ตะลิงปลิง ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ตะลิงปลิง เป็นผลไม้รสชาติเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เช่น วิตามินซี  ไฟเบอร์ วิตามินบี 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ เช่น อาจช่วยควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบรรเทาอาการไอและหวัด ส่งเสริมสุขภาพกระดูกและสุขภาพผิว นอกจากนี้ ยังอาจช่วยบรรเทาอาการโรคริดสีดวงทวารได้อีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของตะลิงปลิง

ตะลิงปลิงปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 26 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น

• คาร์โบไฮเดรต 2.8 กรัม
• ไขมัน 1.3 กรัม
• โปรตีน 0.7 กรัม
• ไฟเบอร์ 0.7 กรัม
• วิตามินซี 15.7 มิลลิกรัม
• แคลเซียม 12 มิลลิกรัม
• ฟอสฟอรัส 1 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ ตะลิงปลิงยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3

ประโยชน์ของตะลิงปลิงที่มีต่อสุขภาพ

ตะลิงปลิงมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของตะลิงปลิงในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

1. อาจช่วยควบคุมความดันโลหิต

ตะลิงปลิงมีสารประกอบเอทานอล (Ethanol) ที่อาจช่วยกระตุ้นการขยายหลอดเลือด ซึ่งส่งผลดีต่อความดันโลหิต โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Preventive Nutrition and Food Science เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 ศึกษาเกี่ยวกับบทบาทของสารสกัดจากตะลิงปลิงในการขยายตัวของหลอดเลือดในสัตว์ทดลอง พบว่า สารสกัดเอทานอลที่ได้จากตะลิงปลิงอาจมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความเข้มข้นของไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ซึ่งเป็นสารในร่างกายที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด ที่สำคัญต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกายในขณะที่ร่างกายเกิดโรค และช่วยลดความดันโลหิตในหนูที่มีความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังช่วยลดการหดตัวของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดและกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือดดำทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของตะลิงปลิงในการควบคุมความดันโลหิต

2. อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูก

ตะลิงปลิงอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงรักษากระดูกและช่วยในการสร้างกระดูกใหม่ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร National Academies Press เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของแคลเซียม พบว่า แคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักที่ให้ความแข็งแรง ช่วยเสริมโครงสร้างของกระดูกและสำคัญต่อกระบวนการสร้างกระดูกใหม่ ดังนั้น การรับประทานตะลิงปลิงที่อุดมไปด้วยแคลเซียมจึงอาจส่งผลดีต่อการพัฒนาและการบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรงได้

3. อาจช่วยรักษาอาการไอและหวัด

ตะลิงปลิงอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านเชื้อโรคและบรรเทาอาการแพ้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Indian Journal of Clinical Biochemistry เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของวิตามินซีในการป้องกันและรักษาโรค พบว่า วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัดได้ มีคุณสมบัติช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความรุนแรงของอาการแพ้และการติดเชื้อ จึงอาจส่งผลดีต่อการรักษาอาการไอและไข้หวัด ดังนั้น การรับประทานตะลิงปลิงที่มีวิตามินซีสูงจึงอาจส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ต้านการติดเชื้อก่อโรคและบรรเทาอาการไอได้

4. อาจดีต่อสุขภาพผิว

วิตามินซีในตะลิงปลิงอาจช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิวซึ่งอาจช่วยทำให้ผิวสุขภาพดี และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย สิว และปัญหาผิวอื่น ๆ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับบประโยชน์ของวิตามินซีต่อสุขภาพผิว พบว่า ผิวชั้นนอกเต็มไปด้วยวิตามินซีที่มีส่วนช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ เช่น ฝุ่น ควัน แสงแดด ที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิว เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ สิว นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวเต่งตึง สุขภาพดีและแข็งแรง

5. อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ตะลิงปลิงอุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Biomolecules เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับสารฟลาโวนอยด์ซึ่งอาจมีฤทธิ์ต้านเบาหวาน พบว่า ฟลาโวนอยด์เป็นสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic) ที่มักพบในผักและผลไม้ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านเบาหวานและโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน เนื่องจาก ฟลาโวนอยด์สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวของอินซูลินในการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงาน

6. อาจช่วยบรรเทาอาการโรคริดสีดวงทวาร

ตะลิงปลิงอาจเป็นยาพื้นบ้านที่สามารถใช้ต้านเชื้อแบคทีเรีย รักษาการอักเสบและบรรเทาอาการริดสีดวงทวารได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Drug Development & Research เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ศึกษาเกี่ยวกับตะลิงปลิงซึ่งอาจเป็นยาจากธรรมชาติที่ใช้รักษาอาการต่าง ๆ พบว่า ตะลิงปลิงใช้เป็นยาพื้นบ้านสำหรับรักษาอาการต่าง ๆ ได้ เช่น รักษาอาการไอ โรคเหน็บชา อาการท้องอืด รักษาการอักเสบ หยุดเลือดออกทางทวารหนัก บรรเทาอาการริดสีดวงทวารที่เกิดขึ้นภายใน นอกจากนี้ สารสกัดจากใบและผล เช่น เอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia Coli) สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureu) ซาลโมเนลลา (Salmonella) ยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้

ข้อควรระวังในการบริโภคตะลิงปลิง

แม้ตะลิงปลิงอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ในบางกรณีอาจส่งผลเสียได้ ดังนี้

• ตะลิงปลิงเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีกรดมาก หากรับประทานในปริมาณมากในครั้งเดียวอาจส่งผลให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย เสียดท้อง แสบท้อง และปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหารอื่น ๆ
• ตะลิงปลิงมีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) สูง ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่พบในอาหาร ผักและผลไม้ ที่เป็นโทษต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดการสะสมของผลึกแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) ในไต หรือเกิดเป็นนิ่วในไตซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้

[embed-health-tool-bmr]