เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม หรือมีน้ำตาลผสมอยู่ในปริมาณน้อยมาก ๆ เช่น น้ำเปล่า ชา กาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาล เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานนั้นมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่แล้ว หากบริโภคเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะยิ่งสูงขึ้น นับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะเบาหวานขึ้นตา และยังควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอย่างน้ำอัดลม เพื่อช่วยในการควบคุมโรคเบาหวานให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
[embed-health-tool-bmi]
โรคเบาหวาน คืออะไร
เบาหวาน คือ ภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หรือตั้งแต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป โดยเกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ลดลงไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หรือร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งคือการที่เซลล์ตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดีนัก ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดบกพร่องไป
ทั้งนี้ หากผู้ป่วยเบาหวานปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานต้องเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะเบาหวานขึ้นตา อาการปลายประสาทเสื่อม และเพื่อป้องกันมิให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ และหนึ่งในวิธีดูแลตนเองนั้น คือควรเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่มีน้ำตาลหรือมีน้ำตาลน้อย
เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน มีอะไรบ้าง
สมาคมโรคเบาหวานทั่วโลกแนะนำว่า เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวานควรเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำหรือไม่มีเเคลอรี่ เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
เครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาทิเช่น
- น้ำเปล่า เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานมากที่สุด เพราะปราศจากน้ำตาล จึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น นอกจากนั้น การดื่มน้ำเปล่ายังช่วยบรรเทาอาการคอแห้ง กระหายน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งของโรคเบาหวานที่คุมได้ไม่ดีเพราะไตจะขับน้ำตาลส่วนเกินทิ้งทางปัววาสะ ทำให้เป็นการสูญเสียน้ำออกจากร่างกาย โดยทั่วไปแนะนำว่าควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 เเก้ว หรือ ประมาณ 2 ลิตร เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ
- กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล เป็นเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยเบาหวานสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากไม่มีน้ำตาลผสม อีกทั้งกาเเฟยังมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการทำงานของน้ำตาลกลูโคส-6-ฟอสเฟต (Glucose 6-phosphate) ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกาแฟและชาที่บริโภค กับความเสี่ยงโรคเบาหวานตีพิมพ์ในวารสาร Diabetologia ปี พ.ศ. 2557 โดยทีมผู้วิจัยได้ติดตามและเก็บข้อมูลจากผู้ดื่มกาแฟจำนวน 123,733 ราย ตลอดระยะเวลาประมาณ 20 ปี พบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟเพิ่มขึ้น 1 แก้วต่อวัน ในช่วงระยะเวลามากกว่า 4 ปี มีแนวโน้มเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เพิ่มปริมาณกาแฟประมาณ 11 เปอร์เซ็นต์
- ชา การบริโภคชา อาจช่วยบรรเทาหรือป้องกันเบาหวานได้ เนื่องจากมีการศึกษาว่า ชาอาจมีสรรพคุณในการบำรุงรักษาเบตา เซลล์ (β-cells) ในตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ผลิตอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดรวมทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของอินซูลิน ลดภาวะดื้ออินซูลิน และต้านอนุมูลอิสระ แต่อย่างไรก็ตามยังต้องการการศึกษายืนยันเพิ่มเติมในอนาคต
- นม เป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่สามารถบริโภคได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน เเละมีสัดส่วนของน้ำตาลไม่สูงโดยควรเลือกนมรสจืด นมพร่องมันเนย นมไขมันต่ำ หรือนมจากพืช เช่น นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ต เพราะหากเป็นนมรสหวานหรือปรุงเเต่งรส จะมีการใส่น้ำตาลเพิ่มเติม ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และควบคุมเบาหวานได้ยากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ หากผู้ป่วยมีภาวะไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย เเนะนำให้เลือกรับประทานนมชนิดพร่องมันเนยเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เกิดจากการสะสมหรืออุดตันของไขมันในหลอดเลือด
- น้ำผัก มีน้ำตาลน้อยและมีใยอาหาร และ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ/วิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เเต่อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการเติม/ผสม น้ำตาล น้ำผึ้ง หรือ น้ำผลไม้สำเร็จรูปร่วมด้วย
เครื่องดื่มที่ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยง
เครื่องดื่มที่ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยง คือ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นเมื่อบริโภคเข้าสู่ร่างกาย ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- น้ำอัดลม
- น้ำผลไม้
- นมเปรี้ยว นมปรุงแต่งรส
- เครื่องดื่มที่เติมน้ำตาล น้ำเชื่อม นมข้น หรือน้ำผึ้ง เช่น ชานมไข่มุก ชามะนาว กาแฟเย็น
- เครื่องดื่มชูกำลัง รวมทั้งเครื่องดื่มเกลือเเร่
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ค็อกเทล โชจู