การเสริมหน้าอกถือเป็นอีกหนึ่งการทำศัลยกรรมที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิภาพ และความมั่นใจให้กับผู้หญิงหลาย ๆ คน ซึ่งการเสริมหน้าอกนั้นก็มีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเสริมซิลิโคน หรือ เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ซึ่งการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้น ยังถือเป็นเรื่องที่ใหม่พอสมควร ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน
เรื่องที่ควรรู้ก่อน เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
การปลูกถ่ายไขมัน หรือที่เรียกว่า “เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน’ เป็นเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบใหม่ การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้น จะเป็นการปลูกถ่ายไขมันเนื้อเยื่อ โดยไขมันจะถูกกำจัดออกมาจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ปกติจะเป็นไขมันจากต้นขา หน้าท้อง และก้น ซึ่งใช้วิธีการดูดไขมันออกมา จากนั้นเนื้อเยื่อจะถูกแปรรูปเป็นของเหลว แล้วฉีดเข้าไปบริเวณเต้านม เพื่อสร้างเต้านมใหม่ขึ้น
การปลูกถ่ายไขมัน คืออะไร
การปลูกถ่ายไขมันอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า “การเติมไขมัน (Lipofilling)” ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายปี เพื่อแก้ไขความแตกต่างเล็กน้อยในรูปร่าง ความสมดุล หรือตำแหน่งของเต้านมที่สร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อเทียบกับเต้านมอื่น ๆ เนื่องจากวิธีนี้ใช้ได้ผลดี แพทย์จึงคิดว่า พวกเขาสามารถสร้างเต้านมใหม่ได้โดยการใช้ไขมัน
การปลูกถ่ายไขมัน ถือเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัย ทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดใหญ่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลที่ชี้ชัดเจนว่า การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้นจะประสบความระยะยาวได้เพียงใด เนื่องจากการปลูกถ่ายไขมันยังเป็นเรื่องใหม่ จึงยังไม่มีการศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่ที่เกี่ยวขั้นตอนนี้ ดังนั้น จึงยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
สำหรับสิ่งที่สำคัญที่คุณต้องทราบเอาไว้สำหรับการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ก็คือ ในหลาย ๆ กรณีนั้น ไขมันที่ฉีดเข้าไปในบริเวณเต้านมนั้น เมื่อเวลาผ่านไปไขมันที่ถูกฉีดเข้าไปอาจถูกร่างกายดูดซึมกลับไป เป็นผลทำให้เต้านมสูญเสียความสมดุลไปบ้าง นี่คือเหตุผลที่ศัลยแพทย์ตกแต่งบางคนอาจจะเพิ่มไขมันให้มากกว่าที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ หากการปลูกถ่ายไขมันไม่ได้ผล และคุณตัดสินใจว่าต้องการสร้างผนังไขมันเนื้อเยื่อใหม่ แต่คุณอาจจะใช้เนื้อเยื่อที่เป็นแหล่งสำคัญ เช่น บริเวณหน้าท้องไปแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องคำนึงถึง ก่อนที่จะเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
ขั้นตอนในการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
สำหรับขั้นตอนในการปลูกถ่ายไขมันนั้นจะมีการใช้เครื่องขยายเนื้อเยื่อภายนอก ซึ่งเรียกว่า “Brava” โดยคุณจะต้องสวมใส่เครื่องมือนี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ทั้งก่อนและหลังการปลูกถ่ายไขมัน เครื่องมือ Brava นั้นเปรียบเสมือนเสื้อชั้นในที่มีกรวยพลาสติกสำหรับใส่ถ้วย โดยกรวยจะทำหน้ที่ในการดูดบริเวณเต้านม เพื่อขยายเนื้อเยื่อและสร้างพื้นที่ (Matrix) ให้ไขมันที่จะทำการฉีดเข้าไป
การสวมเครื่องมือ Brava ดูเหมือนจะสำคัญสำหรับเต้านมที่จะสร้างขึ้นใหม่ เพื่อรักษาระดับความสมดุล ในการศึกษาหนึ่งจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ผู้หญิงที่ไม่ได้สวม Brava ตามคำแนะนำ จะมีปริมาณเต้านมที่ลดลงเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่สวมอุปกรณ์ Brava
สำหรับขนาดของเต้านมนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง ซึ่งอาจจะต้องมีการฉีดไขมันเข้าไปที่เต้านมหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือน และโดยปกติการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันจะต้องมีการวางยาสลบเสียก่อน จึงจะเริ่มขึ้นตอนการฉีดไขมันเข้าสู่เต้านมได้
ข้อดีของการ เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้น ไขมันจะถูกดูดจากส่วนเกินบริเวณต่าง ๆ แล้วฉีดเข้าไปในหน้าอกเพิ่มทำการเสริมขนาด โดยประโยชน์ของการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ก็คือ ผู้หญิงจะได้ใช้ไขมันของตัวเอง จึงไม่จำเป็นต้องปลูกถ่ายไขมันใหม่ ถ้าการฉีดไขมันหายดี หน้าอกก็จะดูเป็นปกติ นอกจากนี้การฉีดไขมันเข้าหน้าอกยังมีแผลเพียงแผลเดียว คือ แผลขนาด 4 มิลลิเมตร ซึ่งเกิดจากการดูดไขมัน และฉีดเข้าไปใหม่
นอกจากนี้หากผู้หญิงคนไหนที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันเข้าไปที่เต้านมถือเป็นวิธีการที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะบริเวณที่หย่อนคล้อยจะช่วยทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถเติมเต็มส่วนที่หย่อนคล้อยและอยู่ได้นานกว่า เมื่อเทียบกับหน้าอกที่ตึงอยู่แล้ว
การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ยังเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือจำเป็นจะต้องผ่าตัดซ้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับการเสริมหน้าอกด้วยวิธีอื่น ๆ นอกจากนั้น จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ยังพบว่า การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนอกจากจะมีอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ค่อนข้างต่ำแล้ว ผู้หญิงและแพทย์ส่วนใหญ่ยังพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้อีกด้วย ทั้งยังไม่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งอีกด้วย
ข้อเสียของการ เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
แม้การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันจะมีข้อดี แต่ก็มีข้อเสียหลายประการด้วยกัน แม้ว่าจะมีการอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเตรียมการ และการฉีดไขมันเอาไว้ในเอกสารการทำศัลยกรรม แต่ก็ไม่มีเทคนิคมาตรฐานสำหรับการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ด้วยเหตุนี้ คุณต้องแน่ใจว่าได้พบกับศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันจริง ๆ และแพทย์ผู้นั้นจะต้องเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันได้สำเร็จด้วย
นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ต้องการจะเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตระหนักถึงข้อเสียและข้อจำกัดของการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน เมื่อเทียบกับการเสริมหน้าอกแบบดั้งเดิม โดยข้อเสียและข้อจำกัดของการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน มีดังนี้
-
ข้อจำกัดของขนาดของหน้าอก
การเสริมหน้าอกนั้นมักจะถูกจำกัดเอาไว้ที่ขนาดคัพเดียวเท่านั้น แม้ว่าระบบขยายเนื้อเยื่อภายนอกจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปที่หน้าอก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะรองรับไขมันจำนวนมากได้ในทันที เนื่องจากปริมาณไขมันไม่มีปริมาณเลือดเป็นของตัวเองเพื่อให้มีชีวิตอยู่ ดังนั้น จึงสามารถฉีดไขมันได้ในปริมาณที่จำกัด แต่การเสริมหน้าอกแบบดังเดิมนั้นสามารถขยายจากคัพเอไปคัพบีได้ โดยไม่มีข้อจำกัดดังกล่าว
-
ยกกระชับหน้าอกได้น้อย
หากผู้หญิงที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย แล้วต้องการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน วิธีนี้มักจะไม่ได้ช่วยให้ปัญหาการหย่อนคล้อยดีขึ้น ดังนั้น เมื่อฉีดไขมันเข้าไปเพื่อทำการยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยแล้ว คุณก็ยังจะต้องหาวิธีอื่นมาช่วยปรับปรุงปัญหานี้อยู่ดี
-
ไม่ทราบได้ว่าไขมันที่ฉีดเข้าไปจะสลายตัวไปเมื่อไหร่
เนื่องจากไขมันไม่มีเลือดเลี้ยงตัวเอง จึงต้องอาศัยเลือดที่มีอยู่ในเต้านมอยู่แล้ว ดังนั้น จึงสามารถฉีดเข้าไปได้ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น หากฉีดไขมันเกินกว่าที่จะรองรับได้ ไขมันจะถูกดูดซึมกลับมาใช้ใหม่ และอาจแข็งตัวได้ นอกจากนี้ การสลายไขมันยังหมายถึงขนาดหน้าอกที่เพิ่มไปแล้วอาจจะมีขนาดลดลงด้วย
-
ความกังวลเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
การฉีดไขมันอาจรบกวนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เนื่องจากปริมาณไขมันที่ต้องใช้ในการขยายเต้านมทำให้เทคนิคนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดแคลเซียมเกาะ (Calcification) บริเวณเต้านมได้ เมื่อเกิดแคลเซียมเกาะแล้ว แคลเซียมดังกล่าวจะสามารถถูกมองเห็นได้บนแมมโมแกรม (Mammogram) การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเกิดขึ้นตลอดในชีวิตของผู้หญิง ซึ่งรูปแบบของการเกิดแคลเซียมจะแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตาม การเกิดแคลเซียมเกาะนี้อาจส่งผลให้จำเป็นต้องมีการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมบ่อยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องมีการเฝ้าติดตามผลอย่างใกล้ชิดตลอดชีวิต
ดังนั้น ก่อนขั้นตอนการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ควรมีการตรวจแมมโมแกรม เพื่อเก็บไว้อ้างอิงในอนาคต การทำเช่นนี้จะช่วยให้ทีมแพทย์ของคุณแยกความแตกต่างระหว่างการเกิดแคลเซียมเกาะใหม่กับสิ่งที่แคลเซียมเกาะที่มีอยู่แล้ว
-
ปริมาณไขมันที่ต้องการ
การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันจำเป็นต้องมีไขมันในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อที่จะได้เพิ่มขนาดหน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายจำเป็นจะต้องมีไขมันที่เพียงพอต่อการเก็บไขมันบริสุทธิ์อย่างน้อย 1,000 มิลลิลิตร ซึ่งผู้หญิงที่มีหุ่นลีนจึงไม่เหมาะกับการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน
-
ต้องมีแรงจูงใจมากพอ
สำหรับผู้ที่อยากจะเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ต้องเป็นผู้ที่มีแรงจูงใจในตัวเอง เนื่องจากหลังการปรึกษาหารือเบื้องต้นกับศัลยแพทย์แล้ว กระบวนการขยายเต้านมภายนอกต้องได้รับการใส่ใจจากตนเองเท่านั้น
[embed-health-tool-bmi]