สุขภาพตา

คุณรู้หรือเปล่าว่า ดวงตา คือหนึ่งในอวัยวะรับสัมผัส ที่พัฒนามากที่สุดในร่างกายของมนุษย์ เราจำเป็นต้องพึ่งการมองเห็นในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นปกติ ดังนั้น การดูแลรักษา สุขภาพดวงตา ให้ดี จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เรียนรู้เกี่ยวกับ สุขภาพตา และการดูแลรักษาสุขภาพดวงตาของคุณ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพตา

ตาบอดสีรู้ได้อย่างไร ทดสอบตาบอดสี มีอะไรบ้าง

ตาบอดสี เป็นภาวะบกพร่องของประสาทสัมผัสการรับรู้สึก อาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้มีการมองเห็นสีที่ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด แต่ก็อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น การ ทดสอบตาบอดสี ทำได้ด้วยการทำแบบทดสอบแยกสีในแผ่นกระดาษ ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการใช้เครื่องมือแยกสี โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการตาบอดสีไม่สามารถรักษาให้หายได้ ยกเว้นภาวะที่เกิดจากการใช้ยาหรือเกิดจากปัญหาของดวงตาที่เพิ่งมีขึ้นในภายหลัง คุณหมออาจวางแผนการรักษาให้การมองเห็นสีดีขึ้น [embed-health-tool-bmi] ตาบอดสี คืออะไร ภาวะตาบอดสี (Color Blindness) คือ ความผิดปกติของดวงตาในการตอบสนองต่อความยาวคลื่นแสงต่าง ๆ โดยทั่วไป แสงที่มีความยาวคลื่นของทุกสีจะเดินทางเข้าสู่ดวงตาทางกระจกตาผ่านทางเลนส์ตาและวุ้นตาเข้าไปยังเซลล์รูปกรวยในดวงตาที่อยู่บริเวณจุดรับภาพของจอประสาทตาหรือเรตินา (Retina) เซลล์รูปกรวยจะมีความไวต่อแสงความยาวคลื่นสั้น (สีน้ำเงิน) ปานกลาง (สีเขียว) หรือยาว (สีแดง) ที่ทำให้สามารถรับรู้สีได้ตามปกติ แต่หากเซลล์รูปกรวยขาดสารเคมีที่ไวต่อความยาวคลื่นอย่างน้อย 1 ชนิด ก็จะส่งผลให้การรับรู้สีแตกต่างไปจากคนทั่วไป ตาบอดสี เกิดจากอะไร ตาบอดสี เป็นความผิดปกติที่สืบทอดทางพันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นตาบอดสีมักจะมีโอกาสเป็นตาบอดสีได้มากกว่าคนทั่วไป และมักมีภาวะนี้ตั้งแต่กำเนิดและส่งผลต่อดวงตาทั้ง 2 ข้าง ตามปกติแล้วความรุนแรงจะไม่เพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้นและพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สำหรับผู้ที่มีภาวะนี้ในภายหลังอาจเกิดได้เมื่อสมองหรือดวงตาได้รับความเสียหาย ซึ่งทำให้การมองเห็นสีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตาบอดสีมักทำให้สับสนในการแยกแยะสีในชีวิตประจำวันและมองเห็นสีบางสีที่ไม่สดใสเท่าผู้ที่มีสายตาปกติ คนส่วนใหญ่ที่ตาบอดสีไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างสีแดงและสีเขียวบางเฉดได้ ในบางกรณีซึ่งพบได้ไม่บ่อย คนตาบอดสีจะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเฉดสีฟ้าและสีเหลืองได้ ทั้งนี้ ผู้ที่ตาบอดสีไม่ได้มีความเสี่ยงในการสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอด ประเภทของตาบอดสี ตาบอดสี อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ ตาบอดสีแดง-เขียว เป็นลักษณะที่พบได้บ่อยที่สุด โดยผู้ที่ตาบอดสีจะแยกความแตกต่างระหว่างสีแดงและสีเขียวได้ยากกว่าปกติ […]

สำรวจ สุขภาพตา

โรคตา

โรซาเซียที่ดวงตา (Ocular Rosacea)

โรคโรซาเซียที่ดวงตา (ocular rosacea) คือการอักเสบที่ผิวตา มีอาการระคายเคืองตา คันตา มักจะเกิดขึ้นในคนที่มีโรคโรซาเซีย ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังบนใบหน้าและดวงตา คำจำกัดความ โรซาเซียที่ดวงตาคืออะไร โรซาเซียที่ดวงตา (ocular rosacea) คือการอักเสบที่ผิวตา มีอาการระคายเคืองตา คันตา มักจะเกิดขึ้นในคนที่มีโรคโรซาเซีย ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังใบหน้าและดวงตา โรซาเซียที่ดวงตาพบได้บ่อยแค่ไหน เบื้องต้นแล้วโรคโรซาเซียที่ดวงตา จะพบมากในผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 30 ถึง 50 ปี มักจะเกิดในคนที่มีอาการหน้าแดงได้ง่าย และพบในคนเชื้อชาติตะวันตกมากกว่าคนเชื้อชาติเอเชีย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดปรึกษากับแพทย์ อาการ อาการของโรคโรซาเซียที่ดวงตาเป็นอย่างไร อาการทั่วไปมีดังนี้ ตาแห้ง ปวดแสบปวดร้อนบริเวณดวงตา คันในดวงตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา มองเห็นไม่ชัด ตาไม่สู้แสง (photophobia) มีเยื่อบุตาแดง หลอดเลือดฝอยขยายตัวตรงบริเวณตาขาวมองเห็นได้ชัด เปลือกตาบวมแดง มีน้ำตาไหล สัญญาณของการเกิดโรคโรซาเซียที่ดวงตานั้น อาจจะเกิดก่อนหรือเกิดพร้อมกับอาการของโรคโรซาเซียที่ผิวหนัง หรือเกิดแยกด้วยตัวของมันเอง อาการที่รุนแรงของโรคโรซาเซียที่ดวงตา อาจไม่ตรงกับอาการที่รุนแรงของโรคโรซาเซียที่ผิวหนัง อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ ควรไปพบหมอเมื่อไร ถ้าคุณมีอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับคุณหมอ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดจึงควรพูดคุยกับหมอเพื่อหาแนวทางในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สาเหตุ สาเหตุของโรคโรซาเซียที่ดวงตา นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคโรซาเซียที่ดวงตา แต่งานวิจัยพบว่า 85% ของผู้ที่มีอาการโรซาเซียที่ดวงตานั้นจะมีการปิดกั้นต่อมไขมันรอบดวงตา ต่อมพวกนี้มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ตาแห้ง ซึ่งถ้าหากมันถูกปิดกั้น บริเวณนั้นก็อาจจะเกิดอาการบวมและระคายเคืองได้ และอาจนำไปสู่อาการแดง คัน และตกสะเก็ดที่เปลือกตา นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า ไร ซึ่งเป็นแมลงตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนบนผิวหนัง คือตัวการในการปิดกั้นต่อมไขมัน บางส่วนเชื่อว่าอาจมีความเกี่ยวข้องของโรคโรซาเซีย กับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร (Digestive […]


การดูแลสุขภาพตา

รักษาตากุ้งยิง ด้วยตัวเอง และวิธีป้องกัน

ตากุ้งยิง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย บริเวณต่อมน้ำมันที่เปลือกตาส่งผลให้เกิดก้อนนูน บวม เต็มไปด้วยหนองที่เปลือกตาคล้ายสิว การ รักษาตากุ้งยิง อาจทำได้ด้วยตัวเองในกรณีที่มีอาการไม่รุนแรง แต่หากเกิดการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรง หรือรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ควรเข้าพบคุณหมอทันที ตากุ้งยิง คืออะไร ตากุ้งยิง คือ ภาวะติดเชื้อบริเวณขอบหนังตาจากเแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) ที่เจริญเติบโตอยู่บริเวณรอบเปลือกตา รวมถึงการสะสมสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เข้าไปอุดตันในต่อมไขมันที่อยู่รอบขนตา จนส่งผลให้เกิดตุ่มนูน บวม แดง และมีหนองอยู่ภายใน โดยอาการของตากุ้งยิง สามารถสังเกตได้จากสัญญาณเตือน ดังต่อไปนี้ เจ็บตา คันระคายเคืองดวงตา ตาบวม น้ำตาไหลมากกว่าปกติ ตุ่มนูนแดงคล้ายสิว ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดตากุ้งยิง ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เป็นตากุ้งยิงได้บ่อยซ้ำ ๆ ได้แก่ นำมือไปสัมผัสกับดวงตาบ่อย ๆ ใส่คอนแทคเลนส์โดยไม่ล้างมือให้สะอาด ไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอน หรือทิ้งไว้ข้ามคืน ใช้เครื่องสำอางหมดอายุ มีเกล็ดกระดี่ตามขอบเปลือกตา โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย รักษาตากุ้งยิง ด้วยตัวเอง ปกติแล้วตากุ้งยิงอาจสามารถหายไปได้ภายใน 2-3 วัน ถึงอย่างไรก็อาจรักษาตากุ้งยิง เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ด้วยตัวเองได้ ดังนี้ ประคบอุ่นที่ตากุ้งยิง วิธีนี้อาจทำให้บรรเทาอาการอักเสบ และอาการปวด […]


การดูแลสุขภาพตา

วิตามินบำรุงสายตา กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

ปัญหาทางสายตา ไม่ว่าจะเป็น ตาแห้ง ตาพร่า ตาแพ้แสง กล้ามเนื้อตาล้า ล้วนส่งผลให้สายตา หรือประสิทธิภาพการมองเห็นเสื่อมลง การรับประทาน วิตามินบำรุงสายตา ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต อาจช่วยชะลอการพัฒนาการเสื่อมสภาพของสายตาได้ ปัญหาเกี่ยวข้องกับสายตา มีอะไรบ้าง ปัญหาสายตาที่ส่งผลให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง มีดังนี้ ตาล้า อาจเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการใช้สายตาจ้องมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นวลานาน เช่น ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ จนส่งผลให้เกิดอาการปวดตา สายตาสั้น เกิดจากการหักเหของแสงที่กระทบในกระจกตาที่มีความโค้งสูงจนเกินไป เป็นสาเหตุที่อาจทำให้การมองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจน สายตายาว เป็นปัญหาที่ตรงข้ามกับสายตาสั้น ทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวในระยะใกล้ไม่ชัดเจน สายตาเอียง อาจทำให้มองเห็นเป็นภาพซ้อนได้ทุกระยะ ซึ่งอาจเป็นควบคู่กับสายตาสั้น หรือสายตายาวก็ย่อมได้ ตาแห้ง อาจเกิดขึ้นเมื่อต่อมในดวงตาไม่อาจผลิตน้ำตาให้เพียงพอ หากปล่อยให้ตาแห้งเป็นเวลนาน อาจทำให้แสบตา และสูญเสียการมองเห็นได้ ต้อกระจก โรคต้อกระจกอาจส่งผลให้การมองเห็นสิ่งรอบตัวไม่ชัดเมื่ออยู่ในแสงจ้า และแสงสลัวตอนกลางคืน ต้อหิน การมองเห็นที่เปลี่ยนแปลงอาจขึ้นอยู่กับประเภทของโรคต้อหินที่ผู้ป่วยเป็น แต่ทุกประเภทล้วนส่งผลให้เกิดตาพร่า ปวดตา และตาขุ่นมัว ความผิดปกติของจอประสาทตา อาจทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวเป็นภาพซ้อน เนื่องจากเซลล์ในเรตินาดวงตาถูกทำลาย ทำให้เรตินาแยกออกจากกัน วิตามินบำรุงสายตา มีอะไรบ้าง วิตามินที่อาจช่วยบำรุงสายตา และชะลอการเสื่อมสภาพตา มีดังต่อไปนี้ วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน อาจช่วยพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน หรือแสงน้อย นอกจากนี้ยังอาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระจกตา ตามรายงานของสถาบันจักษุวิทยาแห่งอเมริกัน เผยว่า หากร่างกายขาดวิตามินเออาจส่งผลให้เสี่ยงต่อภาวะตาบอดตอนกลางคืน และผลิตความชื้นในดวงตาน้อยลงได้ ข้อควรระวังในการกินวิตามินเอ ไม่ควรรับประทานเกิน 10,000 หน่วยต่อวัน […]


โรคตา

เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน (Acute Conjunctivitis)

คำจำกัดความเยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันคืออะไร เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน (Acute conjunctivitis) หรือ “โรคตาแดง (red eye)” เป็นการอักเสบที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ตาแดงอาจมีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ การบาดเจ็บตา หรือ การใช้ยาหยอดตาบางประเภท ในบทความนี้จะเน้นถึง โรคตาแดงที่เกิดจากไวรัส (adenovirus) ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อสู่ผู้ใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัวสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมากจะหายได้เองซึ่งแตกต่างจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตามในคนไข้บางรายไวรัสกระจายตัวจากเยื่อบุตา เข้าไปที่กระจกตาทำให้ การมองเห็นลดลง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ ระคายเคืองตามากขึ้น แม้ว่าอาการตาแดงและมีขี้ตาลดลงก็ตาม อย่างไรก็ตามโรคไวรัสเยื่อบุตาอักเสบสามารถรักษาให้หายขาดได้ และไม่พบว่ามีการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันพบได้บ่อยแค่ไหน เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันจากไวรัสพบได้บ่อย ในหน้าระบาดเช่นในฤดูฝน เยื่อบุตาอักเสบจากแบคทีเรีย พบในเด็กได้บ่อยมากกว่าในผู้ใหญ่ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ง่าย และเกิดร่วมกับระบบอื่นในร่างกาย เช่นภูมิแพ้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ ภูมิแพ้ผิวหนัง หรือได้รับตัวก่อภูมิแพ้ เช่นฝุ่น เกสรดอกไม้ ดอกหญ้าบางชนิดที่ผู้ป่วยแพ้ โปรดปรึกษากับหมอของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการเยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันมีอาการอย่างไร อาการที่พบเห็นบ่อยของเยื่อตาอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่ ตาแดง เปลือกตาแดงบวม ระคายเคือง แสบร้อน น้ำตาไหล มีขี้ตามากเป็น มีลักษณะเป็นมูก โดยเฉพาะตอนตื่นนอนตอนเช้าในไวรัสหรือภูมิแพ้ (ถ้าลักษณะขี้ตาเหลืองเขียวจะเกิดจากแบคทีเรีย) มีอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อน หรืออาจเจ็บบริเวณหน้าหู เนื่องจากอาจมีภาวะต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตในคนไข้บางรายที่ติดเชื้อไวรัส ขนตาตกสะเก็ด รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา อาจมีอาการบางประเภทที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ข้างบน ถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาจักษุแพทย์ เมื่อไหร่ที่ควรไปพบหมอ หากคุณมีสัญญาณหรืออาการอะไรก็ตามที่เหมือนอาการตามด้านบน หรือ หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษานัดตรวจตากับจักษุแพทย์ สาเหตุเยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันจากเชื้อแบคทีเรีย เกิดจากอะไร เยื่อบุตาอักเสบเกิดได้จากแบคทีเรียหลายชนิด โดยแบคทีเรียที่พบบ่อยในการก่อโรคคือ สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส […]


ความบกพร่องทางการมองเห็นและตาบอด

ตามืดบอดเฉียบพลัน อาจเป็นเพราะ เส้นเลือดจอประสาทตาอุดตัน ก็ได้นะ

ตามืดบอดเฉียบพลัน อาจเป็นอาการของเส้นเลือดจอประสาทตาอุดตัน หรือที่เรียกว่า Retinal Artery Stoke ที่เกิดขึ้นแบบกะทันหัน และทำให้ตาบอดได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นทาง Hello คุณหมอ จึงมีรายละเอียดของโรคนี้มาฝาก คุณจะได้เข้าใจถึงสาเหตุของ ตามืดบอดเฉียบพลัน ซึ่งเป็นผลมาจาก อาการของเส้นเลือดจอประสาทตาอุดตัน ให้มากขึ้น ตามืดบอดเฉียบพลัน มีสาเหตุมาจากอะไร โรคเส้นเลือดจอประสาทตาขาดเลือด มีสาเหตุมาจากเส้นเลือดแดงเกิดการอุดตัน ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อดวงตา และนำไปสู่โรคเส้นเลือดจอประสาทตาขาดเลือด ซึ่งอาการบาดเจ็บบริเวณดวงตานี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ที่เกิดขึ้นในระหว่าง และหลังจากการขาดเลือด ส่งผลให้ดวงตาสูญเสียความสามารถในการทำงานไปในที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคเส้นเลือดจอประสาทตาขาดเลือด คือสาเหตุทำให้ตามืดบอดเฉียบพลัน สำหรับความรุนแรงของโรคนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า การอุดตันนั้นเกิดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา หรือเป็นที่แขนงเส้นเลือดแดงของจอประสาทตา โดยระดับความรุนแรงของโรคมีตั้งแต่สูญเสียการมองเห็นบางส่วน สูญเสียการมองเห็นเป็นส่วนใหญ่ หรือตามืดบอดสนิท ภาวะสูญเสียการมองเห็นโดยฉับพลัน เป็นภาวะฉุกเฉิน ที่มีสาเหตุจากอาการบาดเจ็บทางสมองที่รุนแรง โรคหัวใจ ภาวะฉุกเฉินอื่น ๆ เช่น โรคเส้นเลือดจอประสาทตาอุดตัน โดยทั่วไปแล้ว โรคเส้นเลือดจอประสาทตาอุดตันจะมีผลกับตาเพียงข้างเดียว และไม่ได้เป็นสาเหตุของอาการปวดตาแต่อย่างใด จะมีโอกาสกลับมามองเห็นอีกหรือไม่ ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคนี้ มีทั้งกลับมามองเห็นเพียงบางส่วน และบางคนก็กลับมามองเห็นเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม โรคเส้นเลือดจอประสาทตาอุดตันนั้น อาจทำให้ตามืดบอดสนิทตลอดไปได้ ซึ่งผู้ป่วยมีโอกาสที่จะหายจากโรคนี้ได้ หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับ ตามืดบอดเฉียบพลัน […]


การดูแลสุขภาพตา

เคล็ดลับ ดูแลสุขภาพตา ที่ทำได้ง่ายๆ เพื่อให้ดวงตามีสุขภาพดีในทุกวัน

ดวงตาถือเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นมากต่อการใช้ชีวิต สุขภาพตาจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรถูกมองข้าม คุณต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ เพื่อให้ดวงตาสุขภาพดี แข็งแรง สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพตานั้นควรทำทุกวัน ไม่ใช่ทำแค่ตอนเกิดอาการเจ็บตาหรืออาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ตาแดง ตาอักเสบ และนี่คือ เคล็ดลับ ดูแลสุขภาพตา ที่จะช่วยให้ดวงตาของคุณมีสุขภาพดีในทุกวัน ที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากกัน [embed-health-tool-bmr] เคล็ดลับ ดูแลสุขภาพตา กินอาหารที่ช่วย ดูแลสุขภาพตา สุขภาพดวงตาที่ดี เริ่มต้นด้วยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพตา อาหารบำรุงสุขภาพตาจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะทางสายตาที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น เช่น การเสื่อมสภาพของตา ต้อกระจก โดยสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพตา ได้แก่ ลูทีน ซีแซนทีน สังกะสี กรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินซี และวิตามินอี   ซึ่งคุณสามารถหาได้จากอาหารประเภทผักใบเขียว ปลาที่อุดมไปด้วยไขมันดี (เช่นแซลมอน) ไข่ ถั่ว ผลไม้ตระกูลส้ม หอยนางรม และเนื้อหมู อาหารเหล่านี้นอกจากจะมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพตาแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารสุขภาพที่ช่วยป้องกันโรคอ้วน และโรคเบาหวานซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะตาบอดได้อีกด้วย ดูแลสุขภาพตา ด้วยการไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก โรคจอประสาทตาอักเสบ และโรคจอประสาทตาเสื่อม อย่างไรก็ตาม การเลิกสูบบุหรี่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ คน คนส่วนใหญ่มักไม่ประสบความสำเร็จในการเลิกสูบบุหรี่ครั้งแรก […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม