backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก

อาการโคลิค ในทารกแรกเกิด และวิธีรักษา

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงหทัยทิพย์ ชัยประภา · พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช (ศรีนครินทร์)


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 01/04/2022

อาการโคลิค ในทารกแรกเกิด และวิธีรักษา

อาการโคลิค คืออาการที่ทารกร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุและร้องไห้บ่อยโดยเฉพาะในช่วงค่ำหรือกลางคืน อาจเกิดขึ้นในทารกแรกเกิดอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป และจะค่อย ๆ ร้องไห้น้อยลงเมื่ออายุได้ 3-4 เดือน ปกติแล้วทารกมักจะร้องไห้เพื่อส่งสัญญาณบอกคุณพ่อคุณแม่เมื่อรู้สึกหิว ไม่สบายตัว แต่สำหรับอาการโคลิค ทารกจะร้องไห้มากกว่าปกติเป็นเวลานานวันละ 3 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งอาจสร้างความเครียดและความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่

สาเหตุของอาการโคลิค 

โคลิค เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิดตั้งแต่ 3 สัปดาห์ถึง 3 เดือน โดยทารกมักจะร้องไห้เวลาซ้ำ ๆ เดิม ๆ และมักร้องนานได้ ถึง 100 วัน โดยสาเหตุการเกิดอาจเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย อาการโคลิคอาจเกิดขึ้นเมื่อทารกรู้สึกปวดท้อง จุกเสียด เนื่องจากในกระเพาะอาหารมีแก๊สมาก ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ระบบย่อยอาหารของทารกยังทำงานไม่เต็มที่ อาการปวดท้อง และส่งสัญญาณบอกด้วยการร้องไห้เป็นเวลานาน ทำให้เกิดความวิตกกังวลกับคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้เลี้ยงดู

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการที่ทารกร้องไห้อาจเป็นการแสดงความรู้สึกขณะปรับตัวต่อโลกภายนอก เนื่องจากหลังคลอด ทารกจะ เห็นแสงสว่าง วัตถุรอบตัว และได้ยินเสียงชัดขึ้นกว่าตอนอยู่ในท้อง ทำให้อาจไม่ชิน ควบคุมอารมณ์และปรับตัวยาก ดังนั้น จึงทำให้ทารกอาจร้องไห้ออกมา เมื่อทารกเติบโตขึ้นอาจทำให้อาการโคลิคค่อย ๆ บรรเทาลงจนหายได้เอง

อาการโคลิค มีอะไรบ้าง

คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตอาการโคลิคในเด็กทารกได้จากอาการต่อไปนี้

  • ทารกร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ ร้องไห้หนัก ส่งเสียงกรีดร้องไม่เหมือนร้องไห้ปกติ
  • ทารกร้องไห้บ่อย อาจเกิดขึ้นมากกว่า 3 วัน/สัปดาห์
  • ทารกร้องไห้นานกว่า 3 ชั่วโมง/วัน มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดิม ๆ ทุกวัน หรือในช่วงเย็นและกลางคืน
  • ผิวเปลี่ยนสี เช่น หน้าแดง ปากซีด
  • ร่างกายทารกเกร็ง เช่น กำมือแน่น หน้าท้อง แขนขาเกร็ง ยกเข่าหรือขาขึ้นขณะร้องไห้

หากทารกมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบคุณหมอ

  • มีไข้สูงกว่า 38 องศาขึ้นไป
  • หายใจลำบาก
  • อาเจียน แหวะนมเป็นปริมาณมาก
  • ร้องไห้รุนแรงแบบกรีดร้อง
  • ง่วงนอนมากกว่าปกติ ไม่มีความตื่นตัว
  • กินนมน้อยกว่าปกติ
  • ท้องร่วง มีมูกเลือดปนในอุจจาระ

วิธีดูแลทารกแรกเกิด เมื่อมีอาการโคลิค

วิธีดูแลทารกแรกเกิด เมื่อมีอาการโคลิค อาจทำได้ดังนี้

  • ดูก่อนว่าลูก หิว หรือ มีอุจจาระ หรือปัสสาวะ หรือไม่
  • อย่าปล่อยให้ทารกร้องนาน ต้องรีบเข้าไปดูแล
  • อุ้มทารกหรือใช้รถเข็นเด็กพาทารกออกไปเดินเล่น 
  • ห่อตัวทารก เพื่อให้ทารกรู้สึกปลอดภัย
  • ให้ทารกดูดจุกนมหลอก 
  • อาบน้ำอุ่นให้ทารก ตามความเหมาะสม
  • ทำให้ทารกเรอด้วยการนวดหน้าท้อง หรืออุ้มทารกพาดบ่าและตบหลังเบา ๆ เพื่อไล่อากาศในช่องท้องออก
  • ลดแสงไฟรอบห้องลง เนื่องจากแสงไฟอาจรบกวนสายตาทารก
  • พูดคุยกับทารก ปลอบทารกขณะร้องไห้ หรืออาจร้องเพลงกล่อม
  • ปลี่ยนอาหารให้ทารก เนื่องจากทารกบางคนอาจแพ้อาหารที่กำลังรับประทานส่งผลให้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องร่วง ผื่นขึ้น อาเจียน โดยคุณหมออาจแนะนำให้นมสูตรโมเลกุลเล็กย่อยง่ายให้แทนนมปกติ
  • คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่รสไม่จัด ของหมักดอง อาหารที่อาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ เช่น ไข่ ถั่ว ข้าวสาลี เพราะสารก่อภูมิแพ้อาจปะปนในน้ำนมส่งผลให้ทารกมีอาการแพ้ ท้องอืด ปวดท้อง
  • ปรับตำแหน่งการนอนให้ทารก ควรให้ทารกนอนหงาย และหนุนศรีษะให้สูงเล็กน้อย เพื่อให้ทารกนอนท่าที่สบายขณะพักผ่อน ไม่ควรให้นอนคว่ำเพราะอาจทำให้ทารกหายใจลำบาก เสี่ยงเสียชีวิตกะทันหัน

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงหทัยทิพย์ ชัยประภา

พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช (ศรีนครินทร์)


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 01/04/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา