การฉีดโบท็อกซ์นั้นกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมในวงกว้างในการรักษาริ้วรอยต่าง ๆ ทั้งยังมีประโยชน์อื่น ๆ ในการรักษาอาการทางร่างกายอีกด้วย นอกจากโบท็อกซ์จะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงแล้ว ผู้ชายก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้ ทำไม โบท็อกซ์สำหรับผู้ชาย ถึงกลายเป็นที่นิยม แล้วบริเวณไหนบ้างที่เหล่าคุณผู้ชายนิยมฉีดโบท็อกซ์กัน ติดตามได้ใน Hello คุณหมอ
เมื่อ โบท็อกซ์สำหรับผู้ชาย กำลังได้รับความนิยม
โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin A ; Botox) ถือเป็นยาในกลุ่มเครื่องสำอางชนิดฉีด ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration หรือ FDA) สำหรับใช้ในเครื่องสำอางตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ยังได้รับความนิยมจากผู้หญิงเป็นอันดับต้น ๆ แต่จำนวนผู้ชายที่นิยมฉีดโบท็อกซ์ก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
การฉีดโบท็อกซ์และการฉีดสารโบทูลินั่มอื่น ๆ เช่น ดีสพอร์ต (Dysport) และ ซีโอมีน (Xeomin) เป็นวิธีการช่วยชะลอความแก่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับผู้ชาย ความจริงแล้วมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลให้การฉีดโบท็อกซ์สำหรับผู้ชาย ได้รับความนิยมและเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่
- การแข่งขันในสถานที่ทำงาน ผู้ชายหลายคนให้เหตุผลว่าที่ฉีดโบท็อกซ์ก็เพราะถูกกระตุ้นให้ฉีด เพื่อที่จะได้แข่งขันกับเพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่าได้ หลายคนรู้สึกว่าการรักษารูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์จะช่วยให้พวกเขาต่อสู้กับยุคนิยมในที่ทำงานได้
- โซเชียลมีเดีย การเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดียและแอพพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ อาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นสำหรับผู้ชายบางคน ที่ต้องการดูดีที่สุดสำหรับโปรไฟล์ในโลกออนไลน์ของพวกเขา
- แรงบันดาลใจ กำลังใจจากคนอื่น ๆ ผู้ชายบางคนอาจได้รับแรงบันดาลใจให้เข้ารับการฉีดโบท็อกซ์จากคนรอบตัว
บริเวณไหนที่ผู้ชายนิยมฉีดโบท็อกซ์มากที่สุด
เหตุผลที่การฉีด โบท็อกซ์สำหรับผู้ชาย ได้รับความนิยม ก็คือ ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า นอกจากนั้นโบท็อกซ์ยังใช้ในการรักษาสภาวะทางสุขภาพหลายอย่าง เช่น อาการกระตุกที่คอ ตาขี้เกียจ และการขับเหงื่อที่มากจนเกินไป ส่วนบริเวณที่ผู้ชายมักจะนิยมฉีดโบท็อกซ์มากที่สุด ก็คือ
- ที่มุมหางตา เพื่อป้องกันหรือลดเลือนรอยตีนกา
- ระหว่างคิ้ว เพื่อกำจัดรอยย่นที่เกิดจากการขมวดคิ้ว
- ที่หน้าผาก เพื่อลดรอยย่น
- รอบปาก เพื่อกำจัดริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการหัวเราะ
ผลข้างเคียงหรือข้อควรระวังเกี่ยวกับ โบท็อกซ์สำหรับผู้ชาย
ทางคลินิกสุขภาพอย่าง Mayo Clinic สหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า การฉีดโบท็อกซ์ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่บางครั้งก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่เป็นไปได้ ได้แก่
- อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- ผิวอาจบวมและช้ำบริเวณที่ฉีด
- ปวดหัว
- ตาแห้ง
- น้ำตามากเกินไป
ในบางสถานการณ์สารที่ใช้ในระหว่างขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ก็สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้าคุณสังเกตเห็นภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้เกิดขึ้นกับคุณ ควรรีบไปพบคุณหมอโดยทันที
- สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ
- ปัญหาการมองเห็น
- มีปัญหาในการพูดหรือกลืนอาหาร
- หายใจลำบาก
- สูญเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ทุกครั้ง คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาวและเพื่อเป็นการป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะทางสุขภาพต่าง ๆ เช่น ผู้ที่แพ้นมวัว เป็นต้น
[embed-health-tool-bmi]