backup og meta

หน้าอ้วน เกิดจากอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร

หน้าอ้วน เกิดจากอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร

หน้าอ้วน มีไขมันสะสมรอบกรอบหน้าหรือที่เรียกว่าเหนียง อาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป ขาดการออกกำลังกาย หรือพันธุกรรมของคนในครอบครัว ซึ่งอาจทำให้บางคนขาดความมั่นใจ เพื่อช่วยลดไขมันบนใบหน้าที่ทำให้ใบหน้ากระชับและวีเชฟขึ้น ควรศึกษาวิธีลดไขมันบนใบหน้าหรือขอคำแนะนำจากคุณหมอโดยตรง

[embed-health-tool-bmi]

หน้าอ้วน เกิดจากอะไร

หน้าอ้วน เกิดจากการสะสมของไขมันทั่วใบหน้าหรืออาจส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น คาง แก้ม ที่ทำให้ใบหน้าดูกลม มีเหนียง โดยอาจมีปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้

  • พันธุกรรมของครอบครัว หากคนในครอบครัวเป็นโรคอ้วนหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญที่ส่งผลให้ใบหน้าอ้วน ก็อาจส่งผลให้บุตรหลานมีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ด้วยเช่นกัน
  • อาหาร การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่และไขมันสูง เช่น ของทอด ขนมหวาน อาหารแปรรูป น้ำอัดลม เบียร์ ไวน์ ก็อาจส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันได้ทั้งบริเวณใบหน้ารวมถึงลำตัว ที่เสี่ยงให้ใบหน้าอ้วนกลม มีเหนียง หรือเป็นโรคอ้วน
  • ขาดการออกกำลังกาย อาจทำให้ร่างกายไม่ได้เผาผลาญไขมันส่วนเกิน ทำให้ไขมันสะสมอยู่บนใบหน้าและร่างกายในร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานอาหารไม่ดีต่อสุขภาพมาก
  • การนอนหลับไม่เพียงพอ อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติและกระตุ้นความอยากอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง ซึ่งอาจทำให้รับประทานอาหารมากเกินไปนำไปสู่ไขมันสะสมบนใบหน้าทำให้หน้าอ้วน
  • ความเครียด อาจกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ส่งผลให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น จึงทำให้รับประทานอาหารในปริมาณมากจนมีการสะสมของไขมันบนใบหน้าและทำให้หน้าอ้วน
  • ยาบางชนิด เช่น ยากันชัก ยารักษาเบาหวาน ยากล่อมประสาท ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เพราะอาจส่งผลต่อระบบเผาผลาญไขมันและไขมันกระจายไปสะสมทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า

วิธีป้องกันหน้าอ้วน

วิธีป้องกันหน้าอ้วน อาจทำได้ดังนี้

  • รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ควรเลือกอาหารที่มีแคลอรี่และไขมันต่ำ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ ที่อาจทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดการรับประทานอาหารว่างระหว่างวัน อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต ไขมันไม่ดีสูง เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว ของทอด ขนมหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำผลไม้ที่เพิ่มความหวานจากน้ำตาล เพราะอาจทำให้ไขมันสะสมบนบริเวณใบหน้ารวมถึงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น รอบเอว หน้าท้อง แขน ขา และอาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วน
  • อ่านข้อมูลโภชนาการ ก่อนเลือกซื้ออาหาร เครื่องปรุง ขนม และเครื่องดื่มมารับประทาน ควรอ่านข้อมูลโภชนาการข้างฉลากผลิตภัณฑ์ว่ามีคาร์โบไฮเดรต แคลอรี่ ไขมัน และน้ำตาลสูงหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับอาหารเหล่านั้น เพราะอาจส่งผลให้ไขมันสะสมบนใบหน้าที่ทำให้หน้าอ้วนรวม และอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ ควรควบคุมน้ำหนักและลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย  อย่างน้อย 30 นาที/วัน เป็นเวลา 5 วัน/สัปดาห์ เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว ปันจักรยาน เพราะอาจช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและน้ำตาลจากอาหาร และควรออกกำลังกายที่ช่วยลดไขมันบนใบหน้าโดยเฉพาะด้วยการทำปากจู๋ที่ดูดแก้มทั้ง 2 ข้างเข้าด้านในและเงยศีรษะขึ้นค้างไว้ 5 วินาที ทำทั้งหมด 10-15 ครั้ง
  • ไม่ควรอดอาหาร เพราะการอดอาหารอาจกระตุ้นให้ความหิว ที่ทำให้รับประทานอาหารในมื้ออื่น ๆ มากขึ้น เสี่ยงน้ำหนักเพิ่มและไขมันสะสมบนใบหน้า
  • ลดความเครียด ด้วยการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น เล่นเกม วาดรูป ฟังเพลง ดูหนัง ออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เพราะความเครียดอาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดที่กระตุ้นให้รู้สึกอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น 

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถลดไขมันบนใบหน้าได้ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอ โดยคุณหมออาจแนะนำให้ใช้วิธีการรักษาทางการแพทย์ เช่น การดูดไขมัน การฉีดเมโสแฟตลดไขมันบนใบหน้า การทำไฮฟู่ช่วยกระชับใบหน้าและลดเหนียง

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ควรระวัง

ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวังเนื่องจากปล่อยให้ใบหน้าและร่างกายมีการสะสมของไขมันมากเกินไป อาจมีดังต่อไปนี้ 

  • โรคอ้วน ที่อาจสังเกตได้จากรูปร่างเปลี่ยนไป มีใบหน้าอ้วนกลม พุงป่อง รอบเอวและน้ำหนักเกินเกณฑ์
  • ตาพร่ามัว ที่อาจเกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือดที่อาจขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังจอประสาทตา จึงอาจส่งผลให้ตาพร่ามัว มองเห็นเป็นภาพซ้อน
  • ภาวะซึมเศร้า เนื่องจากอาจทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเองเมื่อพบปะผู้คน และวิตกกังวลมากเกินไปที่อาจเสี่ยงเป็นภาวะซึมเศร้า
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด เกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือดมากเกินไป จนอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตัน ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้อย่างเต็มที่ จึงนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองได้
  • โรคข้อเข่าเสื่อม หากไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป โดยเฉพาะบริเวณลำตัวอาจเสี่ยงให้ข้อต่อบริเวณเข่าต้องรองรับน้ำหนักตัวเกิดการอักเสบ มีอาการปวดและบวมแดงนำไปสู่โรคข้อเข่าเสื่อม
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพราะน้ำหนักที่เพิ่มมากเกินไปอาจทำให้ผนังทรวงอกบีบอัดบริเวณปอด ทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีอาการหายใจลำบากและหยุดหายใจขณะหลับโยไม่รู้ตัวที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Can You Lose Fat in Your Face?. https://www.webmd.com/diet/obesity/features/can-you-lose-fat-in-your-face.Accessed January 18, 2023    

Obesity. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/obesity/symptoms-causes/syc-20375742.Accessed January 18, 2023   

Obesity. https://www.nhs.uk/conditions/obesity/.Accessed January 18, 2023   

How Is Obesity Treated?. https://www.webmd.com/diet/obesity/understanding-obesity-treatment.Accessed January 18, 2023   

Obesity Prevention Strategies. https://www.hsph.harvard.edu/obesity-prevention-source/obesity-prevention/.Accessed January 18, 2023   

เวอร์ชันปัจจุบัน

31/01/2023

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

โฮลวีท ลดความอ้วน ได้หรือไม่ เพราะอะไร

ลดเหนียงใต้คาง กำจัดคางสองชั้น ทำได้อย่างไรบ้าง


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา