ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น
ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ
จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle”
“พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว
พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน
หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ดีก็ไม่ได้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแต่อย่างใด2
นอกจากนี้ ยังมีผลศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมเนือยนิ่ง สัมพันธ์กับการมีภาวะเผาผลาญผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรค NCDs ในที่สุด ทั้งยังส่งผลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลงอีกด้วย3
วัยทำงาน อาจเสี่ยงโรค NCDs มากกว่าใคร
เป็นที่ทราบกันดี ว่าการมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งพฤติกรรมเนือยนิ่งนี้ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด “โรคอ้วน” หนึ่งในโรคกลุ่ม NCDs ด้วยเช่นกัน แม้ว่าความสะดวกสบายในปัจจุบันจะเอื้อให้เกิดพฤติกรรมเนือยนิ่งได้ง่าย แต่กลุ่มประชากรที่อาจมีวิถีชีวิตเนือยนิ่งมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น คนวัยทำงาน ที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะเป็นเวลานานๆ หรือต้องขับรถ นั่งรถเป็นเวลานาน ทำให้กลุ่มคนวัยทำงานเสี่ยงเป็นโรค NCDs มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
จากการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บในปี พ.ศ. 25644 พบว่ากลุ่มวัยทำงานอายุ 18-59 ปี มีดัชนีมวลกายมากกว่าเกณฑ์ปกติเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ สถานการณ์ภาวะอ้วนลงพุงของประชากรกลุ่มวัยทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย ยิ่งไปว่านั้นอัตราการเกิดโรคเบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็ง รวมไปถึงโอกาสเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางตา ภาวะไตวายเรื้อรัง โรคเครียดจากการทำงานในกลุ่มคนวัยทำงานก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปีเช่นกัน5
เพิ่มกิจกรรมทางกาย ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังได้
การขยับเคลื่อนไหวร่างกาย เปลี่ยนอิริยาบถแม้เพียงเล็กน้อย ก็ช่วยให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงาน และลดพฤติกรรมเนือยนิ่งได้แล้ว ประโยชน์ของกิจกรรมทางกาย (Physical Activity) มีมากมาย โดยส่วนหนึ่งมีดังนี้
- เสริมความแข็งแรงของระบบการไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ กล้ามเนื้อ กระดูก
- เสริมสร้างความยืดหยุ่นของร่างกาย
- ลดโอกาสการป่วยด้วยโรค NCDs
- ลดความเครียด และภาวะซึมเศร้า
เพราะฉะนั้นแล้ว หากไม่อยากเสี่ยงโรค NCDs ก็ควรลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง เริ่มต้นง่ายๆ ได้จากการเพิ่มกิจกรรมทางกายนั่นเอง
[embed-health-tool-bmi]




















