สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดรอย ฟกช้ำ
- รู้สึกเจ็บปวดและมีอาการบวมในบริเวณที่เกิดรอยฟกช้ำ
- รอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นหลังจากการกระแทกรุนแรงหรือล้ม
- รอยฟกช้ำจากการรับประทานยาแก้ปวดแอสไพริน หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- รอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นพร้อมกับการมีเลือดออกมาจากการปัสสาวะหรืออุจจาระ
- รอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นพร้อมกับการมีเลือดออกมาจากเหงือก ปาก จมูก หรือดวงตา
- รอยฟกช้ำจากการเกิดกระดูกหัก
รอยช้ำ รักษาได้ ไม่ต้องกังวล
การรักษาเบื้องต้นด้วยตัวเอง
หากคุณพบว่าตนเองมีรอย ฟกช้ำ แต่อาการไม่รุนแรงมาก คุณสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง โดยวิธีการประคบเย็น ประมาณ 20-30 นาที และหลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้ปวดแอสไพริน หรือยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพราะจะทำให้เลือดแข็งตัวช้า และเสี่ยงทำให้เลือดไหลเพิ่มขึ้น
หลังเกิดอาการช้ำประมาณ 48 ชั่วโมง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่เกิดรอยฟกช้ำเป็นเวลา 10 นาที หรือนำมาประคบ 2-3 ครั้ง/วัน เพื่อช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่มีรอยฟกช้ำ
การรักษาโดยแพทย์
ในเบื้องต้นนั้น แพทย์จะรักษารอย ฟกช้ำ เหมือนวิธีข้างต้นที่กล่าวไป คือ การประคบเย็น ประคบร้อน และแนะนำยาที่ใช้รับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวด หากผู้ป่วยมีอาการฟกช้ำรุนแรง แพทย์จะทำการรักษาอาการตามสาเหตุของรอยฟกช้ำ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้ รอยฟกช้ำสามารถรักษาได้ด้วยตนเองและไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ แต่หากพบว่าตนเองมีอาการฟกช้ำรุนแรง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย