โรคเลือด คือ ความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หายใจลำบาก ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง
คำจำกัดความ
โรคเลือด คืออะไร
เลือด เป็นประกอบด้วยส่วนที่เป็นของเหลวซึ่งเรียกว่า พลาสมา และของแข็งซึ่งประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด เมื่อเลือดเกิดความผิดปกติอาจส่งผลต่อองค์ประกอบของเลือด ดังนี้
- เซลล์เม็ดเลือดแดง ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หายใจลำบาก
- เซลล์เม็ดเลือดขาว ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่งผลให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
- เกล็ดเลือด หากเกล็ดเลือดต่ำอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเสียเลือดมากแม้ได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย หรือหากเกล็ดเลือดสูงอาจส่งผลให้เลือดก่อตัวเป็นลิ่มเลือดจนเกิดอาการอุดตัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย
อาการ
อาการของโรคเลือด
ความผิดปกติของเลือดที่ส่งผลต่อเซลล์เม็ดเลือดแดง
- เหนื่อยล้า
- อ่อนเพลีย
- หายใจหอบ
- ภาวะโลหิตจาง
- ธาลัสซีเมีย
- โรคเลือดข้น
ความผิดปกติของเลือดที่ส่งผลต่อเซลล์เม็ดเลือดขาว
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อาการวิงเวียนศีรษะ
- หายใจถี่
- หัวใจเต้นเร็ว
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ความผิดปกติของเลือดที่ส่งผลต่อเกล็ดเลือด
- เสียเลือดได้ง่ายถึงแม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
- ผิวช้ำกระจายใต้ผิวหนัง
- เลือดออกบริเวณจมูก เหงือก ระบบทางเดินอาหาร ระบบปัสสาวะ โดยไม่ทราบสาเหตุ
สาเหตุ
สาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคเลือด
สาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคเลือด มีดังต่อไปนี้
- กรรมพันธุ์
โรคเลือดสามารถถ่ายทอดได้ในครอบครัว หมายความว่าหากพ่อแม่หรือพี่น้องของเป็นโรคเลือด อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเลือดได้
- การติดเชื้อ
การติดเชื้อบางชนิดสามารถลดจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือดได้ การติดเชื้ออื่น ๆ ยังอาจเพิ่มการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวได้อีกด้วย
- การขาดสารอาหาร
ความผิดปกติเกี่ยวกับการดูดซึมธาตุเหล็ก สามารถทำให้เกิดโรคเลือดได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เซลล์เม็ดเลือดแดงได้อย่างเพียงพอ
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของโรคเลือด
ปัจจัยเสี่ยงของโรคเลือด มีดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง
- โรคอ้วน
- การสูบบุหรี่
- ลำไส้ผิดปกติ โรคเรื้อรัง
- ประจำเดือนหรือการตั้งครรภ์
- อายุที่มากขึ้น
- มีการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก
- ขาดการออกกำลังกาย
การวินิจฉัยโรค
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคเลือด
เพื่อตรวจหาความผิดปกติเกี่ยวกับเลือด คุณหมออาจทำการทดสอบ ดังต่อไปนี้
- การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เป็นการทดสอบที่พบได้บ่อยที่สุด สำหรับการตรวจหาความผิดปกติของเลือด เพื่อประเมินส่วนประกอบเกี่ยวกับเซลล์เลือดทั้งหมด
- อัตราการสร้างเม็ดเลือดแดง เป็นการวัดจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สร้างขึ้นใหม่ ในปริมาณเลือดเฉพาะ เพื่อวัดประสิทธิภาพของไขกระดูกในการสังเคราะห์เซลล์เม็ดเลือดแดงที่สร้างขึ้นใหม่
- การทดสอบเซลล์เม็ดเลือดพิเศษ คุณหมออาจวัดสัดส่วนของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที่แตกต่างกัน และความสามารถของเซลล์เม็ดเลือดขาว ในการต้านการติดเชื้อ
- การทดสอบการแข็งตัวของเลือด คุณหมออาจทดสอบประสิทธิภาพการแข็งตัวของเลือด รวมถึงประเมินความผิดปกติในระบบการแข็งตัวของเลือด
- การวัดค่าโปรตีนและสารต่าง ๆ คุณหมออาจใช้ตัวอย่างปัสสาวะ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีนในการทดสอบหาความผิดปกติโครงสร้างของโปรตีน
การรักษาโรคเลือด
หากผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรงคุณหมออาจแนะนำใหใช้ยาเพื่อกระตุ้นให้ไขกระดูกผลิตเกล็ดเลือด เช่น ยาโรมิโพลสติม รวมถึงการรับประทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงอย่าง ธาตุเหล็ก วิตามินบี 9 วิตามินบี 12 เป็นต้น
สำหรับผู้ป่วยโรคเลือดที่ใช้การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล แพทย์อาจทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อทดแทนเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตนเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเลือด
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงของโรคเลือด แต่ในกรณีที่พ่อแม่เคยมีประวัติเป็นโรคเลือด อาจต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเป็นโรคเลือด