
แมลง สัตว์ กัดต่อยนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และบางครั้งคุณอาจจะโดนกัดแบบไม่รู้ตัว จะมารู้อีกทีก็มีอาการคัน หรือมีบาดแผลเกิดขึ้นที่ผิวหนัง การถูกแมงมุมกัด ก็เช่นกัน บางครั้งคุณอาจจะโดนกัดแบบไม่รู้ตัว และไม่รู้ด้วยว่าแมงมุมที่กัดนั้นมีพิษหรือไม่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นแผล หรือมีอาการทางร่างกายเกิดขึ้นเสียแล้ว ดังนั้นทาง Hello คุณหมอ จะมีวิธีสังเกตแมงมุมแต่ละชนิด รวมถึงวิธีการปฐมพยาบาลเมื่อ โดนแมงมุมกัด มาฝากกัน
ทำไมแมงมุมถึงกัดคน
ความจริงแล้วแมงมุมเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนสักเท่าไหร่นัก มันจะพยายามหลีกเลี่ยงผู้คนอยู่เสมอเท่าที่มันจะทำได้ แต่เมื่อแมงมุมรู้สึกว่าตัวมันกำลังถูกคุกคาม มันก็จะทำการกัด การที่แมงมุมกัดอาจจะเกิดจากการที่คุณทำให้มันตกใจ เหยียบมันโดยไม่ตั้งใจ หรือปัดมือไปยังทิศทางที่แมงมุมอยู่
ในหลายๆ กรณี เมื่อถูก แมงมุมกัด จะสามารถรักษาที่บ้านได้ แม้ว่าแมงมุมทุกสายพันธ์ุจะฉีดพิษผ่านเขี้ยวของมัน เพื่อทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต แต่พิษของแมงมุมส่วนใหญ่ไม่ได้รุนแรงขนาดที่จะเป็นพิษในมนุษย์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม พิษของแมงมุมบางชนิดก็อาจจะเป็นพิษต่อคนและอาจเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ก็มีเช่นกัน
ชนิดของแมงมุมและอาการที่เกิดขึ้น
ก่อนอื่นลองมาทำความรู้จักกับแมงมุมแต่ละชนิดกันก่อนดีกว่า เพื่อจะได้รู้ว่าเมื่อเจอแมงมุมแบบไหนแล้วคุณควรจะหลีกเลี่ยง เพื่อการป้องกันการโดนกัดและได้รับพิษของมัน ซึ่งแมงมุมแต่ละชนิดนั้น มีดังนี้
แมงมุมสีน้ำตาล (Brown Recluse)
แมงมุมสีน้ำตาลเป็นแมงมุมที่ชอบความสันโดษ มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว มันมักจะซ่อนตัวอยู่ในที่มืดและเงียบสงบ มันจะกัดเฉพาะตอนที่มันอยู่ติดกับผิวหนังของคุณเท่านั้น บางครั้งมันมักจะถูกเรียกว่า “แมงมุมไวโอลิน (Violin Spider)” เนื่องจากมันมีรอยสีเข้มที่ด้านหลัง

อาการเมื่อถูกแมงมุมสีน้ำตาลกัด
การโดนแมงมุมสีน้ำตาลกัดในครั้งแรกอาจจะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ภายในเวลา 8 ชั่วโมงจะเริ่มมีอาการคัน เจ็บ และบริเวณที่ถูกกัดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง วงแหวนสีแดง หรือสีม่วง มีลักษณะคล้ายเป้าหรือจุดตรงกลางเป้า ซึ่งจะเกิดขึ้นรอบๆ บริเวณที่ถูกกัด การกัดนี้สามารถทำให้พุพองและจะแย่ลงเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการรักษา พิษอาจฆ่าเนื้อเยื่อรอบข้าง และทำให้เกิดอาการไข้ หนาวสั่น และปวดศีรษะได้ นอกจากนั้นยังอาจเกิดอาการต่างๆ ดังนี้
- โคม่าหรือชัก
- ดีซ่าน
- มีเลือดในปัสสาวะ
- ไตล้มเหลว
ในปัจจุบัน ยังไม่มียาแก้พิษสำหรับการที่ถูกแมงมุมสีน้ำตาลกัด แต่การรักษาความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดจะช่วยให้แผลให้เร็วขึ้น แพทย์อาจจะตรวจสอบบริเวณที่ถูกกัด และสั่งยาปฏิชีวนะ ในกรณีที่รุนแรง เช่น มีการตายของเนื้อเยื่อ คุณจะต้องผ่าตัดและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในทันที
แมงมุมแม่ม่ายดำ (Black widow)
แมงมุมแม่ม่ายดำ มีลักษณะเป็นมันวาว สีดำ และมีรอยรูปนาฬิกาทรายสีแดงเด่นชัดอยู่ที่ท้องของมัน แมงมุมแม่ม่ายดำจะถูกพบบ่อยในเขตอบอุ่นทางตอนใต้และตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มันชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบ เช่น กองใบไม้ร่วง กองไม้ และกล่องในห้องใต้หลังคา แมงมุมแม่ม่ายดำตัวเมียจะมีพิษ ส่วนตัวผู้นั้นจะไม่มีพิษ

อาการเมื่อถูกแมงมุมแม่มายดำกัด
ความรู้สึกเมื่อโดยแมงมุมแม่ม่ายดำกัดจะเหมือนกับโดนเข็มหมุดเล็กๆ ทิ่ม หรืออาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่พิษของมันจะเกิดปฏิกิริยากับผิวหนังขึ้นทันที โดยคุณจะสังเกตเห็นรอยเจาะ 2 จุดบนผิวหนังของคุณ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้น ได้แก่
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- ปวดและแสบร้อนบริเวณที่โดนกัด
- ปวดหัว
- ความดันโลหิตสูง
- น้ำลายเยอะและเหงื่อออก
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ชา
- กระสับกระส่าย
การได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเมื่อโดนแมงมุมแม่ม่ายกัดเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ในบางกรณีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสั่งยาต้านไวรัส เพื่อกำจัดพิษของมันออกจากร่างกาย
แมงมุมเมาค้าง (Hobo Spider)
แมงมุมเมาค้างมีอยู่ทั่วไปในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ มันจะมีลักษณะขายาววิ่งอย่างรวดเร็ว หากคุณเป็นคนที่ชอบทำความสะอาดบ่อ หน้าต่างหรือกวาดโรงจอดรถ คุณอาจจะโดนพวกมันกัดได้ พวกมันชอบอยู่หลังเฟอร์นิเจอร์ แผ่นกระดานที่ปิดขอบด้านล่างของผนัง และในตู้เสื้อผ้า

อาการเมื่อถูกแมงมุมเมาค้างกัด
เมื่อถูกแมงมุมเมาค้างกัด คุณอาจจะไม่สังเกตเห็นได้ในตอนแรก แต่ภายในระยะเวลา 15 นาที คุณจะเกิดอาการปวดและชา หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง บริเวณที่ถูกกัดจะมีขนาดที่เปลี่ยนไปและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ภายใน 8 ชั่วโมง คุณอาจมีอาการตัวแข็งและตัวบวม หลังจากนั้น 24-26 ชั่วโมง แผลอาจจะมีของเหลวไหลออกมาและเปลี่ยนเป็นสีดำในที่สุด นอกจากนั้นยังอาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ดังนี้
- ตุ่มสีแดงหรือสีม่วงบริเวณที่ถูกกัด
- อาการหยุดชะงักทางสายตาหรือทางหู
- ความอ่อนแอ
- อาการปวดข้อ
- ปวดหัว
- คลื่นไส้
- เหงื่อออก
แผลที่ถูกแมงมุมเมาค้างกัดจะหายช้า ดังนั้น ควรไปพบคุณหมอในทันทีหากสงสัยว่าตัวเองถูกแมงมุมเมาค้างกัด สำหรับการรักษาก็จะคล้ายๆ กับการรักษาเมื่อโดนแมงมุมสีน้ำตาลกัด อาจจะต้องใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์ ยาปฏิชีวนะ หรือการผ่าตัดเข้ามาช่วยในการรักษา การรักษาจะได้ผลดีที่สุดหากได้รับยาภายใน 24 ชั่วโมงหลังถูกกัด
แมงมุมทารันทูล่า (Tarantula)
แมงมุมทารันทูล่ามักจะซ่อนตัวอยู่ใต้ท่อนไม้ ก้อนหิน ลำต้นของต้นไม้ อุโมงค์ หรือโพรง ลักษณะของแมงมุมทารันทูล่า ก็คือ มีความยาว 3-5 นิ้ว มีขนดก และมีเขี้ยวห้อยลงมา มันเป็นแมงมุมที่ไม่ก้าวร้าว พิษจากสายพันธุ์ที่พบในสหรัฐอเมริกาถือว่าไม่เป็นอันตราย

อาการเมื่อถูกแมงมุมทารันทูล่ากัด
เมื่อโดนพวกมันกัดจะรู้สึกเหมือนโดนผึ้งต่อย บริเวณที่โดนกัดจะกลายเป็นสีแดง นอกจากนั้นยังมีอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- ผื่น
- บวม
- อาการคัน
- อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
- อาการบวมที่เปลือกตา
- หายใจลำบาก
- ความดันโลหิตต่ำ
ถ้าคุณมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปพบคุณหมอโดยทันที
แมงมุมบราซิล (Brazilian Wandering Spider)
แมงมุมบราซิลมีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เป็นแมงมุมที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและก้าวร้าว ความยาวของมันนั้นยาวได้ถึง 5 นิ้ว ถือว่าเป็นแมงมุมมีพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง

อาการเมื่อถูกแมงมุมบราซิลกัด
การถูกแมงมุมบราซิลกัดจะรู้สึกเจ็บปวดมาก สามารถส่งผลให้เหงื่อออกมากและน้ำลายไหลได้อย่างรวดเร็ว ผิวหนังบริเวณทีถูกกัดจะบวม เปลี่ยนเป็นสีแดง และร้อน ในกรณีที่รุนแรงการกัดอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อตายหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น การเข้ารับการรักษาอย่างฉุกเฉินทันทีจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างมาก เซรุ่มต้านพิษงู (Antivenom) สามารถใช้รักษาพิษที่ถูก แมงมุมกัด ได้
แมงมุมหมาป่า (Wolf Spider)
แมงมุมหมาป่ามีความยาว 3-4 นิ้ว และมีลักษณะคล้ายทารันทูล่า พวกมันชอบไล่ล่าเหยื่อโดยการล่าสัตว์พบพื้นดิน คุณจะพบมันได้ในทรายและกรวดรอบๆ ฐานประตู หน้าต่าง หรือในต้นไม้หน้าบ้าน แมงมุมหมาป่าจะมีดวงตาขนาดใหญ่ 2 ดวง อยู่บริเวณตรงกลางใบหน้า พร้อมดวงตาเล็กๆ อีก 6 ดวง

อาการเมื่อถูกแมงมุมหมาป่ากัด
เมื่อถูกแมงมุมหมาป่ากัด จะทำให้ผิวหนังฉีกขาดและทำให้เกิดอาการปวด แดง และบวม บางครั้งอาจจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวมได้อีกด้วย การรักษาอาการอาจจะใช้เวลาถึง 10 วัน ในบางกรณีเมื่อโดนแมงมุมหมาป่ากัดแล้วอาจจะทำให้เนื้อเยื่อเสียหายได้
แมงมุมอูฐ (Camel Spider)
แมงมุมอูฐเป็นแมงมุมที่มีสีทราย มีปากนกแก้วที่ทรงพลังอยู่บนหัว มันวิ่งได้เร็วสูงสุดถึง 10 ไมล์ต่อชั่วโมง ขนาดของตัวมันมีความยาวเพียง 2-3 นิ้ว แต่ในบางพื้นที่มีความยาวถึง 6-8 นิ้ว ขากรรไกรของแมงมุมอูฐมีขนาดที่ใหญ่

อาการเมื่อถูกแมงมุมอูฐกัด
เมื่อโดนแมงมุมชนิดกัน จะสามารถมองเห็นบาดแผลบนผิวหนังได้ไม่ยาก แมงมุมอูฐไม่มีพิษ แต่คุณอาจติดเชื้อเนื่องจากบาดแผลที่เปิดได้ เมื่อคุณโดนแมงมุมอูฐกัด อาจจะมีอาการบวมบริเวณแผลที่ถูกกัด และมีเลือดออกเล็กน้อยถึงรุนแรง
แมงมุมกระโดด (Jumping Spider)
แมงมุมกระโดดเป็นแมงมุมที่พบได้มากที่สุดในบ้านเรือน โดยปกติจะมีความยาว ½ นิ้ว ลำตัวอ้วน และมีขนดก แมงมุมกระโดดที่พบบ่อย จะมีลักษณะสีดำ มีจุดสีขาวด้านบน มันมักจะเคลื่อนไหวในลักษณะที่คล้ายกับการกระโดด มักจะพบได้ข้างนอกบริวณในสวนและบริเวณใกล้พืชพันธุ์อื่นๆ

อาการเมื่อถูกแมงมุมกระโดดกัด
เมื่อโดนแมงมุมกระโดดกัดมักอาการอาจจะไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณแพ้พิษของแมงมุมก็อาจเกิดอาการร้ายแรง ได้ดังนี้
- ความเจ็บปวด
- อาการคัน
- รอยแดง
- บวม
- ปวดหัว
แมงมุมกระโดดจะกัดคุณก็ต่อเมื่อมันรู้สึกว่าถูกคุกคาม ดังนั้น เวลาทำสวนคุณจึงควรสวมถุงมือเอาไว้ เพื่อป้องกันการถูกกัดจากแมงมุมกระโดด
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อ โดนแมงมุมกัด
เมื่อคุณ โดนแมงมุมกัด อาจจะใช้เวลา 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นก่อนที่คุณจะรู้สึกถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ดังนั้น ถ้ารู้สึกตัวว่าถูกแมงมุมกัดให้พยายามสังเกตอาการของตัวเองดู อาการที่ถูกแมงมุมกัดอาจจะมีเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาการที่แสดงออกมา มีดังนี้
- บาดแผลเจาะเล็กๆ คู่หนึ่ง
- ก้อนเนื้อหรือบวม
- รอยแดงหรือผื่นแดง
- แผลพุพอง
- ปวด คัน หรือชา
ส่วนบางคนอาจจะมีอาการที่รุนแรงเกิดขึ้นเมื่อถูกแมงมุมกัด ซึ่งจะมีอาการดังต่อไปนี้
- วงแหวนสีแดงหรือสีม่วง ลักษณะคล้ายเป้าหรือจุดตรงกลางเป้า บริเวณที่โดนกัด
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ
- เหงื่อออก มีไข้ หนาวสั่น
- หายใจลำบาก
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เกิดความวิตกกังวล กระสับกระส่าย
- ต่อมน้ำเหลืองบวม
- ความดันโลหิตสูง
- น้ำลายไหล
- ความสมดุลไม่คงที่ การประสานงานของร่างกายไม่ดี
- มีอาการรบกวนทางสายตาหรือการได้ยิน
- กล้ามเนื้อกระตุก
หากเกิดอาการที่ร้ายแรงการไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
สิ่งที่ควรทำเมื่อโดน แมงมุมกัด
หากคุณถูกแมงมุมสายพันธุ์ที่มีพิษน้อยกัด คุณสามารถรักษาที่บ้านได้ เพื่อลดความเจ็บปวด ความรู้สึกไม่สบายตัว และเร่งการรักษาให้หายเร็วขึ้น แต่หากถูกแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงกัด คุณจำเป็นจะต้องไปพบคุณหมอเพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จากนั้นค่อยกลับมาดูแลรักษาที่บ้านด้วยตัวเอง สำหรับวิธีการดูแลแผลเมื่อ โดนแมงมุมกัด สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบได้ดังนี้
โดนแมงมุมไม่มีพิษกัดต้องดูแลอย่างไร
การถูกแมงมุมไม่มีพิษกัดแทบไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ คุณสามารถบรรเทาอาการที่เกิดจากแมงมุมไม่มีพิษได้ ดังนี้
- ซองน้ำแข็ง (Icepack)
- ยาแก้ปวดที่ซื้อจากร้านขายยา
- สารต่อต้านฮีสตามีน
การเยียวยาด้วยวิธีธรรมชาติบางอย่าง อาจช่วยในการรักษาอาการที่เกิดจากแมงมุมไม่มีพิษกัดได้ แต่ในปัจจุบันหลักฐานทางวิทยศาสตร์ที่สนับสนุนการใช้ขมิ้นในการรักษายังมีจำกัด แต่การใช้น่าจะปลอดภัยหากคุณต้องการลอง โดยการใช้วิธีเหล่านี้
ขมิ้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า ขมิ้นมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตามศูนย์การแพทย์ผสมผสานและสุขภาพองค์รวมแห่งชาติ (National Center of Complementary and Integrative Health หรือ NCCIH) ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจน เพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างว่า สารประกอบที่มีขมิ้นสามารถช่วยต้านการอักเสบได้ ขมิ้นมีเลือกหลายรูปแบบด้วยกันทั้งแคปซูลและผง ซึ่งคุณสามารถทำให้ผงขมิ้นเป็นเนื้อครีมและทาลงบนรอยแมงมุมกัดได้
ว่านหางจระเข้
จากการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและต้านเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย อาจจะลดอาการปวดและบวมจาก แมงมุมกัด ได้อีกด้วย ในอดีตหลายคนใช้ว่านหางจระเข้ เพื่อรักษาบาดแผล
อย่างไรก็ตามทางศูนย์การแพทย์ผสมผสานและสุขภาพองค์รวมแห่งชาติ ระบุว่า ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์คุณภาพสูงเพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาบาดแผล แต่หากใครต้องการใช้วิธีนี้ในการรักษาการถูกแมงมุมกัด ก็สามารถทำได้ด้วยการทาเจลว่านหางจระเข้ลงบนรอยที่ถูกแมงมุมกัดและผิวหนังโดยรอบได้โดยตรง
โดนแมงมุมมีพิษกัดต้องดูแลอย่างไร
หากคุณถูกแมงมุมมีพิษกัดสิ่งแรกที่ต้องทำก็เหมือนกับวิธีการดูแลเมื่อโดนแมงมุมไม่มีพิษกัด แต่อาจจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ด้วย โดยติดต่อแพทย์หรือศูนย์ควบคุมสารพิษโดยเร็วที่สุด ทารก เด็ก และสตรีมีครรภ์ ควรได้รับการดูแลอย่างฉุกเฉินเมื่อถูกแมงมุมมีพิษกัด
โดยอาการของการถูกแมงมุมมีพิษกัด ก็คือ อาจมีรอยแดงหรือตุ่มเล็กๆ คล้านสิว มักจะมีอาการปวดและบวมที่แผล ทั้งยังอาจจะรู้สึกคันอีกด้วย ในบางกรณีพิษของแมงมุมมีพิษอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ดังนี้
- เกิดหนอง ซึ่งมาจากการกัด โดยมีสีแดงกระจายออกไปด้านนอก
- อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น อ่อนเพลีย มีไข้
- ปวดกล้ามเนื้อหรือปวดท้องอย่างรุนแรง
- เนื้อเยื่อที่ตายแล้วจะก่อตัวขึ้นเรื่อยไ รอยกัดจะถูกเรียกว่า “เนื้อร้าย”
เนื้อร้ายอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันหลังจากถูกกัด และอาจอยู่ได้นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน อาการอาจรุนแรงขึ้นในทารกและเด็ก ตัวอย่างเช่น อาจมีอาการอ่อนแรง ปวดข้อ และชัก ซึ่งอาการจะขึ้นอยู่กับว่าแมงมุมมีพิษตัวใดกัด การเสียชีวิตจากการถูกแมงมุมมีพิษกัดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบุคคลนั้นไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
การรักษาทางการแพทย์
การรักษาทางการแพทย์สำหรับแมงมุมมีพิษกัดขึ้นอยู่กับชนิดของแมงมุม โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการทำความสะอาด การป้องกันบาดแผล และการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันบาดทะยัก แพทย์จะทำการตรวจหาสัญญาณของการติดเชื้อหรือเนื้อร้าย โดยอาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะตามใบสั่งแพทย์หากมีการติดเชื้อ
เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ อาจต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของแมงมุมที่ถูกกัด ผู้ที่มีอาการรุนแรงควรได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงที
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด