โรคอ้วน อันตราย!!!

โรคอ้วน หรือผู้ที่มีค่า BMI 25 ขึ้นไป ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น

อันตรายจากโรคอ้วน

โรคอ้วน

เช็กให้ชัวร์! อาการแบบไหนคือ "โรคอ้วนลงพุง"

โรคอ้วนลงพุง คือ โรคที่ร่างกายมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องและรอบเอวมากเกินเกณฑ์ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย หรืออาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไป หากไม่ทำการรักษาอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคเบาหวานชนิดที่ 2 การติดเชื้อ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ โรคอ้วนลงพุง คืออะไร โรคอ้วนลงพุง คือ โรคที่ร่างกายมีการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องในปริมาณมาก ส่งผลให้มีรอบเอวและค่าดัชนีมวลกายสูงเกินเกณฑ์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานชนิดที่ 2  ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง  อาการ อาการของโรคอ้วนลงพุง อาการของโรคอ้วนลงพุง มีดังนี้ มีการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องทำให้มีหุ่นคล้ายลูกแพร์หรือแอปเปิ้ล ค่าดัชนีมวลกาย 25 ขึ้นไป รอบเอวเกิน 35 นิ้ว ขึ้นไปในผู้หญิง และ 40 นิ้ว ขึ้นไปในผู้ชาย เหนื่อยล้าง่าย โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกาย รู้สึกปวดเข่าและ ข้อต่อ เพราะรองรับน้ำหนักตัวมาก ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง รู้สึกกระหายน้ำบ่อย และปัสสาวะบ่อยซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอ้วนลงพุงที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอ้วนลงพุงที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ สาเหตุ สาเหตุของโรคอ้วนลงพุง สาเหตุของโรคอ้วนลงพุงเกิดจากความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการสะสมของแคลอรี่ส่วนเกินและเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องและรอบเอว นอกจากนี้ […]

การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

BMI หรือ ค่าดัชนีมวลกาย สำคัญอย่างไร และวิธีคำนวณ BMI

BMI (Body Mass Index) หรือ ค่าดัชนีมวลกาย เป็นเครื่องมือชี้วัดน้ำหนักว่าน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีแนวโน้มน้ำหนักเกิน ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เพื่อทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] BMI คืออะไร สำคัญอย่างไร BMI คือ สูตรคำนวณค่ามาตรฐานของน้ำหนัก เพื่อบอกถึงแนวโน้มน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ และแนวโน้มน้ำหนักเกิน โดยค่า BMI ไม่ได้วัดมวลไขมันในร่างกายโดยตรง แต่เป็นวิธีวัดมวลกายโดยรวมที่อาจแสดงถึงการเผาผลาญอาหารในร่างกาย หรือแนวโน้มการเกิดโรค เพื่อควบคุมน้ำหนักและสุขภาพโดยรวมของร่างกาย ซึ่งความสำคัญของ BMI มีดังนี้ เป็นตัวชี้วัดมาตรฐานความสมดุลของน้ำหนักตัวต่อส่วนสูง เพื่อประเมินสภาวะของร่างกายอย่างเหมาะสม เป็นเครื่องมือคัดกรองผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยค่า BMI ใช้วิธีคำนวณจากค่า น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ ด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง และแสดงค่าเป็นหน่วย กิโลกรัม/เมตร2  สามารถแปลผลค่า BMI ได้ดังนี้ น้อยกว่า 16.0 จัดเป็น โรคผอมระดับ 3 16.0 - 16.9 จัดเป็น โรคผอมระดับ […]

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

แคลอรี่ต่อวัน สำคัญอย่างไร กับวิธีนับแคลอรี่ที่ควรรู้

แคลอรี่ต่อวัน และวิธีนับแคลอรี่ที่ถูกต้อง ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดูแลสุขภาพที่ควรทราบ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม พลังงานและแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันควรมาจากอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย จึงจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างสุขภาพดีในระยะยาว [embed-health-tool-bmi] แคลอรี่ต่อวัน สำหรับคนแต่ละกลุ่ม แคลอรี่ (Calorie) คือ หน่วยวัดพลังงาน หากเป็นพลังงานที่ได้รับจากอาหารหรือพลังงานที่ร่างกายใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะเรียกว่า กิโลแคลอรี่ (kcal) โดยทั่วไปแล้ว แต่ละคนจะมีปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวันแตกต่างกัน อาจขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก และระดับการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน วิธีการ คํานวณ แคลอรี่ต่อวันอาจแบ่งตามระดับความเข้มข้นของการเคลื่อนไหวร่างกายหรือกิจกรรมทางกาย (Physical activity) ดังนี้ 1. กลุ่มที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย (Sedentary) หรือส่วนใหญ่ทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานน้อย เช่น นอน นั่ง ยืน เดินในระยะทางใกล้ ๆ ไม่เกิน 10 นาที แคลอรี่ต่อวัน เด็ก อายุ 2-3 ปี ควรได้รับแคลอรี่ต่อวัน 1,000 กิโลแคลอรี่ แคลอรี่ต่อวัน ผู้หญิง อายุ 4-8 ปี ควรได้รับแคลอรี่ต่อวัน 1,200 […]

การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

1วันควรกินกี่แคล สำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก

1วันควรกินกี่แคล หมายถึง จำนวนพลังงานจากสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันซึ่งมีหน่วยวัดเป็นกิโลแคลอรี่หรือแคลอรี่ โดยจำนวนพลังงานที่ร่างกายของแต่ละคนควรได้รับใน 1 วันนั้น ขึ้นอยู่กับหลาปัจจัย อย่างเพศ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง หรือไลฟ์สไตล์ เช่น เพศชายอายุ 20 ปี ปกติแล้วมักต้องการพลังงานประมาณ 2,400-3,000 แคลอรี่/วัน ส่วนเพศหญิงในวัยเดียวกัน มักต้องการพลังงานน้อยกว่า หรือประมาณ 2,000-2,400 แคลอรี่/วัน อย่างไรก็ตาม หากเพศหญิงคนดังกล่าวเป็นนักกีฬา หรือทำงานที่ต้องออกแรงมาก พลังงานที่ต้องการภายใน 1 วัน อาจมากกว่านั้น หรืออยู่ในระดับเดียวกับเพศชายอายุ 20 ปี ทั้งนี้ จำนวนแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวันควรเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ภาวะอ่อนเพลีย สมองเสื่อม [embed-health-tool-bmi] แคลอรี่ คืออะไร แคลอรี่ (Calorie) ย่อมาจากกิโลแคลอรี่ (Kilocalorie) เป็นหน่วยวัดของจำนวนพลังงานที่ร่างกายจะได้รับเมื่อบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มแต่ละชนิด หากได้รับปริมาณแคลอรี่เกินกว่าระดับที่ร่างกายต้องการใช้ จะทำให้เกิดการสะสมของพลังงานส่วนเกินในรูปแบบของไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ ลงพุง หรือเป็นโรคอ้วน โดยปกติบนบรรจุภัณฑ์ของอาหารหรือเครื่องดื่มมักมีฉลากบอกจำนวนพลังงานเป็นหน่วยแคลอรี่หรือกิโลแคลอรี่ แต่ในบางผลิตภัณฑ์อาจมีฉลากที่ใช้หน่วยวัดพลังงานเป็นกิโลจูล (Kilojoule หรือ KJ) […]

การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

อาหาร low carb คืออะไร และช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร

อาหาร low carb คือ อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ยังคงให้ประโยชน์และพลังงานกับร่างกาย เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ ผัก ถั่ว เมล็ดพืช ซึ่งการกินอาหาร low carb อาจช่วยในการลดน้ำหนักและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงอาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจได้ [embed-health-tool-bmi] อาหาร low carb คืออะไร Low-Carb Diet คือการกินอาหารแบบ จำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) ที่ได้รับในแต่ละวัน โดยลดการบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เชน ข้าว แป้ง ขนมปัง ผักที่มีแป้งสูง เช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด รวมถึงผลไม้ที่มีแป้งสูงบางชนิด เช่น กล้วย แอปเปิ้ล โดยจะมุ่งเน้นไปที่การบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและให้พลังงานกับร่างกาย ชนิดของอาหาร low carb ที่สามารถกินได้เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก มีดังนี้ ไข่ไก่ ชีส เนื้อสัตว์ทุกประเภท น้ำมัน เช่น น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันคาโนล่า เลือกชนิดคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น […]

การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

วิธีลดไขมันหน้าท้อง แบบไหน ได้ผลดี แถมไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ

ลดไขมันหน้าท้อง เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากกว่าส่วนอื่น หรือที่เรียกกันว่าพุง ซึ่งนอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้ว การมีไขมันหน้าท้องสะสมนั้นยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย  แต่รู้หรือไม่ว่ามี วิธีลดไขมันหน้าท้อง ที่อาจช่วยให้ไขมันหน้าท้องค่อยๆ หายไป โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และปฏิบัติตามแนวทางการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด [embed-health-tool-bmi] วิธีลดไขมันหน้าท้อง มีอะไรบ้าง 1. ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจส่งผลให้ไขมันหน้าท้อง หรือพุงเพิ่มขึ้นได้ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์โรคอ้วนลงพุงและการดื่มแอลกอฮอล์ เผยแพร่ในวารสาร European Journal of Nutrition พ.ศ.2550 นักวิจัยได้ให้กลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 27-74 ปี ซึ่งเป็นเพศชายจำนวน 1,491 ราย และเพศหญิงจำนวน 1,563 ราย ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการบริโภคอาหาร รวมทั้งพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ ได้ผลสรุปว่า การดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 3 แก้วต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนลงพุงโดยเฉพาะในเพศชาย 2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ การรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะอักเสบในร่างกาย โรคหัวใจ ภาวะดื้ออินซูลิน การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น ของทอด ครีมเทียม ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ ไม่ใช่แค่ช่วยลดไขมันหน้าท้อง แต่ยังดีต่อสุขภาพหัวใจด้วย งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับไขมันทรานส์ […]

โรคเบาหวานชนิดที่ 2

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือ DM type 2 คือ อะไร

DM type 2 คือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากเซลล์ในร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเรียกว่าภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin resistance) ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การมีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป เมื่ออินซูลินไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น กระหายน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย เหนื่อยง่าย หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษา หรือควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ภาวะเบาหวานขึ้นตา โรคหัวใจ โรคไต ภาวะเส้นประสาทเสื่อม จึงควรหมั่นสังเกตอาการและดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน DM type 2 คือ อะไร DM type 2 หรือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด มีสาเหตุหลักมาจากภาวะดื้ออินซูลิน โดยปกติแล้ว ตับอ่อนจะผลิตอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ออกฤทธิ์กระตุ้นให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายนำน้ำตาลไปเผาผลาญเป็นพลังงาน แต่หากร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลิน จะทำให้การตอบสนองต่ออินซูลินของเซลล์ผิดปกติ จึงไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ตับอ่อนจึงต้องพยายามสร้างอินซูลินเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาชดเชย เมื่อเวลาผ่านไป […]

การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

อาหารไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ ตัวเลือกดีๆ สำหรับคนลดน้ำหนัก

อาหารไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ ส่วนใหญ่มักหมายถึงพืชผักผลไม้ และธัญพืช ซึ่งเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เนื่องจากไฟเบอร์หรือใยอาหารมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำ เมื่อบริโภคเข้าร่างกายจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และอิ่มนาน จึงรู้สึกอยากอาหารน้อยลง ลดโอกาสเสี่ยงในการได้รับพลังงานส่วนเกิน จึงอาจช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น [embed-health-tool-bmr] ไฟเบอร์สำคัญต่อการลดน้ำหนักยังไง ไฟเบอร์ (Fiber) หรือใยอาหาร จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตประเภทหนึ่ง พบได้ในพืชผักผลไม้ และธัญพืช โดยงานวิจัยหลายชิ้นเผยว่า ไฟเบอร์อาจมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากผู้ที่บริโภคอาหารไฟเบอร์สูงมีแนวโน้มจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า และมีน้ำหนักขึ้นน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคอาหารไฟเบอร์ต่ำ เพราะไฟเบอร์ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น บริโภคอาหารได้น้อยลง ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรี่ลดลง หากร่างกายใช้แคลอรี่มากกว่าที่ได้รับ อาจช่วยให้น้ำหนักลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ก็อาจมีผลกระทบต่อผลการวิจัยนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ อาหารไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ มักทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และใช้เวลาไม่นานหลังบริโภคระดับน้ำตาลในเลือดกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกอยากอาหาร ในขณะที่การบริโภคอาหารไขมันสูงหรือน้ำตาลสูง จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความอยากอาหารมากขึ้นโดยเฉพาะของหวาน ส่งผลให้ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน อาหารไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ มีอะไรบ้าง หากต้องการเพิ่มไฟเบอร์ให้ร่างกาย แบบแคลอรี่ไม่เพิ่มสูงขึ้น ควรบริโภคอาหารไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ ได้แก่ ผักใบเขียว ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ปวยเล้ง สวิสชาร์ด (Swiss Chard) ผักกาดเขียว […]

โรคหัวใจ

อาการโรคหัวใจ ปัจจัยเสี่ยงและวิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

อาการโรคหัวใจ ส่วนใหญ่แล้วมักมีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก แขนขาชา โดยอาจมีสาเหตุแตกต่างกันตามประเภทของโรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการโรคหัวใจ ควรศึกษาวิธีการดูแลสุขภาพหัวใจ คอยสังเกตอาการผิดปกติ หรือขอคำแนะนำจากคุณหมอ และควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี [embed-health-tool-heart-rate] อาการโรคหัวใจ อาการโรคหัวใจ อาจแตกต่างกันออกไปตามประเภทของโรคหัวใจที่เป็น ดังต่อไปนี้ โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นโรคหัวใจประเภทหนึ่งที่พบได้บ่อย อาจมีสาเหตุมาจากไขมันสะสมในหลอดเลือด และอาจพัฒนาทำให้เกิดคราบจุลินทรีย์หรือคราบพลัค (Plaque) ที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัว ขวางทางเดินของเลือดและส่งผลให้หลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจอุดตัน ที่และอาจก่อให้เกิดอาการโรคหัวใจ ดังนี้ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หายใจถี่ ปวดเมื่อยบริเวณคอ ท้องส่วนบน และหลัง รู้สึกปวดและชาบริเวณแขนและขา โรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น หัวใจติดเชื้อ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคกล้ามเนื้อหัวใจพิการ การฉายรังสี และเคมีบำบัดรักษามะเร็ง ที่ส่งผลกระทบการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจในการสูบฉีดเลือด ซึ่งอาจมีอาการโรคหัวใจดังต่อไปนี้ หัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่น หายใจไม่อิ่มในขณะที่ทำกิจกรรมหรือนอนพักผ่อน ขาและข้อเท้าบวม รู้สึกเหนื่อยล้า วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และเป็นลม โรคลิ้นหัวใจ โรคลิ้นหัวใจ โดยส่วนมากเกิดจากความเสื่อมของลิ้นหัวใจในผู้สูงอายุเช่นลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ หรือลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว ในผู้ป่วยบางรายอาจมีความเชื่อมโยงกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือเนื้อเยื่อของลิ้นหัวใจมีความหย่อนผิดปกติ (Barlow’s disease) […]

โรคเบาหวานชนิดที่ 2

6 พฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานที่พบบ่อย เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป แต่ไม่สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ เนื่องจากตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอ ซึ่งอินซูลินมีหน้าที่ในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน นำไปสร้างเป็นกล้ามเนื้อและเลี้ยงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เมื่อเซลล์ได้รับน้ำตาลน้อยลง ก็อาจทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ  ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกาให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 90%-95% เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่อาจพบได้บ่อยในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ โดยผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ออกกำลังกาย และปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากขึ้น โรคเบาหวานอาจส่งผลต่ออวัยวะสำคัญในร่างกาย เช่น หัวใจ หลอดเลือด เส้นประสาท ดวงตา ไต ดังนั้น หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน ก็อาจมีแนวโน้มเป็นโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต 6 พฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 […]

โฆษณา
เครื่องวัดค่าดัชนีมวลกาย BMI

เครื่องวัดค่าดัชนีมวลกาย BMI

avatar
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

หมายเหตุ

เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพนี้ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์แต่อย่างใด แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ อย่าละเลยคำแนะนำของแพทย์เพียงเพราะสิ่งที่คุณได้อ่านใน Hello คุณหมอ เท่านั้น หากคุณเป็นโรคการกินผิดปกติ ก็ไม่สามารถใช้เครื่องคำนวณ BMI เพื่อตรวจเช็กสุขภาพได้ โปรดรับคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เช็กความเสี่ยงสุขภาพของคุณ

เช็กความเสี่ยงโรคแทรกซ้อนอาจเกิดจากโรคอ้วน ด้วยแบบประเมินความเสี่ยงของเรา