การใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราต้องเผชิญกับสิ่งที่สามารถบั่นทอนสุขภาพของเราได้มากมาย ไม่ว่าจะเหตุการณ์ในระดับประเทศ วิกฤติระดับโลก หรือเรื่องเครียดจากงาน จากการเรียน ยิ่งหากคุณชอบมองโลกในแง่ร้าย ก็มีแต่จะยิ่งทำให้สภาพจิตใจและร่างกายของเราแย่ลง และอาจกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียน และความสัมพันธ์ต่างๆ ในชีวิตได้ด้วย Hello คุณหมอ เลยอยากชวนคุณมาสร้างเกราะป้องกันความคิดร้ายๆ ด้วยการฝึกตัวเองให้เป็นคน คิดบวก มองโลกในแง่ดี คุณจะได้มีสุขภาพดี แถมยังช่วยกระตุ้นอีคิวไอคิวให้กระฉูดด้วย
วิธีฝึกตัวเองให้ คิดบวก มองโลกในแง่ดี
ยิ้มแย้มร่าเริง หัวเราะให้บ่อยเข้าไว้
งานศึกษาวิจัยหลายชิ้นเผยว่า การหัวเราะสามารถช่วยลดอาการวิตกกังวล และอาการซึมเศร้า ช่วยคลายเครียด ทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะในการจัดการปัญหา พัฒนาอารมณ์ และทำให้คุณเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นด้วย
คุณต้องทำตัวให้เฮฮา ร่าเริง และหัวเราะให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม ยิ่งถ้าต้องเจอเรื่องยากๆ คุณก็ยิ่งต้องยิ้มสู้เข้าไว้ เพราะ “เครียดไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น” การหัวเราะและรอยยิ้มต่างหากที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง และมองเห็นวิธีแก้ปัญหาได้ชัดเจนขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ต่อให้คุณขำไม่ออก ก็ต้องพยายามฝืนยิ้มให้ได้ แล้วคุณจะอารมณ์ดีขึ้น เครียดน้อยลง แถมยังคิดบวกขึ้นด้วย
รู้จักขอบคุณสิ่งต่างๆ รอบตัว
ความรู้สึกขอบคุณ (Gratitude) เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรมี เมื่อเราตระหนักรู้ในคุณค่าของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราก็จะรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณสิ่งๆ นั้น เช่น รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ รู้สึกขอบคุณคนที่ลุกให้นั่งบนรถเมล์ รู้สึกขอบคุณธรรมชาติที่ช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่าความรู้สึกขอบคุณนี้จะช่วยคลายเครียด ช่วยให้คุณนับถือตัวเองหรือเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้คุณรับมือกับช่วงเวลายากลำบากได้เป็นอย่างดีด้วย
หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ลองเริ่มจากแสดงความขอบคุณต่อสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีหรือมีความสุขในแต่ละวัน ให้ได้วันละอย่างก็ได้ เช่น ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ช่วยให้งานลุล่วง ขอบคุณแฟนที่ขับรถไปส่งออฟฟิศ ยิ่งหากคุณจดบันทึกไว้ในไดอารี่ได้ก็ยิ่งดี เพราะผลการศึกษาวิจัยหลายชิ้นเผยว่า การจดสิ่งที่คุณรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณเอาไว้ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณคิดบวก และมองโลกในแง่ดีขึ้น แต่ยังทำให้คุณอยู่ดีมีสุขขึ้นด้วย
โฟกัสสิ่งดีๆ จะได้ คิดบวก
ชีวิตคนเราย่อมต้องมีอุปสรรคและขวากหนามต่างๆ บ้างเป็นเรื่องธรรมดา และหากคุณต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำให้ได้ก็คือ มองหาสิ่งดีๆ ในความยากลำบากนั้นให้เจอ ไม่ว่ามันจะเล็กจิ๋วแค่ไหนก็ตาม ในบางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าสถานการณ์นั้นช่างมืดมนเหลือเกิน การจะมองหาสิ่งดีแทบจะเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แต่เชื่อเถอะว่า หากคุณไม่ถอดใจเสียก่อน คุณต้องเจอแง่ดีของเหตุการณ์นั้นแน่ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณนัดเพื่อนไปเที่ยวแล้วเพื่อนดันยกเลิกนัดกะทันหัน ก็ให้คิดเสียว่าคุณจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้ทำกิจกรรมที่คุณรัก จะดูหนัง ฟังเพลง หรือนอนอ่านหนังสือให้หนำใจก็ทำได้
ใช้เวลากับคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี
ทัศนคติเชิงลบและทัศนคติเชิงบวกเป็นสิ่งที่แพร่กระจายและซึมซับกันได้ง่ายมาก หากไม่เชื่อคุณลองสังเกตดูก็ได้ว่า เวลามีใครคนใดคนหนึ่งในออฟฟิศอารมณ์เสีย หรือโมโห ก็มักจะทำให้คนอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันเครียด กดดัน และรู้สึกแย่ไปด้วย หรือที่เราชอบเรียกกันว่า “บรรยากาศมาคุ” นั่นเอง
ฉะนั้น หากคุณไม่อยากกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ก็ควรใช้เวลากับคนมองโลกในแง่ดี คนคิดบวก เพราะทัศนคติของเขาจะทำให้มองโลกในแง่บวกไปด้วย อีกทั้งผลการวิจัยยังระบุว่า คนคิดบวกจะช่วยให้คุณรู้จักเห็นคุณค่าในตัวเอง และช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ ด้วย
ฝึกพูดสิ่งที่ดีกับตัวเอง
คนเรามักชอบกดดันตัวเอง หรือดูถูกตัวเอง และเมื่อคุณทำอย่างนั้นนานๆ เข้า อาจทำให้คุณกลายเป็นคนที่จมอยู่กับความคิดแย่ๆ จนมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เอาแต่มองตัวเองในแง่ร้าย และในเมื่อกับตัวเองคุณยังคิดแบบนั้น การจะให้คุณมองโลกในแง่ดี รู้จักคิดบวก ก็คงเป็นไปได้ยาก ฉะนั้น เพื่อกำจัดความคิดร้ายๆ ต่อตัวคุณเองทิ้งไป คณต้องฝึกพูดสิ่งที่ดีกับตัวเอง (Positive Self-Talk) ด้วยการพูดกับตัวเองดังๆ เพื่อย้ำเตือนตัวเองให้รู้ว่าคุณเองก็มีคุณค่าไม่แพ้ใคร เช่น “เก่งมาก’ “วันนี้ทำได้ดีมาก’ และหากทำอะไรผิดพลาด ก็ไม่ควรตอกย้ำให้ตัวเองยิ่งรู้สึกแย่ แต่ควรปลอบประโลมจิตใจตัวเองด้วยคำพูดดีๆ เช่น “วันนี้ทำพลาดไปหลายอย่างเลย แต่ไม่เป็นไร คราวหน้าค่อยแก้ตัวใหม่ก็ได้”
ประโยชน์สุขภาพจากการ คิดบวก
นักวิจัยพบว่าการ คิดบวก มองโลกในแง่ดี นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณมากมาย เช่น
- ช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้น และมีความสุขมากขึ้น
- ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า
- ลดอาการวิตกกังวล
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด
- เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ และช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง
- ช่วยให้อาการบาดเจ็บและอาการป่วยหายไวขึ้น
- ช่วยให้คุณรับมือกับความเครียด และสถานการณ์ยากลำบากได้ดีขึ้น
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด