โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อพูดถึงการกินอาหารเพื่อสุขภาพ หลายคนคงนึกถืออาหารที่ราคาสูงกว่าราคาอาการปกติทั่วไป แต่ความจริงแล้ว การกินเพื่อสุขภาพในงบประมาณที่จำกัดก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งทาง Hello คุณหมอ ได้นำเรื่อง ฉลาดกับการกินเพื่อสุขภาพ ในงบประมาณที่จำกัด มาฝากกัน
ทำอย่างไรหากอยาก ฉลาดกับการกินเพื่อสุขภาพ ในงบประมาณที่จำกัด
ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการกินเพื่อสุขภาพ เพราะมันมีอาหารที่ราคาไม่แพงและธรรมดา แต่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่ด้วย เพียงคุณเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของต่างๆ มาเตรียมเอาไว้ในครัว และสร้างสรรค์อาหารที่ดีออกมา ก็สามารถจำกัดงบประมาณที่สูงได้เช่นกัน ซึ่งวิธีของการ ฉลาดกับการกินเพื่อสุขภาพ ในงบประมาณที่จำกัด สามารถทำได้ดังนี้
เมื่อพูดถึงการประกันเงินแล้วล่ะก็ การวางแผนถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ในช่วงเช้าก็แต่ละสัปดาห์คุณควรวางแผนมื้ออาหารสำหรับสัปดาห์ต่อไปเอาไว้ จากนั้นก็ทำรายการของสิ่งที่คุณต้องการซื้อ พยายามตรวจสอบในตู้เย็นแน่ใจว่ามีของอะไรที่จำเป็นแล้วอยู่บ้าง เพื่อจะได้ซื้อเพียงสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น และจะได้ไม่ต้องทิ้งสิ่งที่ซื้อเอาไว้ไป
- ทำรายการของที่จำเป็นจะต้องซื้อ
หลังจากวางแผนมื้ออาหารเรียบร้อยแล้ว การทำรายการของที่จำเป็นจะต้องซื้อก็ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เรื่องจากการไปซื้อของโดยที่ได้ทำรายการนั้นอาจนำไปสู่การซื้อที่ไม่ได้ตั้งใจและได้ของที่มีราคาแพงกลับมา ดังนั้น หากมีรายการของที่ต้องการซื้อ จะทำให้คุณซื้อของในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งยังสามารถควบคุมรายจ่ายในการซื้อของได้อีกด้วย
- ซื้อผักแช่แข็งแทนผักสด
เนื่องจากผักสดอาจมีราคาแพง ดังนั้นการเลือกซื้อผักแช่แข็งจะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น เนื่องจากผักแช่แข็งมีราคาที่ถูก นอกจากนั้นมันยังมีวิตามินและเกลือแร่ที่เทียบเท่ากับผักสดอีกด้วย เพราะการแช่แข็งผักผลไม้สดหลังจากเก็บเกี่ยวอย่างรวดเร็ว จะช่วยในการล็อคความสดใหม่ รวมไปถึงสารอาหารสำคัญต่างๆ ช่วยลดการสูญเสียคุณค่าของสารอาหารที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง
- ซื้อของอย่างชาญฉลาด
โดยปกติแล้วการไปซื้อของกินจากร้านหลายๆ แห่ง ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่หลายๆ คนชอบทำ แต่รู้หรือไม่ว่ามันอาจทำให้คุณเปลืองน้ำมันและเสียเวลามากขึ้น ดังนั้น การจดสิ่งที่ต้องการซื้อลงในกระดาษ และไปซื้อของจากร้านที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล จะทำให้คุณประหยัดเงินมากขึ้น
- กินข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้า
เมื่อพูดถึงการกินเพื่อสุขภาพในราคาที่เหมาะสม ข้าวโอ๊ตถือเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับมื้อเช้า นอกจากนั้น มันยังเป็นแหล่งเบต้ากลูแคน (Beta-glucan) ซึ่งเป็นเส้นใยที่รู้จักกันดีว่าสามารช่วยลดคอเลสเตอรอล และปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้ ดังนั้น ข้าวโอ๊ตจึงถือเป็นอาหารที่มีคุณภาพสูงและราคาไม่แพง
- ทำอาหารทานเองที่บ้าน
การทำอาหารทานเองที่บ้านนั้น ถือว่าถูกกว่าการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถทำอาหารให้ครบกับจำนวนคนในครอบครัวได้ถึง 4 คนในราคาเดียวกันกับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน สำหรับ 1-2 คน และเมื่อคุณปรุงอาหารด้วยตัวเองก็จะทำให้รู้ด้วยว่าอาหารที่คุณกำลังปรุงอยู่นั้นให้ประโยชน์อะไรบ้าง
- อาหารกระป๋อง
แม้อาหารทะเลสดจะเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพแต่ก็เป็นหนึ่งในอาหารที่แพงที่สุดเช่นกัน บางครั้งคุณอาจจะเลือกซื้อปลาทูน่ากระป๋องแทนการซื้อปลาทูน่าสดๆ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี และเชื่อได้ว่าคุณจะได้รับสารอาหารแบบเดียวกับปลาสดๆ อย่างแน่นอน ทั้งยังสะดวกต่อการปรุง และสามารถเก็บเอาไว้ในตู้ได้เป็นเวลาหลากเดือน นอกจาก ปลาทูน่ากระป๋องแล้ว อาหารกระป๋องที่ดีต่อสุขภาพอื่นๆ ก็ได้แก่ ถั่ว มะเขือเทศ และผลไม้กระป๋อง เป็นต้น
- ถั่วและข้าวกล้อง
ถั่วเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากมันเป็นแหล่งไขมันที่ดี มีวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพ การซื้อถั่วในจำนวนมากและหลากหลายชนิดมาเก็บเอาไว้ จะช่วยทำให้คุณประหยัดได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับการซื้อที่ละปริมาณน้อยๆ สำหรับข้าวกล้อง นั้น ถือเป็นธัญพืชที่มีเส้นใยตามธรรมชาติ วิตามินบี และสารต้านอนุมูลอิสระครบถ้วน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
- ปรุงอาหารมื้อใหญ่และใช้ของเหลือ
การปรุงอาหารมื้อใหญ่ สามารถช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลา นอกจากนั้นของเหลือยังสามารถนำมาเป็นอาหารกลางวันได้อีกด้วย โดยแช่แข็งส่วนที่เหลือเพื่อเอาไว้ใช้ในภายหลัง ของเหลือนั้นมักนำมาทำอาหารที่เกี่ยวกับการต้มและตุ๋นได้ดีมากๆ
- ใช้ตู้แช่แข็งให้เป็นประโยชน์
เนื้อสัตว์ ถือเป็นรายการอาหารที่แพงที่สุดในงบประมาณอาหารของคุณ ดังนั้น คุณควรตุนอาหารประเภทนี้เอาไว้ แล้วแบ่งเนื้อสัตว์แต่ละประเภทออกเป็นหลากหลายขนาด เพื่อใช้สำหรับทำอาหารในแต่ละมื้อ ส่วนที่เหลือนั้นคุณก็สามารถเก็บใส่ถุงที่เหมาะสำหรับแช่แข็เอาไว้ แล้วนำไปแช่แข็งเพื่อนำมาใช้ปรุงอาหารในมื้อถัดๆ ไป เนื้อสัตว์บางชนิดสามารถแช่แข็งได้นาน 9-12 เดือน เลยทีเดียว
- ห้ามซื้อสินค้าเมื่อคุณหิว
เมื่อคุณหิว คุณมักจะอยากทานอาหารต่างๆ ไปซะทั้งหมด ซึ่งไม่ดีต่องบประมาณของคุณอย่างแน่นอน เพราะเมื่อคุณหิว คุณจะมีแนวโน้มในการใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้น เมื่อเกิดอาการหิว ขอให้พยายามหยิบผลไม้ โยเกิร์ต หรือของว่าง เพื่อสุขภาพอื่นๆ มาทาน แทนที่จะเดินไปยังร้านค้าจะเป็นการดีที่สุด
- จัดเก็บวัตถุดิบในห้องครัวให้อุดมสมบูรณ์
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าอาหารบางอย่างนั้น มีอายุในการเก็ยนานหลายปี ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่คุณจะไม่ซื้อของเหล่านี้ตุนเอาไว้ แต่ก็อย่าลืมตรวจสอบดูในห้องครัวของคุณดูก่อนว่า ยังมีของอะไรเหลืออยู่บ้าง เพื่อไม่ให้ซื้อของมามากเกินความจำเป็นนั่นเอง
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]