สุขอนามัยส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่เราเรียนรู้กันมาตั้งแต่เด็กๆ อย่างเช่น ต้องอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ต้องล้างมือให้สะอาดก่อนทานข้าว ต้องตัดเล็บมือเล็บเท้าเป็นประจำฯลฯ แต่เอาเข้าจริง เรื่องง่ายๆ แบบนี้แหละที่หลายคนมักทำผิดพลาดกัน โดยไม่รู้ตัวซะด้วยสิ ฉะนั้น เพื่อให้คุณๆ สามารถดูแลสุขอนามัยของตัวเองได้อย่างถูกต้อง เราก็ขอนำตัวอย่างความผิดพลาดมาชี้แจงแถลงไขให้ทุกท่านทราบซะหน่อย จะได้ไม่ทำผิดพลาดซ้ำสองกันอีก
เรื่องที่เรามักทำพลาดเกี่ยวกับ สุขอนามัยส่วนบุคคล
ล้างหน้าหลังออกกำลังกาย
ดูเหมือนว่า การล้างหน้าหลังออกกำลังกาย จะเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ดูเหมือนยังเป็นวิธีดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ถูกต้องด้วยนะ แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ความสำคัญมากกว่านั้นก็คือ คุณควรจะต้องล้างหน้าให้สะอาด ‘ก่อน‘ ออกกำลังกาย เนื่องจากเวลาที่เหงื่อออกนั้น เรามักจะใช้ผ้าเช็ดเหงื่อ ซึ่งถ้าเราไม่ล้างหน้าก่อน ก็จะเป็นการเช็ดฝุ่นผง สิ่งสกปรก รวมทั้งน้ำมันเข้าไปอยู่ในรูขุมขน และนั่นจะยิ่งทำให้ปัญหาสิวลุกลามบานปลายเข้าไปกันใหญ่ แต่ถ้าคุณล้างหน้าแล้วเหงื่อออกในภายหลัง ในเหงื่อก็จะมีแต่น้ำและเกลือแร่ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผิวและปัญหาสิวเลย
อาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป
เราไม่ปฎิเสธหรอกนะว่า การอาบน้ำอุ่นๆ นั้นทำให้เรารู้สึกดีขนาดไหน โดยเฉพาะในช่วงที่มีสภาพอาการเย็นๆด้วยล่ะก็ การอาบน้ำอุ่นเป็นการทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเตือนว่า อย่าเปิดฝักบัวให้น้ำมีอุณหภูมิร้อนจัดเด็ดขาด เพราะน้ำร้อนจะทำให้รูขุมขนเปิด ซึ่งจะยิ่งทำให้ผิวสูญเสียน้ำมากขึ้น นอกจากนี้น้ำที่ร้อนจัดๆ ยังทำลายน้ำมันบนผิวที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้ผิวมีอาการแห้งเข้าไปกันใหญ่ ฉะนั้นเลิกอาบน้ำร้อนกันเถอะนะ
ทาโลชั่นหลังอาบน้ำช้าเกินไป
ถ้าใครผลัดผ่อนเรื่องการทาครีมหรือโลชั่นหลังอาบน้ำ ก็ควรต้องคิดให้รอบคอบใหม่อีกทีนะ เพราะการที่คุณอาบน้ำเสร็จในตอนเช้า แล้วค่อยไปทาโลชั่นในตอนบ่ายนั้น จะส่งผลต่อผิวได้ไม่ดีเท่าการทาโลชั่นหลังอาบน้ำทันที เนื่องจากผิวจะเปิดทางรับความชุ่มชื้นและสารบำรุงจากครีมและโลชั่นได้ดีกว่า
ฉะนั้น เมื่อคุณอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับให้แห้ง จากนั้น ก็ทาครีมหรือโลชั่น เพื่อล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้ในผิว วิธีนี้จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอิ่มเอิบไปได้ยาวนานกว่า
ไม่ยอมทาครีมกันแดดทุกวัน
เราขอย้ำไว้ตรงนี้อีกทีนะว่า ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้คนในยุคนี้มาก ถ้าคุณอยากจะมีที่ดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่งสดใสไปได้อย่างยาวนานล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณทาครีมกันแดดทุกวัน โดยไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์ หรือวันนั้นจะมีเมฆครึ้มหรือฝนตกก็ตาม
คุณควรทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัย เหมือนการตื่นขึ้นมาแล้วต้องแปรงฟันนั่นแหละ ถ้าคุณไม่อยากทาอะไรมากมายในตอนเช้าๆ ก็มองหามอยสเจอไรเซอร์หรือครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของ SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ก็จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทาครีมในตอนเช้าๆได้
ไม่เคยเปลี่ยนใยขัดตัวที่ใช้ตอนอาบน้ำ
ถ้าคุณจำไม่ได้แล้วว่า ซื้อใยขัดตัวชิ้นนั้นมาจากที่ไหนและตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็คงถึงเวลาที่ต้องเหวี่ยงใยขัดตัวชิ้นนั้นทิ้งไปได้แล้วล่ะ เนื่องจากใยขัดผิวหรือใยบวบเป็นแหล่งสะสมชั้นยอดของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ และสิ่งสกปรกที่เป็นอันตรายอื่นๆ
ฉะนั้นจึงต้องล้างน้ำให้สะอาดและผึ่งให้แห้งทุกวัน และไม่ควรใช้กับผิวหน้า เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาผิวมากมายได้
ใช้โทรศัพท์มือถือในห้องน้ำ
ถึงแม้โทรศัพท์มือมือถือ จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นของผู้คนในยุคนี้ไปแล้ว และผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะคว้าโทรศัพท์ติดมือเข้าไปใช้ในห้องน้ำด้วย โดยไม่ได้เฉลียวใจซักนิดเดียวว่า ในห้องน้ำนั้นมีเชื้อโรคอยู่มากมายขนาดไหน
ฉะนั้นลองคิดให้ดีๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือเข้าห้องน้ำครั้งต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ห้องน้ำสาธารณะ‘ เพราะเชื้อโรคอาจคืบคลานขึ้นมาอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ได้ และนั่นจะนำไปสู่ปัญหาสิวหรือปัญหาผิวอื่นๆ ถ้าคุณไม่ได้ล้างมือหรือทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นได้
นั่งเอามือเท้าคาง
คุณรู้ไหมว่า การนั่งเอามือเท้าคางไว้นั้น เป็นการนำสิ่งสกปรกจากมือขึ้นไปอยู่บนผิวหน้า แถมยังทำให้ผิวหน้ายืดย้วยโดยไม่จำเป็นด้วย ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ การที่เรานำมือไปสัมผัสผิวหน้าซ้ำๆ ก็จะทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและมีสิวปะทุขึ้นมาได้ เนื่องจากการทำแบบนั้นจะเป็นการผลักน้ำมัน สิ่งสกปรก ฝุ่นผง และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน รวมทั้งให้ผิวหนาขึ้นเล็กน้อยด้วย ซึ่งนั่นก็จะทำให้เกิดสิวและรูขุมขนอุดตันได้เหมือนกัน
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]