อาการของโรค

อาการของโรค คือ สัญญาณแจ้งเตือนว่าคุณกำลังจะป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ซึ่งอาการของแต่ละโรคนั้นจะแตกต่างกันออกไป แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณนั้นเป็นโรคอะไรกันแน่ ลองมาหาคำตอบกัน

เรื่องเด่นประจำหมวด

อาการของโรค

ปวดหัวตุ๊บๆ สาเหตุ และวิธีรักษา

อาการปวดหัว สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันและทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกตึงเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเจ็บป่วย ที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีแรงกดหรือรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ภายในหัว ซึ่งบางคนอาจมีอาการปวดหัวข้างเดียว หรือ ปวดหัวตุ๊บๆ ส่งผลให้รบกวนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงควรรักษาด้วยการรับประทานยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือเข้าพบคุณหมอโดยตรง [embed-health-tool-bmi] ปวดหัวตุ๊บๆ มีสาเหตุจากอะไร อาการปวดหัวตุ๊บ ๆ มีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปตามประเภท ซึ่งมีมากกว่า 100 ประเภท แต่ที่พบบ่อยได้ที่สุดนั้น อาจมีดังนี้ ปวดหัวตึงเครียด เป็นอาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียดทางจิตใจ มีปัญหาบริเวณเส้นประสาทท้ายทอยซึ่งมีปัจจัยมาจากการนั่งหรือยืนผิดท่า ออกกำลังกายมากเกินไป ข้อต่อบริเวณท้ายทอยอักเสบ อาการปวดหัวประเภทนี้อาจเป็นนานประมาณ 30 นาที หรือ 2-3 วัน ที่สังเกตได้จากอาการปวดหัวตุ๊บๆ ด้านหลังศีรษะ และเริ่มแผ่ไปบริเวณด้านหน้าของศีรษะด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ปวดหัวไมเกรน  ปวดหัวไมเกรนมักจะมีอาการปวดศีรษะตุ๊บๆ เป็นจังหวะด้านใดด้านหนึ่งหรืออาจเป็นทั้ง 2 ด้าน ที่อาจเกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง เช่น สารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีที่บทบาทในการควบคุมการทำงานของสมองและระบบประสาท หากมีระดับเซโรโทนินต่ำหรือมากเกินไปอาจทำให้หลอดเลือดขยายและหดตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลงหรือและอาจทำให้หลอดเลือดขยายจนกดทับบริเวณปลายประสาทที่นำไปสู่อาการไมเกรน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การอดนอน การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การใช้ยาคุมกำเนิด การใช้ยาขยายหลอดเลือด […]

สำรวจ อาการของโรค

อาการของโรค

เทคนิคกำราบ อาการเมารถ อย่างอยู่หมัด โดยไม่ต้องพึ่งยา

หลายครั้งที่เราเดินทางโดยรถยนต์แล้วจะต้องทรมานกับอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ ชวนให้ปวดหัว และรู้สึกเมารถ อาการเหล่านี้ช่างเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญ และความลำบากสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปโรงเรียน บทความนี้จะมาแนะนำ เทคนิคกำราบ อาการเมารถ ให้อยู่หมัด โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาให้ยุ่งยาก อาการเมารถ เป็นอย่างไร อาการเมารถ จัดเป็นหนึ่งใน ภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว (Motion sickness) หมายถึง อาการป่วยหรือความรู้สึกไม่สบาย ที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ เช่น เมารถ เมาเรือ หรือเมาเครื่องบิน เป็นต้น อาการเมารถนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศและทุกวัย ส่วนใหญ่แล้ว คนที่มีอาการ เมารถ มักจะมีอาการคลื่นไส้ เหงื่อออก น้ำลายไหล หายใจไม่อิ่ม และวิงเวียน นอกจากนี้ บางคนอาจจะมีอาการรู้สึกไม่สบาย ปวดหัว และง่วงหงาวหาวนอนร่วมด้วย ในกรณีรุนแรงอาจถึงขั้นมีอาการอาเจียนร่วมด้วย อาการเมารถเกิดจากอะไร อาการ เมารถ นั้นเกิดจากความไม่สมดุลกันของสิ่งที่คุณมองเห็น กับสิ่งที่คุณรู้สึก สมองของคุณจะรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนที่ของร่างกาย ผ่านทางระบบประสาทต่างๆ เช่น หูชั้นใน ดวงตา และเนื้อเยื่อบนผิว เมื่อร่างกายเริ่มมีการเคลื่อนที่ ระบบประสาทก็จะส่งสัญญาณเพื่อให้สมองได้รับรู้ว่าขณะนี้ร่างกายของเราเกิดการเคลื่อนที่ และเมื่อระบบประสาทส่วนกลางได้รับสัญญาณที่ขัดแย้งกัน จากหน่วยรับความรู้สึกที่ส่งมาจากบริเวณหูชั้นใน ดวงตา และผิวหนัง […]


อาการของโรค

เลิกกังวล โรคสมองน้อยย้อย รักษาให้หายได้หากคุณรู้ทัน

ทุกคนคงสงสัย และประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อของโรคนี้อย่างแน่นอน เพราะอาจยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักสำหรับ โรคสมองน้อยย้อย ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดขึ้นได้ยาก 1 ในพันล้านคนเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรประมาทกับความอันตรายนี้ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่คุณรัก รวมทั้งตัวคุณเองด้วย รู้ก่อน ก็ย่อมรักษาได้ก่อน วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักโรคสมองน้อยย้อยนี้กัน โรคสมองน้อยย้อย (Chiari Malformation) เกิดจากอะไร? โรคสมองน้อยย้อยในภาษาอังกฤษนั้นเรียกว่า  เชียรี่ มาลฟอเมชั่น (Chiari Malformation) คือ ความผิดปกติของโครงสร้างความสัมพันธ์ของกะโหลกศีรษะและสมองที่ไม่สมดุลกัน เนื่องจากกะโหลกศีรษะนั้นมีขนาดที่เล็กกว่าทำให้เนื้อเยื้อสมองส่วนท้ายทอยที่มีขนาดที่โตกว่าย้อยลงมากดทับส่วนอื่นๆ เช่น ก้านสมอง กระดูกสันหลัง เป็นต้น สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคสมองน้อยย้อย อาจมีปัจจัยมาจากพันธุกรรม การขาดวิตามิน สารอาหาร สารเคมีอันตราย ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นทารกในครรภ์ รวมถึงภาวะครรภ์เป็นพิษ และการไหลเวียนน้ำส่วนของไขสันหลังนำไปสู่การอุดตันสัญญาณบางอย่างที่ส่งจากสมองทำให้เกิดการสะสมของเหลวจนเกิดการเติบโตของสมองส่วนท้ายทอยขึ้น ประเภทของ โรคสมองน้อยย้อย มีความรุนแรงของโรคต่างกันแค่ไหน ประเภทที่ 1 เป็นประเภทเกี่ยวข้องกับต่อมทอมซิล อาจมีอาการปวดหัว ไอ จาม หายใจไม่ออก เจ็บคอ อาเจียน ซึ่งยังคงถือว่าเป็นอาการแรกเริ่มที่ไม่ชัดเจนนัก จนกว่าผู้ป่วยจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ประเภทที่ 2 เกี่ยวข้องกับเนื้อเยื่อสมองน้อยและก้านสมอง บางกรณีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับสมองน้อยอาจหายไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว โดยประเภทนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่ทารกในครรภ์ และมีความเสี่ยงรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้หากไม่รีบตรวจตั้งแต่ต้น ประเภทที่ 3 […]


อาการของโรค

โรคแอดดิสัน (Addison’s Disease)

โรคแอดดิสัน(Addison’s disease) หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาวะต่อมหมวกไตบกพร่อง เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนบางชนิดได้ คำจำกัดความโรคแอดดิสัน คืออะไร โรคแอดดิสัน (Addison’s disease) หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาวะต่อมหมวกไตบกพร่อง (adrenal insufficiency) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนบางชนิดได้มากเพียงพอ ต่อมหมวกไตจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) หรือฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (aldosterone) ออกมาน้อยจนเกินไป โรคแอดดิสันพบบ่อยแค่ไหน โรคแอดดิสันสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้มากที่สุดในช่วงอายุ 30 ถึง 50 ปี และพบได้มากกว่าในผู้หญิง โรคนี้เป็นสภาวะที่หายาก และมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ใน 100,000 คนเท่านั้น อาการอาการของโรคแอดดิสัน อาการของโรคแอดดิสันนั้นจะค่อนข้างเกิดช้า โดยใช้เวลานานกว่าหลายเดือน หลายคนมักจะละเลยอาการของโรคแอดดิสันจนกระทั่งเกิดอาการป่วยหรืออาการบาดเจ็บ แล้วทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น สัญญาณและอาการของโรคอาจมีดังนี้ เหนื่อยล้าอย่างรุนแรง น้ำหนักลด และเบื่ออาหาร ผิวสีคล้ำขึ้น ความดันโลหิตต่ำ อยากกินอาหารรสเค็ม น้ำตาลในเลือดต่ำ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ ผมร่วง สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด คุณควรไปพบคุณหมอหากพบสัญญาณและอาการของโรคแอดดิสันดังต่อไปนี้ สีผิวคล้ำขึ้น เหนื่อยล้าอย่างรุนแรง น้ำหนักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หน้ามืด วิงเวียน อยากกินอาหารเค็มๆ ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของโรคแอดดิสัน โรคแอดดิสันเกิดจากการที่ต่อมหมวกไตเกิดความเสียหาย ทำให้ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน  ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยอาจมีสาเหตุดังต่อไปนี้ ปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคแอดดิสันอาจจะเกิดขึ้นหากระบบภูมิคุ้มกันของคุณ โจมตีต่อมหมวกไต และทำให้ต่อมหมวกไตเสียหายอย่างรุนแรง กรรมพันธุ์ บางคนอาจจะมียีนบางตัวที่ทำให้มีโอกาสเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันได้มากกว่าปกติ หากคนในครอบครัวของคุณมีผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ก็อาจทำให้คุณมีโอกาสเกิดโรคแอดดิสันมากขึ้นด้วยเช่นกัน ปัจจัยเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของโรคแอดดิสัน คุณอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแอดดิสันได้มากกว่าผู้ป่วยถ้าหาก หากคุณเป็นโรคมะเร็ง หากคุณใช้ยาเจือจางเลือด หากคุณมีการติดเชื้อเรื้อรัง เช่น […]


อาการของโรค

สัญญาณและอาการของโรคอารมณ์สองขั้วหรือ โรคไบโพลาร์ในเด็ก

หากเอ่ยถึงโรคอารมณ์สองขั้ว หรือไบโพลาร์ (Bipolar disorder) ผู้อ่านหลายคนมักจะคิดว่าโรคนี้จะต้องเป็นในผู้ใหญ่ วัยรุ่น หรือเด็กที่โตแล้วเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วโรคไบโพลาร์สามารถพบได้กับเด็กทุกๆ ช่วงวัย โรคไบโพลาร์ในเด็กสามารถทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนในระดับที่รุนแรง สมาธิสั้น เรื่อยไปจนถึงระดับที่ต่ำสุดของภาวะซึมเศร้า Hello คุณหมอ จึงได้นำข้อมูลที่น่ารู้เกี่ยวกับสัญญาณต่างๆ เกี่ยวกับอาการ โรคไบโพลาร์ในเด็ก มาฝากทุกท่าน สังเกตลักษณะอาการและสัญญานของ โรคไบโพลาร์ในเด็ก เด็กทุกคนมีช่วงเวลาที่จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว หยาบคาย  ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะแสดงความรู้สึกหงุดหงิด โกรธ โมโห หรือไม่พอใจ แต่ในบางครั้งอาจจะแสดงออกมากกว่าปกติ หรือทำตัวเป็นกบฏมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามหากอาการของลูกมีความรุนแรงต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลังจนยากจะแก้ไขได้ โดยพ่อแม่สามารถสังเกตอาการ หรือพฤติกรรมที่แปลกไปของลูกได้ ว่ามีความใกล้เคียง คล้าย หรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคไบโพลาร์หรือไม่ ดังนี้ อารมณ์แปรปรวนรุนแรง ผิดไปจากอารมณ์แปรปรวนตามปกติที่เคยเป็น มีพฤติกรรมที่แสดงออกไปในเชิงก้าวร้าวหรือไม่เหมาะสม มีลักษณะของการสูญเสียตัวตน เช่นมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง หรือมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน ดื่มสุราหรือเสพยาเสพติด หรือการใช้จ่ายเงินอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งในข้อนี้จะพบในเด็กที่โตแล้ว หรือเด็กวัยรุ่น มีอาการนอนไม่หลับหรือความต้องการการนอนลดลง โดยถึงแม้ว่าจะนอนน้อยแต่ก็ไม่รู้สึกเพลีย มีอารมณ์หดหู่ หรือหงุดหงิดง่ายเกือบทั้งวันและแทบทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการซึมเศร้า มีความขี้อวด มองการณ์ไกล เริ่มทะนงความสามารถของตัวเอง มีความคิดหรือพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น สาเหตุของอาการไบโพลาร์ในเด็ก อาการไบโพลาร์ในเด็กๆนั้นค่อนข้างมีความคลุมเครือ เพราะเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดมาจากที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือปัญหาชีวิตอื่นๆ เช่น พันธุกรรม อาจมาจากการที่สมาชิกในครอบครัวมีประวัติของโรคไบโพลาร์ ซึ่งในข้อนี้น่าจะเป็นความเสี่ยงเดียวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สาเหตุทางระบบประสาท เกิดจากความแตกต่างในโครงสร้างทางสมอง หรือการทำงาน ซึ่งจะทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อโรคไบโพลาร์ สภาพแวดล้อม เด็กๆหลายคนอาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคไบโพลาร์ […]


อาการของโรค

ตะคริวตอนกลางคืน สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่

กล้ามเนื้อหดเกร็ง (Muscle spasm) เช่น ตะคริว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนเป็นที่รู้จักในชื่อ ตะคริวตอนกลางคืน ซึ่งพบบ่อยบริเวณขา ภาวะนี้ตามปกติจะรบกวนการนอนหลับในตอนกลางคืน โดยอาจเกิดขึ้นในขณะที่คุณยังนอนไม่หลับ หรือขณะที่หลับไปแล้วก็ได้ ตะคริวตอนกลางคืน (Nocturnal Leg Cramps) สามารถเกิดได้ที่บริเวณของขาในหลายตำแหน่ง เช่น กล้ามเนื้อน่อง ต้นขา และเท้า ภาวะหดเกร็งก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด และทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่เกิดอาการรู้สึกแน่นหรืออึดอัด อาการนี้อาจเกิดนานหลายวินาทีจนถึงหลายนาที แม้ว่าอาการนี้มักจะพบบ่อยกว่าในวัยผู้ใหญ่อายุมากกว่า 50 ปี แต่ก็อาจเกิดขึ้นกับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยกว่าได้ และเกิดได้ทั้งในเพศหญิงและชาย สาเหตุของ ตะคริวตอนกลางคืน มีการศึกษาหลายชิ้นแนะนำว่า อาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อเป็นสาเหตุหลักของตะคริวที่ขา ตัวอย่างเช่น การศึกษาเกี่ยวกับนักกีฬาประเภทที่ใช้ความทนทาน แสดงให้เห็นว่าตะคริวที่ขาเกิดขึ้นเมื่อนักกีฬาออกกำลังกายโดยใช้แรงมากกว่าปกติ การที่ร่างกายเกิดความความอ่อนล้า ขาดออกซิเจน ซึ่งทำให้เกิดการสะสมของเสียภายในร่างกายตลอดทั้งวัน และทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งและเป็นตะคริวได้ในตอนกลางคืน ไม่เพียงแต่การออกกำลังกายเท่านั้น การออกแรงมากเกินไปหรือทำกิจกรรมติดต่อกันนานเกินไป เช่น การนั่งเป็นระยะเวลานานๆ การยืนหรือเดินบนพื้นคอนกรีต หรือการนั่งไม่ถูกท่าก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าคนที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกาย เช่น เท้าแบน จะเกิดตะคริวที่กล้ามเนื้อได้มากกว่าคนทั่วไป บางครั้งอาการหดเกร็งกล้ามเนื้อตอนกลางคืน ยังเป็นสัญญาณแสดงของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ได้แก่ ภาวะเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน หรือความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน และ […]


อาการของโรค

เหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย (Fatigue)

เหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย เป็นภาวะหนึ่งที่มักมีอาการเหนื่อยหรือขาดพลังงาน จัดอยู่ในกลุ่มอาการไม่ใช่โรค พบได้บ่อยในคนทั่วไป โดยมีความเจ็บป่วยหลายประการที่สามารถทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย   คำจำกัดความเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลียคืออะไร เหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย (Fatigue) เป็นภาวะหนึ่งที่มักมีอาการเหนื่อยหรือขาดพลังงาน คำเรียกอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับ อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย ได้แก่ หมดแรง เหน็ดเหนื่อย และเฉื่อยชา อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย พบได้บ่อยเพียงใด อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย จัดอยู่ในกลุ่มอาการไม่ใช่โรค พบได้บ่อยมากในคนทั่วไป โดยมีความเจ็บป่วยหลายประการที่สามารถทำให้เกิด อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย อาจเป็นอาการทางร่างกาย จิตใจ หรือทั้ง 2 ประการร่วมกัน ซึ่ง อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย สามารถจัดการได้โดยลดความเสี่ยง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย มีอาการอย่างไร อาการเหนื่อยล้า อ่อนล้า หรืออ่อนเพลีย อาจสัมพันธ์กับกลุ่มอาการอื่น ๆ ที่มีสาเหตุจากโรคต่าง ๆ ดังนี้ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคปอด หรือเลือดจาง […]


อาการของโรค

โลหิตจางอย่างร้าย (Pernicious Anemia) คืออะไร

โลหิตจาง เป็นภาวะทางสุขภาพซึ่งจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงปกติในร่างกายมีค่าต่ำ โดย โลหิตจางอย่างร้าย (Pernicious Anemia) เป็นภาวะพร่องวิตามินบี 12 ประเภทหนึ่ง เกิดจากการไม่สามารถดูดซึมวิตามินบี 12 ซึ่งร่างกายต้องการใช้เพื่อสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สมบูรณ์ได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ดี โรคนี้จัดว่าพบได้น้อย คำว่า “อย่างร้าย” มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ครั้งหนึ่งโรคนี้จัดว่าเป็นโรคที่อันตรายถึงแก่ชีวิต ในมุมมองของการขาดการรักษาที่เข้าถึงได้ในอดีต อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน การรักษาโรคนี้ทำได้ง่ายขึ้นโดยการฉีดวิตามินบี 12 หรือรับประทานอาหารเสริม ภาวะพร่องวิตามินบี 12 หากไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โลหิตจางอย่างร้าย เกิดจากอะไร วิตามินบี 12 เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง หอย เนื้อสัตว์ ไข่ สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินชนิดนี้ที่คุณสามารถหาได้ โปรตีนชนิดพิเศษ ซึ่งเรียกว่าปัจจัยภายใน ช่วยลำไส้ของคุณในการดูดซึมวิตามินบี 12 เซลล์ในกระเพาะอาหารมีหน้าที่ในการปลดปล่อยโปรตีนชนิดนี้ หากกระเพาะอาหารไม่สามารถปลดปล่อยโปรตีนชนิดนี้ได้อย่างเพียงพอ ลำไส้จะไม่สามารถดูดซึมวิตามินบี 12 ได้อย่างเหมาะสม สาเหตุที่พบมากที่สุด สาเหตุที่พบได้มากที่สุดประการหนึ่งของโลหิตจางอย่างร้ายคือ ภาวะเกี่ยวกับภูมิต้านตนเอง ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของคุณต้านทานโปรตีนที่เป็นปัจจัยภายในหรือเซลล์ที่สร้างโปรตีนดังกล่าวอย่างผิดพลาด นอกจากนี้ เยื่อบุกระเพาะอาหารที่อ่อนแอ ยังสามารถทำให้เกิดโรคนี้ได้อีกด้วย โลหิตจางชนิดร้ายแรงสามารถถ่ายทอดได้ในครอบครัว ถึงแม้ว่าจะพบได้น้อยก็ตาม ซึ่งเรียกว่าโลหิตจางอย่างร้ายแต่กำเนิด (Congenital Pernicious Anemia) ทารกที่เป็นโลหิตจางประเภทนี้ แทบจะไม่สังเคราะห์โปรตีนที่เป็นปัจจัยภายในได้ […]


อาการของโรค

9 สาเหตุของอาการ รอยช้ำ ที่ควรรู้

รอยช้ำ หรือ ฟกช้ำ คือการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่ออ่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการฉีกขาดของหลอดเลือดฝอย และหลอดเลือดแดงที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง จนเลือดมาคั่งอยู่ใต้ชั้นผิวหนังชั้นนอก ทำให้เห็นเป็นรอยคล้ำดำเขียว รอยช้ำสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน คุณอาจเผลอเตะประตู เดินชนขาโต๊ะ ผ่านไปไม่นานบริเวณนั้นก็กลายเป็นรอยช้ำ แต่บางคนอาจมีรอยช้ำเกิดขึ้นบนร่างกาย โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ หากเป็นเช่นนั้น นั่นหมายความว่า คุณมีแนวโน้มเกิดรอยช้ำง่ายกว่าคนอื่น ซึ่งอาจเกิดได้จากสาเหตุเหล่านี้ [embed-health-tool-bmi] สาเหตุของ รอยช้ำ 1. อายุที่มากขึ้น เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผิวหนังจะบางลง และสูญเสียชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ที่ทำหน้าที่เสมือนเบาะคอยรองรับแรงกระแทก ร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลง อีกทั้งเส้นเลือดยังเปราะแตกง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้คุณมีโอกาสเกิดรอยช้ำได้ง่ายขึ้น 2. การรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) ยาต้านเกล็ดเลือด (Anti-platelet drugs) ยาเจือจางเลือด (Blood thinner) หรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย จะไปลดความสามารถในการแข็งตัวของเลือด และทำให้คุณเกิดรอยช้ำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซน (Prednisone) ก็เป็นสาเหตุให้หลอดเลือดบางลง และทำให้เกิดรอยช้ำง่ายขึ้นเช่นกัน หากคุณกินยาเหล่านี้แล้วพบรอยช้ำ อย่าหยุดกินยากะทันหัน แต่ควรปรึกษาแพทย์ทันที 3. ฟกช้ำ จากการขาดวิตามินซี วิตามินซี เป็นสารอาหารที่จำเป็นในการเยียวยาและซ่อมแซมร่างกาย หากคุณได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ […]


อาการของโรค

อาการเจ็บหน้าอก สัญญาณของหลายโรคร้ายที่ไม่ควรเพิกเฉย

อาการเจ็บหน้าอก เป็นสิ่งที่ไม่ควรเพิกเฉยด้วยประการทั้งปวง หลายคนมักคิดว่า อาการเจ็บหน้าอกเป็นอาการของโรคหัวใจ แต่อาการนี้อาจบ่งชี้ถึงอาการโรคอื่นๆ ที่รุนแรงและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ เช่น โรคเกี่ยวกับปอด หลอดอาหาร ซี่โครง เส้นประสาท ล้วนนำไปสู่อาการเจ็บหน้าอกได้ บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บหน้าอก เพื่อที่คุณจะสามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาได้ทันท่วงที อาการเจ็บหน้าอก คืออะไร อาการเจ็บหน้าอกอาจเกิดขึ้นได้บริเวณตั้งแต่ลำคอ เรื่อยไปจนถึงหน้าท้องส่วนบน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ ความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอกมีหลายระดับ คุณอาจรู้สึกเจ็บแปลบ ปวดตื้อๆ แสบร้อน ปวดหรือเจ็บเหมือนถูกแทง นอกจากนี้ คุณอาจมีความรู้สึกแน่นหน้าอก หรือมีความรู้สึกเหมือนถูกบีบที่กลางอก คุณควรเข้าพบหมอ หากเกิดอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่สามารถอธิบายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเกิดอาการเฉียบพลัน และอาการไม่หายไป แม้จะใช้ยาระงับอาการหรือปรับพฤติกรรมแล้วก็ตาม ในกรณีที่อาการเจ็บหน้าอกเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินทันที เกิดอาการแน่นหน้าอก หรือรู้สึกเหมือนถูกบีบบริเวณใต้กระดูกหน้าอก เกิดปัญหาที่กราม แขนข้างซ้าย หรือหลังจากอาการเจ็บหน้าอก เกิดอาการเจ็บแปลบที่หน้าอกพร้อมกับหายใจถี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน เจ็บหน้าอกพร้อมกับอาการคลื่นไส้ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นหรือหายใจถี่ มึนงง หน้าซีด เหงื่อออกมากผิดปกติ ความดันโลหิตสูงขั้นรุนแรง หรืออัตราการเต้นของหัวใจต่ำมาก อาการเจ็บหน้าอก อาจเป็นสัญญาณของโรคเหล่านี้ โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับหัวใจหลายโรคเป็นสาเหตุที่พบกันบ่อยของอาการเจ็บหน้าอก โรคหลอดเลือดหัวใจ สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกแบบปวดเค้น อาการเจ็บหน้าอกประเภทนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหัวใจได้รับเลือดไม่เพียงพอ อาจกระจายไปสู่การเจ็บแขน ไหล่ กราม หรือหลังได้ ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการหัวใจวาย เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ อาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือด (Myocardial Infarction) […]


อาการของโรค

โลหิตจางจากการขาดวิตามิน (Vitamin Deficiency Anemia)

โลหิตจางจากการขาดวิตามิน (Vitamin deficiency anemia) คือการขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สุขภาพดี สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณรับประทานโฟเลต วิตามินบี12 และวิตามินซีไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดขึ้นได้ หากร่างกายของคุณมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึม หรือร่างกายมีปัญหาในการจัดการกับสารอาหารเหล่านี้ได้ไม่ดี คำจำกัดความโลหิตจางจากการขาดวิตามิน คืออะไร โลหิตจางจากการขาดวิตามิน (Vitamin deficiency anemia) คือการขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สุขภาพดี เนื่องจากคุณมีปริมาณวิตามินน้อยกว่าปกติ วิตามินที่เกี่ยวข้องกับภาวะนี้ประกอบด้วย โฟเลต วิตามินบี-12 และวิตามินซี ภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามินสามารถเกิดขึ้นได้ หากคุณรับประทาน โฟเลต วิตามินบี12 และวิตามินซีไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดขึ้นได้ หากร่างกายของคุณมีปัญหากับการดูดซึม หรือจัดการกับสารอาหารเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ภาวะโลหิตจางทุกชนิดจะเกิดจากการขาดวิตามิน สาเหตุอื่นๆ ของภาวะโลหิตจาง มีทั้งการขาดธาตุเหล็ก และการเป็นโรคเลือดบางชนิด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะไปพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และรักษาภาวะโลหิตจางของคุณ ซึ่งภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามินนั้น มักจะสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามิน และปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน โลหิตจางจากการขาดวิตามิน พบได้บ่อยแค่ไหน โปรดปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการอาการของ โลหิตจางจากการขาดวิตามิน อาการทั่วไปมีดังนี้ เหนื่อยล้า หายใจติดขัด มึนงง ผิวเหลืองหรือซีด หัวใจเต้นไม่ปกติ น้ำหนักลด มีอาการเหน็บชาที่แขนหรือขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง บุคลิกเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหวไม่มั่นคง สับสนหรือหลงลืม ภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามินมักจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ใข้เวลาหลายเดือนจนถึงหลายปี โดยในตอนแรกอาการขาดวิตามินนั้นอาจจะไม่รุนแรง แต่มันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อร่างกายมีการขาดวิตามินมากยิ่งขึ้น อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ ควรไปพบหมอเมื่อไร ถ้าคุณมีอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับคุณหมอ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดจึงควรพูดคุยกับหมอ เพื่อหาแนวทางในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สาเหตุสาเหตุของโลหิตจางจากการขาดวิตามิน ภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามินจะเกิดขึ้น เมื่อร่างกายของคุณได้รับวิตามินไม่เพียงพอที่จะนำไปผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สุขภาพดีให้มีปริมาณเพียงพอ เซลล์เม็ดเลือดแดงทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน จากปอดส่งไปยังจุดต่างๆ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม