backup og meta

จมูกไม่ได้กลิ่น อย่ามัวนิ่งนอนใจ อาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรงได้

จมูกไม่ได้กลิ่น อย่ามัวนิ่งนอนใจ อาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรงได้

จมูกถือเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างหนึ่งของร่างกายเรา นอกจากจะทำหน้าที่หายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายแล้ว จมูกยังมีอีกหน้าที่อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก นั่นก็คือ การรับกลิ่น ซึ่งบางครั้งกระบวนการรับกลิ่นก็อาจทำงานได้ไม่ดีนัก เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาสุขภาพหรือไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น ไข้หวัด โรคภูมิแพ้ การสูบบุหรี่ หรืออายุที่มากขึ้น แม้ปัญหา จมูกไม่ได้กลิ่น จะดูเป็นภาวะที่พบได้บ่อย แต่หากเกิดขึ้นแล้ว คุณก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตได้

กระบวนการรับกลิ่น กับภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น

ระบบรับกลิ่นของร่างกายมนุษย์นั้นเริ่มจากโมเลกุลในสสาร เช่น น้ำหอม ดอกไม้ เข้าสู่จมูกและไปกระตุ้นเซลล์รับกลิ่น (olfactory cells) ที่อยู่บริเวณเพดานช่องจมูก จากนั้นเซลล์ดังกล่าวก็จะส่งข้อมูลหรือกระแสประสาทผ่านเส้นประสาทไปยังสมอง แล้วสมองก็จะแปลข้อมูลว่ากลิ่นที่เข้ามากระทบในจมูกนั้นเป็นกลิ่นอะไร แต่หากมีปัจจัยบางอย่างมารบกวนกระบวนการดังกล่าว เช่น อาการคัดจมูก ภาวะช่องจมูกอุดตัน เซลล์ประสาทถูกทำลาย ก็จะทำให้จมูกไม่ได้กลิ่น หรือมีภาวะสูญเสียการรับกลิ่น (Anosmia) ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการรับรสได้ด้วย เพราะเมื่อไม่ได้กลิ่น ต่อมรับรสของเราก็จะรับรสชาติได้เพียงแค่ไม่กี่รสเท่านั้น

จมูกไม่ได้กลิ่น เป็นเพราะอะไรกันนะ

ภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น หรือ สูญเสียการรับกลิ่น มักเกิดจากสาเหตุเหล่านี้

ช่องจมูกหรือโพรงจมูกอุดตัน

เนื่องจากเนื้องอก ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyp) กระดูกในโพรงจมูกหรือผนังกั้นช่องจมูกผิดรูป

เยื่อเมือกในจมูกระคายเคือง

เนื่องจากไซนัสอักเสบ ไข้หวัด การสูบบุหรี่ ไข้หวัดใหญ่ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) โรคจมูกอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากภูมิแพ้ (Non-Allergic Rhinitis) โดยไข้หวัดถือเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น หรือสูญเสียการรับกลิ่นชั่วคราวที่พบได้บ่อยที่สุด และหากเกิดจากสาเหตุนี้ ปกติอาการจะหายไปได้เอง

สมองหรือเส้นประสาทถูกทำลาย

หากสมองหรือเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับกลิ่นเสียหาย ก็สามารถทำให้คุณสูญเสียการรับกลิ่นได้ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น โรคอัลไซเมอร์ เนื้องอกในสมอง ความผิดปกติของฮอร์โมน โรคเบาหวาน โรคลมชัก โรคจิตเภท การฉายรังสีรักษา การผ่าตัดสมอง อุบัติเหตุทางศีรษะ โรคหลอดเลือดสมอง การใช้ยาบางชนิด (เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยารักษาความดันโลหิตสูง) การขาดสารอาหารหรือขาดวิตามิน

ในบางกรณี อาการจมูกไม่ได้กลิ่นที่เกิดขึ้นก็อาจเป็นโรคทางพันธุกรรม เรียกว่า ภาวะจมูกไม่ได้กลิ่นแต่กำเนิด (Congenital Anosmia)

อันตรายที่มาพร้อมภาวะ จมูกไม่ได้กลิ่น

กลิ่นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของเราได้ แต่หากคุณสูญเสียการรับกลิ่น ก็อาจทำให้คุณไม่อยากอาหาร จนนำไปสู่การขาดสารอาหาร หรือน้ำหนักลดผิดปกติ หรือบางครั้ง อาจทำให้คุณเผลอกินอาหารหมดอายุหรืออาหารที่เสียแล้วเข้าไป เพราะไม่ได้กลิ่นบูดเน่าที่โชยออกมา จนส่งผลให้ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ หรือร้ายแรงกว่านั้นได้

และไม่ใช่แค่เรื่องอาหารเท่านั้น เพราะเมื่อจมูกของคุณ สูญเสียการรับกลิ่น หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น แก๊สรั่ว ไฟไหม้ คุณก็จะไม่ได้กลิ่นเหล่านั้น และอาจทำให้ได้รับอันตรายร้ายแรง จนถึงแก่ชีวิตได้

อย่างไรก็ดี คุณสามารถป้องกันอุบัติเหตุเหล่านี้ได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

  • ก่อนเก็บอาหารเข้าตู้เย็น ควรติดฉลากระบุวัน เวลา ที่ซื้ออาหารเอาไว้ด้วย จะได้รู้ว่าอาหารชนิดนั้นๆ เก็บไว้นานแค่ไหนแล้ว และยังสามารถกินได้หรือไม่
  • ให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเตาแก๊สและสายส่งแก๊สเป็นประจำ หากชำรุดต้องรีบเปลี่ยนใหม่ทันที
  • ติดตั้งเครื่องตรวจจับควันที่เพดานห้อง โดยเฉพาะในห้องนอน และต้องจดวัน และเวลาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของเครื่องเอาไว้ด้วย จะได้รู้ว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ตอนไหน
  • ติดตั้งเครื่องฉีดน้ำที่เพดาน เพราะเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เครื่องจะได้ฉีดน้ำดับไฟอัตโนมัติ

วิธีรักษาที่ทำได้

การรักษาภาวะจมูกไม่ได้กลิ่นนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ หากจมูกของคุณไม่ได้กลิ่นเพราะคุณเป็นหวัด หรือเป็นภูมิแพ้ ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรักษา เพราะอาการมักจะหายไปได้เอง แต่หากคุณอยากให้ปัญหาจมูกไม่ได้กลิ่นดีขึ้นเร็วๆ ก็สามารถใช้ยาหดหลอดเลือด (decongestant) เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ทำให้หายใจสะดวก และจมูกได้กลิ่นดีขึ้นได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรืออาการยิ่งแย่ลง คุณควรปรึกษาคุณหมอทันที เพราะนั่นอาจหมายถึงจมูกติดเชื้อ ต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ หรืออาจหมายถึงคุณมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ

หากจมูกคุณไม่ได้กลิ่นเพราะมีเนื้องอกหรือริดสีดวงในจมูก การผ่าตัดเอาสิ่งเหล่านั้นออก ก็อาจช่วยให้จมูกของคุณกลับมารับกลิ่นได้อีกครั้ง หรือหากคุณสังเกตเห็นว่าตัวเองเริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่นหลังจากใช้ยาบางชนิด ก็ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอเปลี่ยนยาให้ แต่ห้ามหยุดยาเองเด็ดขาด

บางครั้ง ปัญหา สูญเสียการรับกลิ่น อาจค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะรักษาไม่หาย โดยเฉพาะเมื่อมีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น หากเป็นในกรณีนี้ คุณควรเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น ติดอุปกรณ์รับมือไฟไหม้ ระบุวันหมดอายุของอาหารที่เก็บไว้ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น เลิกสูบบุหรี่ ก็สามารถช่วยให้จมูกของคุณได้กลิ่นดีขึ้นได้เช่นกัน

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

What Is Anosmia?. https://www.healthline.com/health/anosmia#treatment. Accessed March 3, 2020

Lost or changed sense of smell. https://www.nhs.uk/conditions/lost-or-changed-sense-smell/. Accessed March 3, 2020

Loss of smell. https://www.mayoclinic.org/symptoms/loss-of-smell/basics/causes/sym-20050804. Accessed March 3, 2020

What Is Anosmia?. https://www.webmd.com/brain/anosmia-loss-of-smell#1. Accessed March 3, 2020

ผู้ป่วยที่สูญเสียการรับกลิ่น (ไม่ได้กลิ่น หรือ Anosmia) หรือได้กลิ่นน้อยลง (Hyposmia) ควรปฏิบัติตัวอย่างไร. http://www.rcot.org/2016/People/Detail/220. Accessed March 3, 2020

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Pattarapong Khuaphu


บทความที่เกี่ยวข้อง

ขนจมูก มีไว้เพื่ออะไร ควรกำจัดทิ้งดีไหม?

ล้างจมูก ทำอย่างไรจึงจะถูกต้องและดีต่อสุขภาพ


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา