้างเดียวที่เกิดขึ้นจากการได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ เช่น อุบัติเหตุ หกล้ม
    • อาการปวดหัวข้างเดียวที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการทางร่างกายอื่น ๆ เช่น ไอ มีไข้ แน่นหน้าอก อ่อนล้า อ่อนเพลีย
    • อาการปวดหัวข้างเดียวที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการทางระบบประสาท เช่น อาการชัก ความจำ การมองเห็น การได้ยิน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
    • ควรระวังผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เพราะอาจมีแนวโน้มเกิดอาการปวดหัวข้างเดียวได้อย่างเฉียบพลัน

    ประเภทของอาการปวดหัวข้างเดียว

    อาการปวดหัวข้างเดียวอาจมี 4 ประเภท โดยอาจมีลักษณะอาการที่แตกต่างกัน ดังนี้

    1. ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache) เป็นอาการปวดหัวข้างเดียวที่มีความรุนแรงมาก อาจปวดด้านในหรือรอบ ๆ ดวงตาข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากจนต้องตื่นกลางดึก
    2. ปวดหัวข้างเดียวเรื้อรัง (Hemicrania Continua) เป็นอาการปวดหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ โดยอาจเกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งบางคนอาจมีอาการน้ำมูกไหลและน้ำตาไหลร่วมด้วย
    3. อาการปวดศีรษะครึ่งซีกเป็นพัก ๆ (Paroxysmal Hemicrania) มีอาการคล้ายกับอาการปวดหัวแบบเรื้อรัง แต่อาการปวดหัวข้างเดียวจะเกิดขึ้นในระยะเวลาที่สั้นกว่า
    4. ปวดหัวระยะสั้นร่วมกับอาการตาแดงและน้ำตาไหล (Short-lasting Unilateral Neuralgiform Headache Attacks With Conjunctival Injection And Tearing หรือ SUNCT) และ ปวดหัวระยะสั้นร่วมกับความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ (Short-lasting Unilateral Neuralgiform Headache Attacks With Cranial Autonomic Symptoms หรือ SUNA) เป็นอาการปวดหัวข้างเดียวที่มีสาเหตุมาจากการฉีกขาดของเยื่อบุตา หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของกะโหลกศีรษะ ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นร่วมกับอาการน้ำตาไหลและน้ำมูกไหล

    อาการปวดหัวข้างเดียว

    อาการปวดหัวข้างเดียวที่อาจพบได้บ่อย มีดังนี้

    • อาการปวดที่เกิดขึ้นภายในหรือภายนอกรอบ ๆ ดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจปวดกระจายไปยังศีรษะ ใบหน้า และคอ
    • อาการปวดหัวเกิดขึ้นข้างเดียว
    • อาการกระสับกระส่าย มึงงง สับสน
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • อาการปวดเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
    • อาการปวดอาจเกิดขึ้นเป็นเวลานานตั้งแต่ 15 นาที ถึง 3 ชั่วโมง
    • อาการปวดอาจเกิดขึ้นเป็น ๆ หาย ๆ ใน 1 วัน
    • อาการปวดมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน จนอาจรบกวนการนอนหลับ หรือทำให้ตื่นกลางดึก
    • อาจมีอาการตาแดง น้ำตาไหล บวมรอบดวงตา เปลือกตาหย่อน คัดจมูก น้ำมูกไหล เหงื่อแตกที่หน้าผากหรือใบหน้าข้างที่ได้รับผลกระทบ
    • ใบหน้าที่สีแดงหรือซีด

    การรักษาอาการปวดหัวข้างเดียว

    การรักษาอาการปวดหัวนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการ ดังนั้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น อาจทำได้ดังนี้

    ปวดหัวข้างเดียวที่เกิดจากไมเกรน

    สามารถใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ทริปแทน (Triptans) ลาสมิดิทัน (Lasmiditan) ไดไฮโดรเออร์โกตามีน (Dihydroergotamine) ยาต้านอาการคลื่นไส้ (Anti-Nausea Drugs) ยาโอปิออยด์ (Opioid)

    ปวดหัวข้างเดียวที่เกิดจากอาการปวดหัวคลัสเตอร์

    • การรักษาแบบออกฤทธิ์เร็ว ได้แก่ การสูดดมออกซิเจนบริสุทธิ์ การฉีดยาทริปแทน การใช้ยาออคทรีโอไทด์ (Octreotide) การฉีดยาไดไฮโดรเออร์โกตามีน
    • การรักษาเชิงป้องกัน ได้แก่ ตัวบล็อกช่องแคลเซียม ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ยาลิเธียมคาร์บอเนต (Lithium Carbonate) การใช้เครื่องกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส (Noninvasive Vagus Nerve Stimulation หรือ VNS) การฉีดยาชาบล็อกเส้นประสาท

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 19/01/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา