เวลาที่ไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าชุดใหม่ คุณผู้อ่านหลายท่านน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากับเสื้อผ้ากันยูวีมาบ้าง แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าเสื้อผ้ากันยูวี อย่าง เสื้อกันยูวี กางเกงกันยูวี มันสามารถป้องกันผิวหนังของเราจากแสงยูวีได้จริงๆ หรือ? ถ้าใส่เสื้อผ้ากันยูวีแล้วเนี่ย ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ใช่ไหม? และถ้าหากคุณผู้อ่านกำลังสงสัยหรือกำลังตัดสินใจว่าจะลองซื้อชุดกันยูวีอยู่ล่ะก็ Hello คุณหมอ มีข้อมูลดีๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณผู้อ่านในบทความนี้เลยค่ะ
เสื้อกันยูวี คืออะไร
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกันว่าเสื้อกันยูวีคืออะไร เราควรมาเริ่มทำความรู้จักกับ ค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวีของสิ่งทอ (Ultraviolet Protection Factor) หรือค่าUPF กันเสียก่อน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เสื้อผ้าที่เราสวมใส่กันในชีวิตประจำวันนี้ก็มีค่าUPF ที่สามารถที่ป้องกันรังสียูวีหรือแสงแดดได้ด้วยเหมือนกัน เพราะเส้นใยที่ใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตสิ่งทออย่างเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายนั้นจะมีค่าUPF ที่ทำหน้าที่ในป้องกันรังสียูวีทั้งยูวีเอและยูวีบีอยู่เสมอ
เสื้อผ้าโดยทั่วไปจะมีค่าUPF อยู่ประมาณ 15-50 ซึ่งUPF = 15 หมายถึง จะมีรังสียูวีแค่เพียง 1/15 เท่านั้นที่สามารถเล็ดลอดเสื้อผ้าเข้าไปสัมผัสกับผิวหนังได้ หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็จะมีรังสียูวีแค่เพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับผิวหนังของเรา
แต่ถ้าหากเสื้อผ้าชุดนั้นมีค่าUPF ตั้งแต่ 50 ขึ้นไปล่ะก็ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีสูงในระดับสูงถึงสูงสุด โดยเสื้อผ้าที่มีค่าUPF มากกว่า 50 ขึ้นไป จะสามารถป้องกันรังสียูวีได้มากกว่า 98 เปอร์เซนต์
ดังนั้น เสื้อผ้าที่มีค่าUPF ที่สูงเกิน 50 นี่แหละ ที่เรารู้จักกันในชื่อของ เสื้อผ้ากันยูวี โดยมีตั้งแต่ เสื้อกันยูวี กางเกงกันยูวี หมวกกันยูวี เสื้อฮู้ดกันยูวี เป็นต้น
เสื้อกันยูวีป้องกันแสงยูวีได้จริงหรือ
คำตอบของคำถามนี้คือ ใช่ ใช่แน่นอน อย่างไม่ต้องสงสัย เสื้อผ้ากันยูวีสามารถที่จะป้องกันรังสียูวีในแสงแดดได้จริงๆ เนื่องจากผลิตด้วยเส้นใยที่มีค่า UPF มากกว่า 50 จึงทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดได้มากขึ้น ดังนั้นหากใครที่ต้องทำกิจกรรมภายนอกอยู่บ่อยๆ หรือต้องตากแดดเป็นประจำ การสวมเสื้อผ้ากันยูวีถือว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อผิวหนังอย่าง ผิวไหม้แดด การถูกแดดเผา ผิวลอกจากความร้อน หรือลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังได้
ฉะนั้นครั้งต่อไป เวลาที่ไปเลือกซื้อเสื้อผ้า จึงควรสังเกตดูที่ป้ายสินค้าที่ติดอยู่กับเสื้อผ้าเสมอว่ามีค่าUPF อยู่เท่าไหร่ เพราะยิ่งมีค่าUPF สูง ก็ยิ่งป้องกันยูวีได้ดีมากเท่านั้น
เสื้อกันยูวีดีกว่าทาครีมกันแดดหรือเปล่า
การทาครีมกันแดดถือเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย ถึงแม้ว่าจะต้องหยิบขึ้นมาทาบ่อยๆ ทุกๆ ชั่วโมง หรือทุกๆ 2 ชั่วโมงก็ตาม เพราะค่า SPF ในครีมกันแดด จะช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสียูวีในแสงแดดได้ ซึ่งครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ก็ยิ่งช่วยป้องกันรังสียูวีและแสงแดดได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับเสื้อผ้ากันยูวี ที่ยิ่งมีค่าUPFสูง ก็ยิ่งปกป้องผิวหนังจากรังสียูวีได้มากเท่านั้น
แต่…ถ้าถามว่าเสื้อผ้ากันยูวีดีกว่าการทาครีมกันแดดหรือเปล่า คงจะต้องบอกว่า ดีกว่า…แต่ไม่ทั้งหมด เพราะเสื้อกันยูวีจะป้องกันรังสียูวีให้ร่างกายส่วนบน กางเกงกันยูวีจะปกป้องผิวหนังตั้งแต่สะดือลงไปถึงตาตุ่ม แต่ส่วนที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาอย่างแขน ข้อมือ ลำคอ ใบหน้า ข้อเท้า หรือขา (กรณีเป็นกางเกงกันยูวีแบบขาสั้น) ก็จะไม่ได้รับการป้องกันยูวีจากเสื้อผ้าเลย
ซึ่งนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถปฏิเสธการทาครีมกันแดดไปได้ เพราะผิวหนังส่วนที่ไม่ได้อยู่ใต้ร่มผ้ากันยูวีก็ยังคงต้องปะทะกับแสงแดดอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นถึงแม้ว่าจะสวมเสื้อผ้ากันยูวี แต่ก็ไม่ควรลืมทาครีมกันแดด เพื่อที่จะได้ช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสียูวีและแสงแดดได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
[embed-health-tool-bmi]