อบเชย เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ให้กลิ่นหอม และใช้เป็นยาสมุนไพรมานานนับพันปี มีลักษณะเป็นแท่งไม้แห้ง ๆ ขนาดสั้น นอกจากนั้น ยังมีการนำเปลือกอบเชยมาบดเป็นผงสีน้ำตาล ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและขนม ในงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า อบเชยมีสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิด เช่น แคโรทีน วิตามินเอ แคลเซียม โพแทสเซียม และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง รักษาโรคอัลไซเมอร์
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของ อบเชย
อบเชย 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 247 กิโลแคลอรี่ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 80.6 กรัม
- โปรตีน 3.99 กรัม
- ไขมัน 1.24 กรัม
- แคลเซียม 1,000 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 431 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 64 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 60 มิลลิกรัม
- โซเดียม 10 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 3.8 มิลลิกรัม
- เบตา แคโรทีน (Beta Carotene) 112 ไมโครกรัม
นอกจากนี้ อบเชย ยังประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ซีลีเนียม (Selenium) ทองแดง สังกะสี แมงกานีส และวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 โฟเลต (Folate) วิตามินอี วิตามินเค
ประโยชน์ของ อบเชย ต่อสุขภาพ
อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับการลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดในร่างกายของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เผยแพร่ในวารสาร Diabetes Care ปี พ.ศ. 2546 นักวิจัยแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองที่เป็นโรคเบาหวานจำนวน 60 รายออกเป็น 6 กลุ่ม โดย 3 กลุ่มแรก ให้บริโภคอบเชยในปริมาณ 1, 3 และ 6 กรัม/วัน ตามลำดับ ส่วนอีก 3 กลุ่มให้บริโภคยาหลอกในปริมาณ 1, 3 และ 6 กรัม/วัน เช่นกัน เป็นเวลา 40 วัน
เมื่อสิ้นสุดการทดลอง นักวิจัยได้ตรวจร่างกายของผู้เข้าร่วมการทดลอง พบว่า ผู้เข้าร่วมทดลองทั้ง 3 กลุ่มที่บริโภคอบเชยมีระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลง 23-30 เปอร์เซ็นต์ คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ลดลง 7-27 เปอร์เซ็นต์ คอเลสเตอรอลรวมลดลง 12-26 เปอร์เซ็นต์ และน้ำตาลในเลือดระหว่างอดอาหารลดลง 18-29 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ยังเป็นงานวิจัยขนาดเล็ก ควรต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
สารซินนามาลดีไฮด์ (Cinnamaldehyde) ในอบเชย มีคุณสมบัติเพิ่มการดูดซึมน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินของเนื้อเยื่อไขมัน และช่วยปรับการทำงานของตับอ่อนให้เป็นปกติ
ข้อควรระวังในการบริโภค อบเชย
ข้อควรระวังในการบริโภคอบเชย มีดังนี้
- อบเชยมีสารคูมาริน (Coumarin) ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพตับดังนั้น จึงควรบริโภคอบเชยในปริมาณเล็กน้อยและด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอบเชย
- การบริโภคอบเชยปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย และอาจทำให้ปากหรือริมฝีปากมีอาการระคายเคือง หรือเป็นแผลพุพองได้
- อบเชยอาจมีผลกระทบต่อการออกฤทธิ์ของยาบางชนิด ฉะนั้น ควรปรึกษาคุณหมอหากต้องการบริโภคอบเชย
- หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร ควรบริโภคอบเชยด้วยความระมัดระวัง และควรบริโภคอาหารให้ครบถ้วนและหลากหลาย