สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

ทำความรู้จัก "ปลูกฝี" สำคัญยังไง ยังจำเป็นอยู่ไหม

การปลูกฝีเคยเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โรคฝีดาษ (Smallpox) เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตมนุษย์ วัคซีนป้องกันฝีดาษซึ่งเริ่มต้นจากการปลูกฝี ไม่เพียงช่วยลดการเสียชีวิตนับล้านคนทั่วโลก แต่ยังนำไปสู่การประกาศกำจัดโรคฝีดาษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2523  อย่างไรก็ตาม ความทรงจำเกี่ยวกับการปลูกฝีเริ่มจางหายไปเมื่อวัคซีนนี้ไม่ได้เป็นที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยความสำคัญของการปลูกฝีในอดีต และพิจารณาว่าการปลูกฝียังมีความจำเป็นในยุคสมัยใหม่หรือไม่ [embed-health-tool-vaccination-tool] ปลูกฝี ในอดีตเป็นอย่างไร? การปลูกฝีเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1796 โดย ดร.เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ ผู้ค้นพบว่าวัคซีนจาก Cowpox สามารถป้องกันโรคฝีดาษได้ ทำให้เกิดการพัฒนาวัคซีนที่ใช้ทั่วโลกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รณรงค์ฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่ 20 จนนำไปสู่การประกาศว่าฝีดาษถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ในปี 1980 สำหรับประเทศไทย การปลูกฝีเริ่มต้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมักทิ้งรอยแผลเป็นเล็ก ๆ บริเวณหัวไหล่ หลังจากการกำจัดโรคฝีดาษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2523 การปลูกฝีก็หยุดลง แต่กลับมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจอีกครั้งในยุคที่โรคฝีดาษลิงระบาด โดยวัคซีนที่พัฒนาจากวัคซีน Smallpox เช่น JYNNEOS กำลังถูกศึกษาเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่นี้ โรคฝีดาษลิงคืออะไร โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากไวรัสในตระกูล Orthopoxvirus ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคฝีดาษ (Smallpox) แม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่โรคฝีดาษลิงมีอาการรุนแรงน้อยกว่าและมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อ ไวรัส Monkeypox ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในลิงในปี ค.ศ. 1958 และตรวจพบในมนุษย์ครั้งแรกในปี […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพ

ข่าวสารสุขภาพทั่วไป

บริษัทญี่ปุ่นเปิดตัว! มาส์กแปลภาษา หน้ากากอนามัยอัจฉริยะที่ทุกคนใฝ่ฝัน

ถึงช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ ปัจจุบันจะยังคงมีการระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้บางประเทศนั้นได้รับผลกระทบจากภาวะทางเศรษฐกิจอย่างหนัก รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในหลายประเทศก็ได้มีข้อบังคับให้มีการยุติลงอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าการระบาดของเชื้อไวรัสจะมีผลที่ดีขึ้น แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นดูเหมือนว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจไม่สามารถหยุดยั้งการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของพวกเขาได้เลย เพราะเมื่อล่าสุดที่ผ่านมา บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการเปิดตัว มาส์กแปลภาษา ที่ทั้งเป็นหน้ากากอนามัย และเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่อาจเข้ากับการใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มัล (New Normal) ได้อย่างมากเลยทีเดียว ญี่ปุ่นเปิดตัว! มาส์กแปลภาษา หน้ากากอนามัยอัจฉริยะที่ทุกคนใฝ่ฝัน แหล่งที่มาของรูป: https://en.donutrobotics.com/c-mask “C-FACE” หรือ หน้ากากอนามัยแปลภาษา ถูกออกแบบโดยบริษัท Donut Robotics ซึ่งเป็นมาส์กอัจฉริยะมีความสามารถในการแปลภาษาเป็นภาษาอื่น ๆ ได้ถึง 8 ภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีน เกาหลี เวียดนาม อินโดนีเซีย อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส รวมไปถึงภาษาไทยเราอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นในเรื่องของการขยายเสียงในกรณีที่มีการสื่อสารไม่ถนัด หรือไม่ได้ยิน ซึ่งหน้ากากแปลภาษาจะมีไมโครโฟนขนาดเล็กในตัวที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณผ่านบลูทูธ และแอปพลิเคชั่นเฉพาะ จึงทำให้สามารถสื่อสาร หรือการถอดคำพูดเป็นตัวอักษรเพื่อส่งข้อความในระยะที่กำหนดนั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งจากการคาดการณ์ของบริษัทแล้วคุณอาจมีระยะการสื่อสาร รวมไปถึงระยะการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ไกลราว ๆ 32 ฟุต หรือ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

คลื่นเสียงบำบัดสมอง กับประโยชน์ที่คุณควรรู้ไว้

เมื่อพูดถึงการบำบัดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น การบำบัดด้วยเสียงเพลง หรือแม้แต่การใช้คลื่นเสียงบำบัดสมอง แต่หลายคนยังอาจจะไม่รู้จักว่า คลื่นเสียงบำบัดสมอง (Binaural Beats) นั้น เป็นอย่างไร และมันมีประโยชน์อะไรต่อสมองและร่างกายได้ ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน [embed-health-tool-bmr] ทำความรู้จักกับ คลื่นเสียงบำบัดสมอง (Binaural Beats) คลื่นเสียงบำบัดสมอง (Binaural Beats) เป็นเทคนิคในการรวมความถี่ของเสียง 2 ความถี่ที่แตกต่างกันเล็กน้อย เพื่อให้สมองสร้างโทนเสียงความถี่ใหม่เดียว ทฤษฎีก็คือเมื่อสมองได้รับเสียงความถี่ที่แตกต่างกัน 2 ความถี่ในเวลาเดียวกัน ในหูแต่ละข้างจะรับรู้เสียงต่างกัน ซี่งเป็นความแตกต่างระหว่างความถี่ 2 ความถี่ที่แยกจากกัน แต่สมองของคุณจะปรับความถี่ทั้ง 2 นี้ ให้เป็นโทนเสียงใหม่ หากคุณฟังคลื่นเสียงบำบัดสมองโดยการใช้หูฟัง ในหูแต่ละข้างจะได้รับเสียงที่ความถี่ต่างกันเล็กน้อย ซึ่งมักจะมาพร้อมกับเสียงพื้นหลังที่ผ่อนคลาย หากหูซ้ายของคุณได้รับโทนเสียง 300 เฮิรตซ์ และหูขวาของคุณได้รับเสียง 280 เฮิรตซ์ สมองของคุณจะประมวลผลและดูดซับโทนเสียง 10 เฮิรตซ์ นั่นคือ คลื่นเสียงความถี่ต่ำ ซึ่งเป็นคลื่นที่คุณจะไม่ได้ยินจริงๆ และคุณไม่จำเป็นต้องได้ยินเสียง เพราะสมองของคุณจะได้รับผลกระทบจากมัน สำหรับเหตุผลที่คลื่นเสียงเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการนอนหลับและการผ่อนคลาย ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า การสัมผัสกับคลื่นเสียงบำบัดสมอง สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับความตื่นตัวของสมอง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ประโยชน์ของแสงแดด ออกแดดวันละนิด จิตแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง!

หลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบออกไปเผชิญแสงแดดนัก เพราะปัจจัยเรื่องความร้อน หรือกังวลใจว่าแสงแดดจัดอาจทำร้ายผิว แต่คุณรู้หรือไม่ว่า.. ประโยชน์ของแสงแดด มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย รวมไปถึงการปรับปรุงสุขภาพจิต แต่ แสงแดด จะช่วยส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างไรบ้าง ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน ประโยชน์ของแสงแดด ที่มีต่อ สุขภาพกาย นอกจากประโยชน์ของแสดงแดดที่มีต่อสุขภาพจิตแล้ว แสงแดดนั้นยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพอีกด้วย ดังนี้ ส่งเสริมสุขภาพกระดูก การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต-บี (Ultraviolet-B) ซึ่งเป็นรังสีในดวงอาทิตย์ จะทำให้ผิวของคุณสร้างวิตามินดี จากการศึกษาหนึ่งในปีค.ศ. 2008 จากแหล่งการศึกษาที่เชื่อถือได้พบว่า ในช่วงเวลา 30 นาที ในขณะที่สวมชุดว่ายน้ำ ผู้คนจำนวนมากได้รับวิตามินดี ดังต่อไปนี้ คนคอเคเชียน (Caucasian people) ส่วนใหญ่ ได้รับวิตามินดี 50,000 หน่วยสากล (IU) คนผิวแทน ได้รับวิตามินดี 20,000-30,000 หน่วยสากล (IU) คนผิวคล้ำ ได้รับวิตามินบี 8,000-10,000 หน่วยสากล (IU) โดยวิตามินดีที่เกิดจาก แสงแดด นั้นมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพกระดูก ระดับวิตามินดีต่ำจะเชื่องโยงกับโรคกระดูกอ่อนในเด็ก และโรคที่ทำให้เสียกระดูก เช่น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ไขข้อสงสัยทำไม สีรอยช้ำ ถึงมีสีที่แตกต่างกัน

หากเราเดินใจลอยไม่ระวัง แขน ขาอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ฟาดหรือกระทบกระแทก ทำให้ร่างกายเกิดรอยช้ำ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยสังเกตว่า สีรอยช้ำ ของเรานั้นมีสีที่หลากหลายทั้งสีเขียว ม่วง แดง วันนี้ Hello คุณหมอ จะชวนทุกคนมาหาคำตอบว่า ทำไมรอยช้ำถึงที่มีที่แตกต่างกัน ไปอ่านกันเลยค่ะ [embed-health-tool-bmi] รอยช้ำ เกิดขึ้นได้อย่างไร รอยช้ำ เป็นรอยที่เกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังกระทบกับของแข็งอย่างรุนแรง จนทำให้เส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดเล็ก ๆ นั้นแตก เมื่อเส้นเลือดฝอยแตกทำให้เลือดออก ซึมไปยังเนื้อเยื่อบริเวณผิวหนังรอบ ๆ ซึ่งทำให้เกิดรอยช้ำและเกิดการเปลี่ยนสีใต้ผิวหนัง อย่างที่เราเห็น ๆ กัน ในขณะเดียวกัน รอยช้ำ ก็จะดูดซับเลือดที่รั่วออกมา ทำให้รอยช้ำมีลักษณะและสีที่เปลี่ยนไป มาเรียนรู้เกี่ยวกับ สีรอยช้ำ กันเถอะ ตั้งแต่เกิดการกระแทก รอยช้ำ นั้นจะอยู่นาน 2-3 สัปดาห์ รอยช้ำของแต่ละคนนั้นอาจจะใช้เวลากว่าจะหายไม่เท่ากัน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ และจุดที่ได้รับรอยช้ำบนร่างกาย หากเกิดรอบช้ำที่แขนหรือขาอาจจะหายช้ากว่าปกติ และสีของรอยช้ำก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามลำดับ และมีเฉดสีที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปดังนี้ สีชมพูและแดง หลังจากที่ร่างกายได้รับการกระแทก เช่น โดนกระแทกที่หน้าแข้ง โดนกระแทกที่แขน อาจทำให้บริเวณนั้นเกิดรอยช้ำสีชมพูหรือแดงขึ้นมา นอกจากสีที่ปรากฏขึ้นแล้ว […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำแล้วปากอวบอิ่มได้รูปทันใจ แล้วก่อนทำคุณควรรู้อะไรบ้าง

สมัยนี้ ริมฝีปากอวบอิ่ม เต่งตึง ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ ยิ่งปัจจุบันมีลิปสติกวางขายมากมายหลากหลายยี่ห้อ แถมนางแบบของแบรนด์ลิปสติกส่วนใหญ่ ก็มักจะมีริมฝีปากอวบอิ่มได้รูป ทาปากสีไหนก็ดูสวยไปหมด จนสาว ๆ บางคนเห็นแล้วอาจมีริมฝีปากอวบอิ่มบ้าง จะได้ทาลิปสติกออกมาสวยเหมือนที่เห็นในรูปโฆษณา และหนึ่งในวิธีเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้น การฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ‘การฉีดปาก’ นั่นเอง สำหรับใครที่กำลังสนใจจะ ฉีดฟิลเลอร์ปาก Hello คุณหมอ แนะนำให้คุณอ่านบทความนี้เลย รับรองว่าคุณจะเข้าใจการฉีดฟิลเลอร์ปากดียิ่งขึ้นแน่นอน การ ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร การฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือ การฉีดสารเติมเต็มที่ริมฝีปาก (Lip Augmentation)  คือ การฉีด กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เข้าไปในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนังบริเวณริมฝีปาก เพื่อเติมเต็มผิวหนังในบริเวณนั้น ทำให้ริ้วรอยหรือร่องลึกบนผิวหนังตื้นขึ้นหรือจางลง นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ยังสามารถช่วยแก้ไขหรือปรับแต่งรูปร่างของริมฝีปากให้ได้ตามต้องการได้ด้วย การฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยปรับเปลี่ยนรูปร่างหรือรูปทรงริมฝีปากของคุณให้เป็นอย่างที่คุณต้องการ หรือใกล้เคียงตามความต้องการของคุณที่สุด เมื่อคุณได้รับการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณริมฝีปาก กรดไฮยาลูรอนิคจะจับตัวกับน้ำและพองขึ้นเป็นเจล และส่งผลต่อเนื้อเยื่อริมฝีปาก ในปัจจุบัน คนนิยมฉีดฟิลเลอร์ที่ปากกันมากขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์ช่วยทำให้ริมฝีปากของคุณดูอวบอิ่ม และเต่งตึงขึ้น ทั้งยังทำให้รอยย่นบนริมฝีปากดูจางลงด้วย นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ยังเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือ (Carpal tunnel syndrome)

กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) หรือภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ เกิดขึ้นจากการกดทับของเส้นประสาทมีเดียน ทำให้มือเกิดอาการเหน็บชา หรืออ่อนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อการขยับของมือและแขนได้ คำจำกัดความกลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือ คืออะไร กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) หรือภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ เกิดขึ้นจากการกดทับของเส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) เส้นประสาทบนฝ่ามือ ที่ทำให้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางครึ่งหนึ่งสามารถรับความรู้สึกได้ เมื่อเส้นประสาทมีเดียนนี้ถูกกดทับ จะทำให้มือเกิดอาการเหน็บชา หรืออ่อนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อการขยับของมือและแขนได้ กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือนั้นจัดได้ว่า เป็นอาการกดทับเส้นประสาทที่พบได้มากที่สุด โดยสามารถพบได้มากถึง 90% ของอาการกดทับเส้นประสาททั้งหมด กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือพบบ่อยแค่ไหน กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือนั้นสามารถพบได้ประมาณ 3.8% จากจำนวนประชากรทั้งหมด โดยมักจะพบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และจะพบได้บ่อยในกลุ่มของผู้สูงอายุ 40-60 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่านั้นเช่นกัน อาการอาการของกลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือ รู้สึกแสบร้อน เหน็บชา หรืออาการคันในบริเวณฝ่ามือ นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง มือไม้อ่อน ไม่สามารถจับของได้อย่างถนัด รู้สึกไม่มีแรงที่มือ นิ้วกระตุก รู้สึกซ่าตามข้อมือขึ้นไปจนถึงแขน ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกว่ามีอาการมือชา อ่อนแรง หรือเป็นเหน็บ ทำให้เคลื่อนไหวมือได้ลำบากมากขึ้น เมื่ออาการรุนแรงขึ้น อาจทำให้สูญเสียแรงจับเพราะกล้ามเนื้อมือหดตัว นอกจากนี้ยังอาจมีอาการปวดและตะคริวที่มืออีกด้วย ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด หากคุณสังเกตพบว่า อาการของกลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับข้อมือนั้นเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ทำให้ไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวมือได้ตามใจชอบ หรือมีอาการปวดที่รบกวนการนอนหลับของคุณ ควรรีบปรึกษาแพทย์ในทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา […]


การทดสอบทางการแพทย์

มีรสโลหะในปาก อีกหนึ่งสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ ที่คุณไม่ควรละเลย

เคยไหม? แปรงฟันก็แล้ว บ้วนปากก็แล้ว ยังรู้สึก มีรสโลหะในปาก อยู่ตลอดเวลา ปัญหานี้ นอกจากจะทำให้คุณรำคาญแล้ว ยังทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ด้วย การมีรสโลหะในปากนี้ จัดเป็นโรคเกี่ยวกับการรับรส (Taste disorder) ประเภทหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า การรู้รสผิดธรรมดา (Parageusia) หรือการรับรสเปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงกับความเป็นจริง (Dysgeusia) ส่วนใหญ่แล้ว ภาวะนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรหาสาเหตุให้พบ จะได้รับมือได้อย่างถูกวิธี ว่าแต่สาเหตุของภาวะมีรสโลหะในปาก จะมีอะไรบ้าง แล้วเราจะรับมือกับภาวะนี้ได้อย่างไร Hello คุณหมอ นำบทความนี้มาให้คำตอบแล้ว [embed-health-tool-bmi] สาเหตุที่อาจทำให้คุณ มีรสโลหะในปาก ปัญหาสุขภาพช่องปาก หากคุณมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) ฟันติดเชื้อ ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นปาก รวมถึงรสชาติแย่ในปากได้ เช่น รสชาติโลหะ ดังนั้น คุณจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการแปรงฟันและลิ้นอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ โรคเหงือกและฟันที่เป็นสาเหตุทำให้มีรสโลหะในปากจะได้ไม่ถามหา และหากคุณพบว่าสุขภาพช่องปากผิดปกติ ก็ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ทันที แพทย์จะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที เพราะปัญหาสุขภาพปากและฟันบางอย่าง เช่น การติดเชื้อที่ฟัน หากปล่อยไว้ อาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เนื้อแดง อร่อยถูกใจ แต่อาจเสี่ยงทำร้ายสุขภาพได้โดยไม่รู้ตัว

ชอบบุฟเฟต์ รักปิ้งย่าง เงินเดือนออกเป็นต้องนัดปาร์ตี้เนื้อย่าง ก็แหมเนื้อย่างสุดแสนจะอร่อยขนาดนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบ แต่…รู้หรือไม่ว่า ยิ่งกินเนื้อมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อสุขภาพมากเท่านั้น โดยเฉพาะถ้าเป็น เนื้อแดง แล้วล่ะก็ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้นไปอีก วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการกินเนื้อแดงมาฝากค่ะ  เนื้อแดง คืออะไร เนื้อสัตว์ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดและเนื้อสัตว์ที่เรารับประทานกันอยู่ในชีวิตประจำวันนี้ สามารถจำแนกออกได้หลายลักษณะใหญ่ๆ ดังนี้ เนื้อสัตว์แปรรูป: มักเป็นเนื้อสัตว์หรือเนื้อวัวที่ถูกเลี้ยงตามอัตภาพ แล้วมีการนำเนื้อนั้นมาแปรรูปในโรงงานเป็น ไส้กรอก เบคอน แฮม ฮอตดอก เบอร์เกอร์ เป็นต้น เนื้อแดงธรรมดา: คือเนื้อแดงที่ยังไม่ถูกนำไปแปรรูป มักเป็นเนื้อสัตว์ที่ถูกเลี้ยงไว้ในฟาร์มสำหรับแล่เอาเนื้อโดยเฉพาะ ได้แก่ เนื้อสัตว์จำพวก เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ เป็นต้น เนื้อขาว: คือเนื้อสัตว์ที่มีลักษณะของเนื้อที่เป็นสีขาวมากกว่าสีแดง มักพบได้ในเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อปลา เช่น เนื้อไก่ เนื้อไก่งวง เนื้อปลา เนื้อสัตว์ออร์แกนิก: คือเนื้อที่มาจากสัตว์ซึ่งถูกเลี้ยงตามธรรมชาติด้วยหญ้าหรือฟาง ได้รับการดูแลแบบออร์แกนิก ไม่มีการใช้ยา สารเร่ง สารเคมี หรือฮอร์โมนใดๆ  ดังนั้นเนื้อแดงจึงมักจะหมายถึงเนื้อสัตว์ที่มีสีแดงสดและเข้ม เมื่อถูกทำให้สุกหรือปรุงจนสุกก็จะมีสีที่เข้มขึ้นไปอีก โดยเนื้อแดงมักหมายถึงเนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่จะไม่รวมถึงเนื้อของสัตว์ปีก หรือเนื้อปลา เนื่องจากเป็นเนื้อที่มีส่วนของเนื้อสีขาวมากกว่าเนื้อสีแดง โดยเนื้อแดงที่เรารู้จักกันดีก็ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

หลอดเลือดแดงอักเสบทากายาสุ (Takayasu's Arteritis)

หลอดเลือดแดงอักเสบทากายาสุ หรือเรียกสั้นๆ ว่า โรคทากายาสุ (Takayasu’s Arteritis) เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจและหลอดเลือดที่ลำเลียงเลือดไปยังส่วนแขนและเดินผ่านทางลำคอไปยังสมอง อาการอักเสบดังกล่าว ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพองจนเกิดอาการตีบตันหรืออุดตัน คำจำกัดความหลอดเลือดแดงอักเสบทากายาสุ (Takayasu’s Arteritis) คืออะไร    หลอดเลือดแดงอักเสบทากายาสุ หรือเรียกสั้นๆ ว่า โรคทากายาสุ (Takayasu’s Arteritis) เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจและหลอดเลือดที่ลำเลียงเลือดไปยังส่วนแขนและเดินผ่านทางลำคอไปยังสมอง อาการอักเสบดังกล่าว ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพองจนเกิดอาการตีบตันหรืออุดตัน อย่างไรก็ตาม โรคทากายาสุเป็นโรคที่หาได้ยาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอาการดังนี้ มีไข้ ภาวะโลหิตจาง เวียนศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เหงื่อออกเวลากลางคืน เป็นต้น พบได้บ่อยเพียงใด โรคทากายาสุสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ทุกเชื้อชาติ โดยส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงเอเชียอายุระหว่าง 15 ถึง 35 ปี อาการของโรคทากายาสุอาการของโรคทากายาสุ อาการของโรคทากายาสุจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ อาการของโรคทากายาสุ ระยะที่ 1 เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว มีไข้เล็กน้อย ในบางครั้งอาจมีอาการเหงื่ออกตอนกลางคืนร่วมด้วย อาการของโรคทากายาสุ ระยะที่ 2 ในระยะที่ 2 เกิดจากการอักเสบของเส้นเลือดจนเกิดอาการตีบตันหรืออุดตัน ส่งผลให้ออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้น้อยลง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมีอาการ ดังต่อไปนี้ แขนและขามีการอ่อนแรงหรือเกิดอาการปวด รู้สึกวิงเวียนศีรษะ เป็นลม ปวดศีรษะ เกิดความผิดปกติทางการมองเห็น เจ็บหน้าอก หายใจถี่ ความดันโลหิตสูง ท้องเสีย […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กินข้าวเย็นไว ส่งผลดีอย่างไรต่อสุขภาพบ้าง

เมื่อพูดถึงการลดน้ำหนัก หลายคนคงพอจะทราบดีกว่าควรจะต้องกินข้าวก่อนช่วง 18.00 น. หลังจากนั้นไม่ควรกินอะไรอีก เพราะอาจทำให้อ้วนได้ แต่ความจริงแล้ว กินข้าวเย็นไว ก็เป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน กินข้าวดึก ทำให้อ้วนได้จริงหรือ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism ของสมาคม Endocrine Society พบว่า การกินอาหารเย็นหรือมื้อดึกนั้น มีความสัมพันธ์กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น โดยไม่คำนึงว่ามื้อนั้นจะเหมือนกับที่คุณเคยกินมาก่อนหน้าหรือไม่ นอกจากนั้นการกินอาหารมื้อดึก ยังมีความสัมพันธ์กับโรคอ้วนอีกด้วย การกินอาหารในช่วงดึกนั้นจะทำให้การเผาผลาญเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ส่งเสริมทำให้เกิดโรคอ้วน มีงานศึกษา โดยให้อาสาสมัครที่มีสุขภาพดี 20 คน ซึ่งเป็นชาย 10 คน และหญิง 10 คนเข้าร่วมการวิจัย เพื่อค้นหาว่าเมื่อร่างกายต้องเผาผลาญอาหารเย็นในเวลา 22.00 น. แทนที่จะเป็นเวลา 18.00 น. จะเกิดอะไรขึ้น โดยให้ผู้เข้าร่วมศึกษาทุกคนเข้านอนในเวลาเดียวกันคือ 23.00 น. ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่กินอาหารมื้อดึกระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน