ผักเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในมื้ออาหาร ควรรับประทานผักให้หลากหลายอย่างน้อย 400-500 กรัม/วัน เพื่อให้ได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างไรก็ตาม ปริมาณพลังงานและสารอาหารในผักแต่ละชนิดอาจไม่เท่ากัน ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับชนิดของผัก ปริมาณที่บริโภค และวิธีในการประกอบอาหาร เช่น คะน้าต้มสุก 1 ถ้วย ให้ปริมาณวิตามินเอประมาณ 20% วิตามินมินซีมากกว่า 23% แคลเซียมประมาณ 15–18% และฟอสฟอรัสประมาณ 7% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ประโยชน์ของผักคะน้า
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด คะน้ามีโพแทสเซียมที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ ไฟเบอร์ในคะน้ายังอาจช่วยลดระดับไขมันเลวในเลือด ลดความดันโลหิต และช่วยปรับสมดุลของคอเลสเตอรอลรวมด้วย
- ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ จากงานวิจัย Antioxidants and diabetes ที่เผยแพร่ในวารสาร Indian Journal of Endocrinology and Metabolism เมื่อปีค.ศ. 2012 พบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งในผักคะน้าประกอบด้วยวิตามินซีและกรดอัลฟาไลโนเลนิก (Alpha-linolenic acid) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ยังอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย
- ลดความเสี่ยงมะเร็ง ผักใบเขียวมีคลอโรฟิลล์ที่ช่วยป้องกันการดูดซึมเอเทอโรไซคลิกเอมีน (Heterocyclic amines) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ได้จากเนื้อสัตว์ที่ย่างด้วยไฟแรง หรือย่างจนไหม้เกรียม และอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ นอกจากนี้ ไฟเบอร์ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ซีลีเนียม และสารต้านอนุมูลอิสระในคะน้ายังอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง โดยเฉพาะไฟเบอร์ที่อาจลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
- เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร คะน้าเป็นผักฉ่ำน้ำและมีไฟเบอร์สูง จึงส่งผลดีต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก และโรคทางเดินอาหารบางชนิด
- ส่งเสริมสุขภาพผมและผิว คะน้าอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อ รวมทั้งสุขภาพผิวและเส้นผม อีกทั้งคะน้ายังมีวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างและรักษาคอลลาเจนที่จำเป็นต่อผิวหนัง ผม และกระดูก
- ส่งเสริมสุขภาพตา คะน้าอุดมไปด้วยลูทีน ซีแซนทีน วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และสังกะสี ที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสุขภาพตา และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะตาเสื่อมสภาพตามวัย ทั้งยังอาจช่วยป้องปัญหาต้อกระจก ต้อหิน ได้อีกด้วย
- ส่งเสริมสุขภาพกระดูก แคลเซียมและฟอสฟอรัสในผักคะน้ามีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูก และการรับประทานวิตามินเคอาจช่วยป้องกันกระดูกแตกหักง่าย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย